เมื่อ 4 ก.พ.ที่ผ่านมาเจ้ากระทรวง ไอซีทีอย่าง "ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี" ได้โอกาสเปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยอินเทอร์เน็ต (Internet Security Operation Center : ISOC) พร้อมๆ กับการประชุมของคณะกรรมการอำนวยการกำหนดนโยบายเพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ผิดกฎหมายและไม่ เหมาะสมผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี โดยมีตัวแทนจากกระทรวงกลาโหม มหาดไทย ยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ สภาความมั่นคง ตำรวจ และ 3 เหล่าทัพ
น่าจะเรียกว่าเป็นการแสดงผลงานแรกที่ขานรับนโยบายรัฐบาล และเป็นการออก งานครั้งแรกๆ ในฐานะเจ้ากระทรวง นอกเหนือจากงานวันเด็กของรัฐวิสาหกิจใต้สังกัด และงานเปิดไปรษณียาคารจำลอง ของบริษัทไปรษณีย์ไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ศูนย์ ISOC ถือเป็นวอร์รูมที่ไอซีทีจัดตั้งขึ้นเพื่อติดตามและเฝ้าระวังเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลไม่เหมาะสม ทั้งการเฝ้าระวังเนื้อหาที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม และการพนันทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงเนื้อหาของเกมออนไลน์ ซึ่งศูนย์นี้ได้ดัดแปลงมาจากศูนย์ปฏิบัติการเดิมที่กระทรวงได้เช่าระบบและพื้นที่จาก บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
ด้าน นายอังศุมาล ศุนาลัย รองปลัดกระทรวงไอซีที เปิดเผยว่า ทีโอทีได้ปรับปรุงห้อง ISOC โดยว่าจ้างบริษัทเอกชนมาจัดทำระบบซอฟต์แวร์ของศูนย์ เฝ้าระวัง รวมถึงการวางระบบการทำงาน และได้มีการจัดซื้อจอวิดีโอวอลล์ขนาด 60 นิ้ว และจอแอลซีดีอีก 6 จอ และโน้ตบุ๊กอีกประมาณ 10 เครื่อง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมขอเลขหมายพิเศษ 1122 จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เพื่อเป็น ช่องทางให้ประชาชนโทร.แจ้งเมื่อพบเว็บไซต์ไม่เหมาะสม
ขณะที่แหล่งข่าวภายในกระทรวงไอซีทียืนยันว่า โครงการนี้ใช้งบประมาณมากกว่า 45 ล้านบาทแล้ว แค่เพียงการติดตั้งจอวิดีโอวอลล์หน้าจอทัชสกรีนเต็มพื้นที่ผนังด้านหนึ่งของห้องก็ใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท และยังมีค่าติดตั้งระบบซอฟต์แวร์สำหรับการเฝ้าระวังเว็บไซต์ที่พัฒนาโดยเอกชนไทยรายหนึ่ง ซึ่งในส่วนนี้จะมีนายไพโรจน์ สุวรรณฉวี สามีของรัฐมนตรีที่มาช่วยงานที่กระทรวงไอซีทีประจำได้เข้ามาเป็นผู้ดูแลควบคุมสเป็ก อุปกรณ์ทั้งหลาย
ขณะที่มีข้อสงสัยว่าอุปกรณ์อย่างจอวิดีโอวอลล์แบบทัชสกรีนขนาด 60 นิ้ว ติดตั้งไว้เพื่ออะไร
"โดยทีโอทีจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการติดตั้งไปก่อน แต่แน่นอนว่ากระทรวงจะต้องจ่ายคืน ตอนนี้กระทรวงยังไม่รู้ว่าจะหางบฯที่ไหนมาโปะ ที่สำคัญคืออีกไม่กี่เดือนกระทรวงจะต้องย้ายออกจากตึกทีโอทีไปอยู่ที่ศูนย์ราชการแล้ว ก็มีแนวโน้มว่าจะต้องย้ายห้องวอร์รูมไปด้วย เท่ากับต้องเสียงบประมาณเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ใหม่อีกรอบ"
ขณะที่ ร.ต.หญิงระนองรักษ์กล่าวยืนยันว่า การปรับปรุงห้องจนวันนี้ยังไม่ได้ใช้เงินแม้แต่สลึงเดียว เพราะเป็นการใช้อุปกรณ์เดิมที่กระทรวงไอซีทีได้เช่าระบบและห้องจากบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เดือนละ 1.15 ล้านบาทอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่มีการปรับปรุงห้องใหม่ รวมถึงงบประมาณดำเนินการหลังจากเปิดให้บริการอย่างเต็มที่แล้วนั้น ต้องรอผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯอีกครั้ง ว่าจะใช้ งบประมาณจำนวนเท่าใด เพราะขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน
ขณะที่ความคืบหน้าของการแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งหลายฝ่ายได้เรียกร้องให้มีการแก้ไขให้รัดกุมมากขึ้นนั้น นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีที เปิดเผยว่า นิติกรของกระทรวงได้ร่างฉบับแก้ไขเพิ่มเติมเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยกระทรวงได้ขอแก้ไขเฉพาะในส่วนที่เป็นปัญหาเร่งด่วน คือการขอให้กระทรวงมีอำนาจสั่งปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลที่ผิดกฎหมายได้ทันที ในระหว่างกระบวนการขอให้ศาลมีคำสั่งปิดเว็บไซต์ดังกล่าว เพื่อไม่ให้ข้อมูลถูกทำให้แพร่หลาย เนื่องจากในปัจจุบันกระทรวงต้องใช้วิธีขอความร่วมมือจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ซึ่ง อาจจะช่วยหรือไม่ก็ได้
ที่มา:
http://www.matichon.co.th