นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดการเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมว่า ได้มอบหมายให้นายอังสุมาล ศุนาลัย รองปลัดกระทรวงไอซีที เป็นผู้ดูแลด้านเทคนิค ดูข้อมูลประกอบการพิจารณาความผิดและนำข้อมูลดังกล่าวไปยื่นฟ้องศาลให้มีคำสั่งปิดเว็บไซต์ อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีผู้แทนของส่วนราชการทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ เริ่มเข้ามาทำงานในศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต หรือ Internet Security Operation Center (ISOC) บ้างแล้ว ทำให้การดำเนินงานต่างๆ คล่องตัวมากขึ้น
ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวต่อว่า ศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวเน้นความมั่นคงของประเทศ ศิลปะวัฒนธรรม และเว็บการพนันข้ามชาติ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เปิดศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ทางศูนย์ฯได้ตรวจพบเว็บโป๊กว่า 200 URL โดยทางกระทรวงไอซีทีพยายามหาหลักฐานเพื่อยื่นฟ้องศาลให้ปิดเว็บไซต์ดังกล่าว
“เมื่อก่อนกระทรวงฯปล่อยปละละเลยเว็บโป๊เลยโผล่มากขึ้น อีกทั้งการละเลยเรื่องดังกล่าวจึงทำให้มีการขายบริการทางเพศผ่านเว็บไซต์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงฯได้เพิ่มการดูแลในส่วนของเว็บโป๊ให้มีความเข้มงวดขึ้น โดยกระทรวงฯสามารถดำเนินการได้ 2 ลักษณะคือ 1.ประสานกับ ISP ให้ปิดเว็บโป๊ที่โจ่งแจ้งก่อน แล้วค่อยยื่นเรื่องฟ้องศาลให้สั่งปิด 2.กระทรวงฯยื่นเรื่องฟ้องศาลให้มีคำสั่งปิดเว็บไซต์ดังกล่าว แต่การดำเนินการขั้นกฎหมายสำหรับเว็บขายบริการเป็นอำนาจของตำรวจ กระทรวงฯเป็นเพียงผู้หาหลักฐานให้ตำรวจดำเนินคดี” นายสือ กล่าว
ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวถึงการแบ่งหน้าที่ระหว่างกระทรวงไอซีทีและกระทรวงวัฒนธรรมว่า กระทรวงไอซีทีจะดูเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ทั้งหมด ส่วนกระทรวงวัฒนธรรมจะดูเรื่องเกมออนไลน์ วิดีโอ วิดีทัศน์ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวทางกระทรวงวัฒนธรรมมีกฎหมายรองรับอยู่ อย่างไรก็ตามสำหรับ 5 มาตราการในการปิดกั้นเว็บไซต์หมิ่นพระบรมเดชานุภาพของนายมั่น พัธโนทัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที นั้นขณะนี้กระทรวงยังมีการดำเนินการร่วมกับนโยบายของ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีกระทรวงไอซีทีคนปัจจุบันควบคู่กันไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 5 มาตรการในการปิดกันเว็บหมิ่นของอดีตรมว.ไอซีที ได้แก่ 1.ให้ ISP ร่วมมือปิดกั้นเว็บไซต์ที่เผยแพร่เนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทันทีที่พบเห็น 2.ให้ ISP สืบค้นหาตัวผู้กระทำผิดทุกครั้งก่อนการปิดกั้นเว็บไซต์ 3.กระทรวงไอซีทีจะพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิดและเสนอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดี และขอความร่วมมือ ISP นำรายชื่อผู้กระทำผิดขึ้นบัญชีและนำประกาศเผยแพร่ตามเว็บไซต์ต่างๆ 4.หากกระทรวงไอซีที ตรวจพบว่า ISP รายใดไม่ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม ตามที่กระทรวงไอซีที มีหนังสือแจ้งเตือนไป 2-3 ครั้ง จะแจ้งให้ กทช เพิกถอนใบอนุญาตทันที 5.สำหรับ ISP ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูและของภาครัฐ ได้แก่ บริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT และบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ ทีโอที ให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด
ที่มา:
http://www.thairath.co.th