ระบบปฏิบัติการซิมเบียนของโนเกียส่อแววอ่วมปีหน้า เพราะการสำรวจชี้ว่าซิมเบียนกำลังทยอยเสียส่วนแบ่งการตลาดและความจงรักภักดีของผู้บริโภคไปอย่างน่าเป็นห่วง ล่าสุดนักวิเคราะห์ฟันธง ปี 2011 คือปีที่โทรศัพท์มือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลจะมีจำนวนมากที่สุดในพื้นที่ยุโรป และไอโอเอส ระบบปฏิบัติการที่ใช้ในไอโฟนของแอปเปิลสามารถครองแชมป์ระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือที่มัดใจผู้บริโภคได้มากที่สุด
ข้อมูลจากบริษัทวิจัยไอดีซี (IDC) ระบุว่า ไตรมาส 3 ปี 2010 โทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์นั้นมีสัดส่วนเป็น 23% ของการจัดส่งทั้งหมดในตลาดยุโรปตะวันตก ตามหลังระบบซิมเบียนที่มีส่วนแบ่ง 34% และไอโฟน 24% จุดนี้นักวิเคราะห์ฟรานซิสโก เจโรนิโม เชื่อว่าแอนดรอยด์จะสามารถแซงหน้าทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการขึ้นเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคยุโรปภายในปีหน้า
เจโรนิโมวิเคราะห์เรื่องนี้จากทิศทางการการจัดส่งสมาร์ทโฟนสู่ภูมิภาคยุโรปในปีหน้า โดยพบว่า 39% ของสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่วางจำหน่ายในยุโรปตะวันตกตลอด 9 เดือนที่ผ่านมานั้นเป็นแบรนด์เอชทีซี ขณะที่ 27% เป็นของโซนี่อีริคสัน รองลงมาคือ 14% จากซัมซุง ซึ่งทั้งหมดส่งสัญญาณพร้อมเดินเครื่องยิ่งขึ้นในปีกระต่ายที่จะถึงนี้
ยุโรปถือเป็นภูมิภาคที่ 2 ที่แอนดรอยด์เป็นที่นิยมมากกว่าซิมเบียน โดยการสำรวจจากบริษัทวิจัยการตลาดจีเอฟเค (GFK) พบว่าระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียกลายเป็นแอนดรอยด์ไปเรียบร้อยแล้วทั้งจำนวนเครื่องและมูลค่า ถือเป็นอีกตัวเลขที่ยืนยันการเสียแชมป์ของซิมเบียนได้ในระดับหนึ่ง
นอกจากซิมเบียนจะมีแนวโน้มพ่ายแพ้ในมุมมองส่วนแบ่งตลาด การสำรวจล่าสุดพบว่าซิมเบียนยังพ่ายแพ้ต่อไอโฟนในมุมมองความจงรักภักดีของผู้บริโภค โดยจีเอฟเคพบว่าผู้ใช้ไอโฟนนั้นมีความจงรักภักดีในแบรนด์มากเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการค่ายอื่น ตัวเลขอ้างอิงคือ 59% ของผู้ใช้ไอโฟนมีแผนใช้งานโอเอสเดิมต่อไป เข้มแข็งกว่าผู้ใช้แอนดรอยด์ที่ 28% ระบุว่าจะใช้งานแอนดรอยด์ต่อไป
จีเอฟเคพบว่า แบล็กเบอรีคือระบบปฏิบัติการที่มีผู้จงรักภักดีมากเป็นอันดับ 2 โดยผู้ใช้บีบีมากกว่า 35% ระบุว่าจะยังคงเลือกซื้อบีบีต่อไปไม่เปลี่ยนใจ ขณะที่แอนดรอยด์มีผู้ใช้เพียง 28% เท่านั้นที่รักเดียวใจเดียว
สำหรับซิมเบียนซึ่งเป็นแชมป์ระบบปฏิบัติการอันดับ 1 ในตลาดโลกขณะนี้ นั้นมีกลุ่มผู้จงรักภักดีในแบรนด์ราว 24% ซึ่งยังดีกว่าระบบปฏิบัติการวินโดวส์โมบายที่มีอยู่ 21%
จีเอฟเคดำเนินการทดสอบนี้โดยการสัมภาษณ์ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 2,653 รายในประเทศบราซิล เยอรมนี สเปน อังกฤษ สหรัฐฯ และจีน โดยพบว่าความจงรักภักดีในระบบปฏิบัติการของผู้บริโภคคิดเป็นค่าเฉลี่ย 25% โดย 37% ของกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์มือถือธรรมดาระบุว่าจะหันมาซื้อสมาร์ทโฟนในการซื้อโทรศัพท์เครื่องต่อไป
ผลสำรวจตลาดสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียในไตรมาส 3 พบว่ามีอัตราการเติบโตมากกว่าไตรมาส 3 ปี 2009 ถึง 270% ถ้าคิดรวมเป็นมูลค่าแล้วไม่ต่ำกว่า 1.48 พันล้านเหรียญสหรัฐ บนจำนวนของสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายในไตรมาส 3 ของภูมิภาคเอเชียทั้ง 4.7 ล้านเครื่อง
ที่มา: manager.co.th