"อิออน"ร่วมวงธุรกิจมือถือขอทีโอทีทำ"MVNO"

[Nick]

"MVNO 3G" ของทีโอทีเนื้อหอม ยักษ์ "อิออน" เสนอตัวช่วยทำตลาด 3G ด้วยอีกราย "เงินพร้อม-ช่องทางการกระจาย สินค้า" แน่นปึ้ก บิ๊ก "ทีโอที" เผยเร่งเต็มสูบ แก้สารพัดปมขับเคลื่อน 3G เผยเจรจาโรมมิ่งเครือข่ายกับ "เอไอเอส" ลงตัว คาดเซ็นสัญญาเร็ว ๆ นี้ พร้อมเสนอแผนลงทุนโครงข่ายทั่วประเทศให้ รมว.ไอซีทีพิจารณาแล้ว มั่นใจปรับแก้จนเป็นที่พอใจทุกฝ่าย



นายวรุธ สุวกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้มีผู้เสนอตัวขอเป็นผู้เช่าใช้โครงข่ายให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G เพื่อให้บริการในลักษณะ MVNO เพิ่มเติมอีก 2 ราย ซึ่งผู้ที่มีการเจรจาคืบหน้าที่สุดได้แก่ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) อีกรายเพิ่งเริ่มเจรจาจึงยังไม่ขอเปิดเผย แต่การจะอนุมัติให้อิออนเป็น MVNO หรือไม่ อาจต้องใช้เวลาอีกระยะ หนึ่ง แม้อิออนจะมีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนและช่องทางกระจายสินค้า แต่ทีโอทียังมีข้อกังวลเรื่องความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทีโอทีต้องนำมาพิจารณาด้วย เนื่องจากปัจจุบันพนักงานในศูนย์บริการลูกค้าของทีโอทียังมีไม่เพียงพอจะเข้ามาดูแลปัญหาที่เกิดจากการให้บริการ 3G กับลูกค้า หาก MVNO กระจายสินค้าออกไปมาก แต่ไม่สามารถเข้ามาช่วยดูแลลูกค้าได้อาจเป็นภาระและทำลายภาพลักษณ์ของบริการด้วย

"ต้องยอมรับว่า ทีโอทียังมีจุดอ่อนตรงนี้ ซึ่งเรากำลังหาทางแก้ไขด้วยการหา MVNO เข้ามาซัพพอร์ต รวมถึงเป็นการเตรียมพร้อมในการให้บริการ 3G แบบทั่วประเทศ ด้วย ซึ่งหาก ครม.อนุมัติโครงการแล้วจะเร่งเปิดให้บริการใน 12 จังหวัดใหญ่ทางเศรษฐกิจก่อน แต่ด้วยสถานะของทีโอทีขณะนี้ไม่พร้อมที่จะต้องจ้างพนักงานเพิ่มเพื่อมาดูแลลูกค้า 3G ประจำแต่ละศูนย์บริการ เนื่องจากปัจจุบันมีจำนวนพนักงานกว่า 2 หมื่นคน และการจ้างพนักงานเพิ่มล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายสูง"

แหล่งข่าวระดับสูงจาก บมจ.ทีโอทีเปิดเผยว่า หลักเกณฑ์ในการคัดเลือก MVNO จำเป็นต้องดูทั้งความสามารถในการกระจายสินค้า ศักยภาพในการทำตลาดและการให้บริการ ซึ่งอิออนมีความได้เปรียบสูง แต่ความสามารถด้านเทคนิคยังไม่แน่ใจ ต้องใช้เวลาศึกษาร่วมกันอีกสักระยะ ที่สำคัญคือทีโอทีไม่อยากให้ MVNO ทุกรายมองตลาดลูกค้ากลุ่มเดียวกันทั้งหมด เพราะสุดท้ายจะเป็นการแย่งตลาดกันเอง ทำให้ตลาดของทีโอทีไม่สามารถขยายตัวได้ ขณะนี้จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่า การเจรจากับอิออนจะได้ข้อยุติเมื่อใด

ขณะที่ปัญหาการโรมมิ่งโครงข่ายระหว่างทีโอที 3G กับเอไอเอสนั้น ล่าสุดกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอทีเปิดเผยว่า การเจรจาได้ข้อยุติแล้ว คือ เอไอเอสยินดีให้ลูกค้าทีโอที 3G เข้าไปโรมมิ่งใช้โครงข่ายของเอไอเอสได้จำนวน 2 แสนเลขหมาย แลกกับการให้ลูกค้าของเอไอเอสเข้าไปโรมมิ่งใช้งานดาต้าบนโครงข่าย 3G ของทีโอทีได้ 5 หมื่น เลขหมาย โดยขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของทั้ง 2 รายกำลังร่างสัญญาที่จะต้องเซ็นร่วมกัน

การเจรจาโรมมิ่งกับเอไอเอสแม้จะสร้างความไม่พอใจให้ผู้เช่าใช้โครงข่าย (MVNO) ของทีโอทีทั้ง 5 รายเดิม ได้แก่ บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย บมจ.ไออีซี บมจ.ล็อกซ์เล่ย์ บริษัท เอ็มคอนเซ้าท์เทน จำกัด และบริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น แต่เนื่องจากทุกรายได้เซ็นสัญญาร่วมกันแล้วจึงไม่อาจปฏิเสธหรือคัดค้านการตัดสินใจของทีโอทีได้

ส่วนความคืบหน้าของแผนการลงทุนโครงข่ายให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยระบบ 3G ทั่วประเทศ ขณะนี้ได้เสนอให้รัฐมนตรีกระทรวงไอซีที นายจุติ ไกรฤกษ์ พิจารณาเพื่อเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มั่นใจว่าได้แก้ไขรายละเอียดโครงการจนเป็นที่พอใจของ ทุกฝ่ายแล้ว โดยรัฐมนตรีไอซีทีรับปากว่า จะดำเนินการให้ทั้งโครงการ 3G และโครงการโครงข่ายอัจฉริยะ NGN คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนให้เริ่มดำเนินโครงการได้ภายใน 4 เดือนนี้แน่นอน

สำหรับการให้บริการ 3G ของทีโอทีในปัจจุบันมีผู้ใช้บริการอยู่ราว 1 แสนราย จากที่ขายซิมให้ผู้เช่าใช้โครงข่าย (MVNO) ไปแล้ว 3 แสนเลขหมาย โดยมี บมจ.สามารถ ไอ-โมบายเป็น MVNO ที่ขายซิมได้มากที่สุด แม้ที่ผ่านมายอมรับว่า การดำเนินงานผิดไปจากเป้าหมายที่วางไว้ ว่าจะขายซิมให้หมด 5 แสนเลขหมาย เต็มศักยภาพของโครงข่ายภายใน 6 เดือน หลังเปิดให้บริการเมื่อ 3 ธ.ค. 2552 เนื่องจากการลงทุน โครงข่ายทั่วประเทศได้ล่าช้าออกไป ทำให้ ผู้บริโภคตัดสินใจยังไม่ซื้อ

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของทีโอที รายได้รวมอยู่ที่ราว 18,500 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ประมาณ 17,700 ล้านบาท กำไรสุทธิราว 2,500 ล้านบาท


ที่มา: prachachat.net