Author Topic: โมเดิร์นเทรดโกยยอดแรงฉุดไม่อยู่ ร้านตู้หนีตายซื้อมาขายต่อ-"เชนสโตร์"ขยับขึ้นบน  (Read 961 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

"โมเดิร์นเทรด" มาแรงสุดๆ กินส่วนแบ่งตลาดมือถือ 30-35% "TWZ" ชี้ "โลตัส- บิ๊กซี-คาร์ฟูร์" ยอดขายโตกว่า 20% หลังจับมืออินเตอร์แบรนด์ถล่มโปรโมชั่นปั๊มดึงลูกค้าเข้าห้าง-กวาดยอดอุตลุด เกิดปรากฏ การณ์ร้านค้าย่อยแห่กว้านซื้อสินค้ามาขายต่อ ทุบตู้อ่วม ฟากเชนสโตร์ดัง "ทีจีโฟน-เจมาร์ท" เผย 2 เดือนแรกของปีตลาดทรงตัว หันโฟกัสเฮ้าส์แบรนด์ดันอินเตอร์ แบรนด์จับตลาดกลาง-บน เชื่อร้านเล็กหืดจับ เหตุกำลังซื้อตลาดล่างหดหาย


นายไพโรจน์ ถาวรสภานันท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีจีโฟน จำกัด เจ้าของเชนสโตร์ "ทีจีโฟน" กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตลาดโทรศัพท์มือถือใน 2 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในภาวะทรงตัว โดยยอดขายในเดือน ม.ค.มีประมาณ 8 แสนเครื่อง ขณะที่ ก.พ.ที่ผ่านมาน้อยกว่าเล็กน้อยที่ 7.3-7.5 แสนเครื่อง ซึ่งในแง่ยอดรวมถือว่ายังพอไปได้ เพียงแต่การกระจายตัวของยอดขายแตกต่างไปจากเดิม

แบ่งเป็นโมเดิร์นเทรด อาทิ โลตัส, บิ๊กซี และคาร์ฟูร์ 30-35%, เชนสโตร์มือถือ-ไอที 20-25% และดีลเลอร์ทั่วไป 45% จากเดิมที่โมเดิร์นเทรดกับเชนสโตร์รวมกันมีสัดส่วน 40%

ที่ผ่านมาโมเดิร์นเทรดมีโปรโมชั่นหนักขึ้นและต่อเนื่อง เพราะต้องการดึงคนเข้าห้างและดึงลูกค้าจากคู่แข่ง ขณะที่ผู้ผลิต สินค้าแบรนด์ต่างๆ ก็ต้องการส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจึงนำสินค้าเข้าไปทำตลาดผ่านโมเดิร์นเทรดมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าโลว์เอนด์ที่มีราคาประมาณ 2.5 พันบาท ทำให้ปัจจุบันมีดีลเลอรหันมากว้านซื้อสินค้าจากโมเดิร์นเทรดนำไปขายต่อ ส่งผลให้ผู้ค้าส่งมือถือและค้าปลีกมียอดขายตกลง รวมถึงต้องปรับตัวหันมาขายเฮาส์แบรนด์แทน

"ในไตรมาส 2 คาดว่าทิศทางการขายในโมเดิร์นเทรดจะยังเหมือนเดิม แต่ไตรมาส 3 อาจเริ่มทรงตัว มีสัดส่วน 55-60% ไม่โตขึ้นกว่านี้ เพราะระบบการจำหน่ายใหม่ของ แต่ละแบรนด์เริ่มลงตัว ซึ่งสัดส่วนการขายผ่านดีลเลอร์ไม่ควรเกิน 40% เพื่อรักษาสภาพตลาด"

สำหรับช่องทางเชนสโตร์รวมถึงทีจีโฟนยังเป็นช่องทางจำหน่ายที่มีอำนาจต่อรองกับแบรนด์มากกว่าดีลเลอร์รายเล็ก จึงไม่ได้รับผลกระทบ แม้จะนำสินค้ารุ่นโลว์เอนด์มาทำตลาดบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟโมเดล มีจำนวนไม่มาก รวมถึงเชนสโตร์เน้นเฮาส์แบรนด์ของตน โฟกัสสินค้าระดับกลางถึงบนเป็นหลักจึงสู้กับโมเดิร์นเทรดได้

"แม้แบรนด์จะได้มาร์เก็ตแชร์จาก โมเดิร์นเทรด แต่รายได้หรือการเปิดตัว สินค้าใหม่ๆ ยังมาจากเชนสโตร์ ทำให้ตอนนี้แต่ละแบรนด์หันมาสนับสนุนเชนสโตร์มากขึ้นกว่าแต่ก่อน เข้ามาใกล้ชิด มอนิเตอร์ทุกสัปดาห์ ขณะที่ตลาดรวมต้องรอดูไตรมาส 2 ถ้ายอดไม่ตก เชื่อว่าไปถึง 9 ล้านเครื่องเทˆาปีที่แล‰ว"

ด้านนายพุทธชาติ รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า 2 เดือนที่ผ่านมาในส่วนร้านค้าปลีกพบว่าผู้บริโภคประหยัดและรัดเข็มขัดมากขึ้น อาจลดการซื้อสินค้าโมเดลใหม่ หรือราคา 3-4 พันบาท แทนราคามากกว่า 5 พันบาทขึ้นไป ตลาดระดับกลางขึ้นไปอาจได้รับผลกระทบ โดยปัจจุบันมือถือต่ำกว่า 5 พันบาท มีส่วนแบ่ง 70-80%

และผู้เล่นรายใหญ่ที่มีบทบาทในการขายสินค้าในปัจจุบันคือกลุ่มโมเดิร์นเทรด มีการเล่นราคาอย่างหนัก เน้นสินค้าระดับกลางถึงล่าง บางรายจัดโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 หรือแถมคูปอง 1,000-1,200 บาท เพื่อระบายสินค้าตกรุ่นหรือค้างสต๊อก และดึงลูกค้าเข้าห้างจึงอาศัยราคากระตุ้นทำให้ระบบตัวแทนจำหน่ายมือถือและดีลเลอร์รายเล็กได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

"รุ่นที่ขายผ่านโมเดิร์นเทรดมักเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม แต่มีการลดราคา 5-10% หรือรุ่นราคาถูกมากๆ ไม่ถึงพันบาท ดีลเลอร์ที่มีสินค้ารุ่นเดียวกับที่ขายในโมเดิร์นเทรดจะขายได้ยากขึ้น"

ทั้งนี้สัดส่วนยอดขายผ่านโมเดิร์นเทรดในปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้น 20% จากเดิมที่โตน้อยมาก และ80-90% ที่ซื้อผ่านโมเดิร์นเทรดกลับเป็นดีลเลอร์รายเล็กหรือตู้ขาย มือถือในต่างจังหวัด โดยจะซื้อหลายสิบเครื่องเพื่อนำไปขายต่อต่างอำเภอ

นอกจากนี้ผู้ผลิตแต่ละแบรนด์ยังต้องการทำตลาดผ่านโมเดิร์นเทรดเพื่อลดภาระในการชดเชยราคาให้ร้านค้า (price protection)เจ้าของแบรนด์จึงนิยมใช้โมเดิร์นเทรดระบายสินค้า

ใน 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเดือนละ 5-8 หมื่นเครื่อง และไม่ได้รับผลกระทบจากโมเดิร์นเทรด เพราะเน้นขาเฮาส์แบรนด์ TWZ และต่อไปจะโฟกัสการขายมือถือ TWZ ต่อเนื่อง โดยเพิ่มสินค้าที่มีฟังก์ชั่นใหม่ๆ เช่น วิดีโอ แชต เพื่อสร้างดีมานด์และกระตุ้นตลาด เน้นสินค้าระดับกลางถึงล่าง โดยเฉพาะราคา 3 พันบาท เพื่อบาลานซ์ยอดขายและรายได‰บริษัท ตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ 30%

ขณะที่นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ ผู้อำนวยการบริหารสายงานการตลาดและการขาย บริษัท เจ มาร์ท (จำกัด) กล่าวว่า ตลาดรวมทรงตัวเพราะปัจจัยเศรษฐกิจ แต่เซ็กเมนต์สินค้าราคาประมาณพันบาทโตลดลง เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อน้อยและได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาด ระดับกลางโตขึ้นจากเฮาส์แบรนด์ รวมถึงราคามากกว่าหมื่นบาทโตขึ้นเล็กน้อย

"ตอนนี้บางแบรนด์นำสินค้าบางรุ่นขายโมเดิร์นเทรด เพราะโมเดิร์นเทรดซื้อกันหลักแสนเครื่อง ซัพพลายเออร์ต้องการขาย เพราะได้ปริมาณ มีดีลเลอร์ซื้อไปขายต่อ เพราะถูกกว่าที่ขายทั่วไป การซื้อขายช่วงนี้จึงบิดเบือน ไม่ใช่คอนซูเมอร์จริง"

แต่ไม่กระทบเจมาร์ท เพราะไม่มีสินค้าราคาต่ำกว่าพันบาท และไม่โฟกัสสินค้าโลว์เอนด์จะเน้นตลาดระดับกลางถึงบน ราคาประมาณ 4 พันบาท เจโฟน ราคา 2-6 พันบาทและมากกว่าหมื่นบาทขึ้นไปมากกว่า

ที่มา: matichon.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
7259 Views
Last post February 14, 2009, 12:00:18 AM
by Webmaster
0 Replies
3248 Views
Last post February 21, 2009, 09:50:39 AM
by Nick
0 Replies
4023 Views
Last post March 03, 2009, 06:03:22 PM
by Reporter
0 Replies
5998 Views
Last post March 03, 2009, 06:05:12 PM
by Reporter
0 Replies
4441 Views
Last post March 03, 2009, 06:06:33 PM
by Reporter
0 Replies
2690 Views
Last post March 06, 2009, 11:17:31 PM
by Reporter
0 Replies
2593 Views
Last post March 10, 2009, 08:43:28 AM
by Reporter
0 Replies
1889 Views
Last post March 10, 2009, 10:03:22 AM
by Reporter
0 Replies
2171 Views
Last post March 13, 2009, 03:57:06 PM
by Reporter
0 Replies
2469 Views
Last post March 13, 2009, 05:36:43 PM
by Reporter