เอไอเอสเผย 3G 2100 MHz ทำให้การใช้แอปพลิเคชันเพิ่ม 10-15% พร้อมต่อยอด AIS The StartUp 2014 ด้วยธีม Growing with Partnership พร้อมเปิดโอกาสให้นักคิดที่พร้อมต่อยอดไปสู่การทำธุรกิจได้จริงร่วมส่งผลงานเข้าแข่งขันใน 3 หมวด ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 39 ล้านบาท ชี้การทำสตาร์ทอัปแบบเอไอเอสไม่ได้มุ่งหวังกำไรเพราะไม่ได้ร่วมทุน เพียงแต่ต้องการต่อยอดแอปพลิเคชันให้ลูกค้าใช้งาน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริการ นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานผลิตภัณฑ์และบริการดิจิตอล เอไอเอส เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาหลังจากได้มีการเปิดให้บริการ 3G 2100 MHz และมีการขยายเครือข่ายไปครอบคลุมทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสในการเข้าถึงแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10-15% ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เอไอเอสจึงได้จัด AIS The StartUp 2014 ในธีม Growing with Partnership ขึ้น เพื่อจัดหาแอปพลิเคชันใหม่ๆ ตอบสนองกลุ่มลูกค้า
ปัจจุบันความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อสตาร์ทอัปไทยเป็นแนวโน้มที่ดี มีการสนใจที่จะลงทุนเพราะฝีมือดีแต่ลงทุนต่ำ รวมทั้งยังเป็นตลาดใหม่ที่ยังมีโอกาสการเติบโต ทำให้นักลงทุนอย่างอเมริกา สิงคโปร์ มีความสนใจที่จะลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ประกอบกับที่ผ่านมาโครงการ AIS The StartUp ประสบผลสำเร็จ สามารถสร้างผู้ประกอบการดิจิตอลหน้าใหม่ ที่มีแอปพลิเคชันและบริการออกมาให้บริการแก่ผู้ใช้มือถือเป็นจำนวนมาก เช่น ทีม ShopSpot, Noonswoon, the Trip Packer, Buzzebees, FOURLEAF เป็นต้น
“หลังจากที่ได้ทดลองมา 2 ปี เอไอเอสรู้ว่าควรจะมองหาคนที่มีความสามารถและนำเข้าสู่ตลาดได้ทันทีไม่ต้องรอ แล้วแต่ความพร้อมของแต่ละราย ไม่ได้เน้นปริมาณ แต่เน้นการไม่ซ้ำซ้อนกับสิ่งที่มีอยู่ ดังนั้นต้องสังเกตเป็นปีต่อปีว่าต่อไปตลาดต้องการอะไร และจะตอบสนองอย่างไร ทั้งนี้ การจัดโครงการดังกล่าวเอไอเอสไม่ได้คาดหวังรายได้แต่ต้องการจะสร้างให้เป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้ามากกว่า จากสมัยก่อนที่เราต้องผลิตขึ้นมาเอง ซึ่งอาจมองข้ามพฤติกรรมบางอย่างไป”
นายปรัธนากล่าวว่า การจัดการแข่งขันครั้งล่าสุดนี้ได้ทำการปรับรูปแบบการสนับสนุนไปอีกขั้น โดยมีเป้าหมายไปที่กลุ่มนักคิด นักพัฒนา หรือผู้ประกอบการรายย่อย ที่มีผลิตภัณฑ์หรือผลงาน พร้อมที่จะต่อยอดธุรกิจไปสู่ตลาดได้จริง โดยเฉพาะในตลาดของการใช้ชีวิตประจำวันที่ต่อไปจะเชื่อมต่อแบบไวร์เลสมากขึ้น อันจะก่อให้เกิดธุรกิจตามมามากขึ้นเช่นกัน ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่จะเจาะถึงพฤติกรรมของคนมากขึ้นด้วย
“การจัด AIS The StartUp ร่วมกับพาร์ตเนอร์เพื่อหาสินค้าและบริการ ไม่ใช่เป็นการเข้าไปลงทุนร่วมกันจึงไม่ได้หวังผลกำไรเหมือนสตาร์ทอัปแบบอื่นๆ เราเน้นการสร้างพันธมิตรแบบวินวินคือได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เพราะเราก็มีบริการให้ลูกค้าเพิ่มขึ้น ในขณะที่พาร์ตเนอร์ก็สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นเช่นกัน โดยปัจจุบันบริการเพียวเทเลคอม อย่างเช่น เอสเอ็มเอส เอ็มเอ็มเอส ยังมีสัดส่วนที่สูงถึง 90% ส่วนคอนเทนต์บนสมาร์ทโฟนยังมีแค่ 10% แต่ในอนาคตอาจจะเปลี่ยนไป การใช้งานต่างๆ จะขึ้นมาอยู่บนสมาร์ทโฟนมากขึ้น”
AIS The StartUp 2014 จะเปิดโอกาสให้นักคิด นักสร้างสรรค์ รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่มีผลิตภัณฑ์ในมือพร้อมที่จะต่อยอดธุรกิจร่วมส่งผลงานเข้าแข่งขันใน 3 หมวด ได้แก่ Online/ Digital Content, Corporate Solution และ Social Business เพื่อพัฒนาและนำผลงานออกสู่ตลาดจริง โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเอไอเอสและพันธมิตรทั้งไทยและเทศที่มีช่องทางเข้าถึงฐานลูกค้ากว่า 500 ล้านรายในภูมิภาค และมีรางวัลรวมกว่า 39 ล้านบาท
AIS The StartUp 2014 ครั้งนี้มีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การได้ร่วมเป็น iCP หรือ Incubated Content Partner หรือคอนเทนต์พาร์ตเนอร์ที่ได้รับการบ่มเพาะจากเอไอเอสอย่างเต็มที่ ภายใต้ Business Model ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ รวมทั้งยังมีการสนับสนุนจากกลุ่ม Regional Seed Network (RSN) ซึ่งเป็นเครือข่ายพันธมิตรในเครือ SingTel ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อผลักดันสตาร์ทอัปในเครือให้ก้าวไปสู่ระดับภูมิภาคอย่างแท้จริง
Company Relate Link :
AIS
ที่มา: manager.co.th