“ฟลุค” ของขึ้น ขึ้น “มึง-กู” จวก “เมื่อรู้ว่ากูจีบ แล้วมาทำไมวะ!” ลั่นถ้าพูดตามตนเองตั้งแต่แรก ก็คงดีกว่าดั้นด้นไปหาผู้ชาย เผยส่งข้อความหวานไปหาเพื่อนทุกๆ คน ซัด “ชัญญ่า” เข้าข้างตัวเอง ยันไม่ได้จีบ คุยระดับคาสโนว่าจีบแต่คนเจ๋งๆ แอบโชว์ SMS แฉคืน แต่ให้ดูแค่อันเดียวแถมปิดบังไม่ให้ถ่ายภาพ
หลังจากที่ “ชัญญ่า ทามาดะ” กับ “ไรวินทร์ จิรพลเศรษฐ์” หุ้นส่วนร้านกระเป๋าแบนด์เนมควงคู่กันออกงานงัด SMS ที่ “ฟลุค เกริกพล มัสยวานิช” เคยส่งมาให้ชัญญ่าโชว์สื่อจนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เมื่อสื่อโทรทัศน์บางแห่งไม่เบลอปิดหมายเลขโทรศัพท์ของฟลุค เป็นเหตุให้มีคนโทร.เข้ามานับร้อยๆ สาย เล่นเอาเจ้าตัวแก้เผ็ดชัญญ่าทันควัน โดยการโอนทุกสายไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของชัญญ่า
ล่าสุด ฟลุคก็ได้เดินทางมาร่วมงานประกวดภาพยนตร์สุพรรณหงส์ ที่ศูนย์วัฒนธรรม พร้อมกับเปิดปากให้สัมภาษณ์โต้กับชัญญ่าอย่างดุเดือดถึงขั้นขึ้น “มึง-กู” จวกแหลก “เมื่อรู้ว่ากูจีบ แล้วมาทำไมวะ” ลั่นถ้าพูดตามตนเองตั้งแต่แรก ก็คงดีกว่าดั้นด้นไปหาผู้ชาย เผยส่งข้อความหวานสวีตไนต์ สวีตดรีม ไปหาเพื่อนทุกๆ คน จวกชัญญ่าเข้าข้างตัวเองยันไม่ได้จีบ คุยระดับคาสโนว่าจีบแต่คนเจ๋งๆ
“ผมโดนถามมาแล้วใช่ไหม วันนี้ผมขอถามบ้างก็แล้วกัน มันมีสาเหตุนะครับ ตอนแรกที่เขาออกมาพูด เพราะอะไรนะครับ เพราะเขาต้องการที่จะแก้ตัวว่ามาตามผม และมายุ่งกับคนที่มีแฟนแล้วถูกต้องไหมครับ ง่ายๆ ลองใช้วิจารณญาณคิดว่า การที่จะพูดออกไปว่า เราบังเอิญมาเจอกัน กับการที่เป็นข่าวว่า ต้องโทร.ไปขอแฟน หรือว่าคู่หมั้นอะไรของเขา อย่างไหนน่าจะพูดมากกว่ากัน”
“ที่เขามาต้องขออนุญาตแฟนเขา ตกลงเป็นแฟนหรือเป็นเพื่อน สยามดาราบอกเป็นคู่หมั้น อายุ 18 นี่นะ แต่บางเล่มบอกว่าเป็นเพื่อน ตกลงยังไงกันแน่ เออช่างมันเหอะจะเป็นอะไรก็ช่างมัน แต่การที่เขาจะมา เขาต้องโทร.ไปขออนุญาตทางฝ่ายนั้นจะบอกว่า เป็นตุ๊ดก็ไม่ได้ เดี๋ยวหาว่าผมไปว่าเขาเป็นตุ๊ด จะบอกว่าเป็นผู้ชายก็ไม่ได้เผื่อเขาเปลี่ยนใจ”
“สรุปว่าเด็กคนนั้นและคนๆ นั้น คือ เด็กคนนั้นนะครับต้องโทร.หาคนๆ นั้น เพื่อดั้งด้นมาหาผู้ชาย แล้วก็ต้องดั้นด้นขับรถกลับด้วยตัวเอง โดยที่ผมไม่ได้ขับไปส่ง ผมขอถามหน่อยว่า การที่เราบังเอิญไปเจอกัน กับการที่เขาอุตส่าห์โทร.ไปขอแฟน หรือคู่หมั้นอะไรก็ตาม ทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปเจอคาสโนว่าบ้าของแพง และต้องมากินอาหารด้วยกัน อันไหนมันดูดีกว่ากัน นี่คือ ข้อสังเกต ก็อยากให้สังเกตกันนิดนึงนะครับ”
“แล้วอีกข้อหนึ่งการที่มีคนเมสเสจไปหาคุณ มิสยู กู๊ดไนต์ เฮ้ย ! ไม่ใช่ สวีตไนต์ สวีตดรีม คำนี้มันแปลว่าจีบตรงไหน ผมส่งแบบนี้ทุกคนเลย ผมส่งแบบนี้เป็นสิบคนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ถ้าอย่างนั้น พีเค (ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร) มันต้องเดินมาบอกไหมไอ้ฟลุคเป็นเกย์ คือ เขาเข้าข้างตัวเองเกินไปแล้ว ผมจะไม่พูดถ้าเขาหยุด ผมขอยืนยันนะครับว่า การจีบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน”
“ข้อความที่ส่งไปหลายคนอาจจะเห็นว่าจีบตรงไหน คือวั นนั้นผมอยู่กับน้องอชิ คุณแพงก็อยู่ด้วย คุณแพงก็รู้ว่าผมชวนเขา ตอนแรกเราจะไปด้วยกันสามคน แต่มีเพื่อนผมคนหนึ่งบอกว่าจะไปดูหนัง ผมก็เอ๊ะถ้ามาแล้วก็คงจะแปลกๆ ก็เลยชวนน้องเขา พอเมสเสจไปก็ว่างทุกทีเลยเขาก็โอเคเลย แต่ปรากฏว่าเพื่อนผมมันแคนเซิ่นผมก็ไม่รู้จะทำไง เลยพูดถนอมน้ำใจน้องเขาโดยพูดว่า น้องอชิ กลับแล้ว โดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าคุณแพงอยู่ด้วยแล้วก็รู้เรื่องทั้งหมดนอกจากนั้นมีเรื่องที่เขาอาจจะไม่ได้พูด ผมพูดให้ก็ได้ ผมกับคุณแพงและเพื่อนผมเคยชวนไปกินข้าวแต่เขาก็ไม่ได้ไปเพราะผมเห็นว่าเป็นน้องและก็เป็นเพื่อนคนหนึ่ง แต่บังเอิญว่าเขาเข้าใจผิดก็แค่นั้นเอง"
ส่วนเรื่องที่บอกให้ “ชัญญ่า” โกหกถึงเหตุการณ์วันที่ไปกินหมูกระทะ ว่า เป็นเรื่องบังเอิญนั้น ฟลุค บอกว่า เป็นสิ่งที่ดีกว่าการที่ชัญญ่าต้องไปขออนุญาต “ไรวินทร์” เพื่อดั้นด้นไปหาผู้ชายที่มีชื่อว่า คาสโนว่า
“ผมบอกแล้วไงว่า ผมอยู่วงการมานานเปรียบเสมือนทหารผ่านศึก ไม่ว่าจะโดยรูปแบบไหนก็ตามค่อนข้างจะชินแล้ว เพราะผมคิดว่า ถ้าเขาเข้ามาเป็นข่าวกับผม เจ็บเนื้อเจ็บตัวแน่ๆ ผมก็บอกว่า น้องเชื่อพี่เหอะ ถ้าน้องตอบแบบนั้นเรื่องจบ แล้วเขาก็โอเค ถามสองครั้งผมก็บอกไปอย่างนั้นเชื่อพี่ดีที่สุด”
“วันรุ่งขึ้นเอ็มเอสเอ็นหากัน เขาถามเป็นไง พี่ตอบไปแล้วนะ เขาก็บอกว่า หนูก็ตอบ แต่สองวันให้หลังมาว่าเราไม่แมน พิจารณาดูก็แล้วกันว่าอันไหนดูดีกว่ากัน ระหว่างที่บังเอิญมาเจอกันกับการที่เขาบอกว่า เขาจะต้องไปขอแฟนขอคู่หมั้นหรือขออะไรก็แล้วแต่ แล้วก็ดั้นด้นมาหาผู้ชายที่มีชื่อว่า คาสโนว่า”
“แล้วเขาก็รู้ด้วยนะว่าผมจีบ ผมไม่ได้บอกเขานะเขาบอกเอง เมื่อรู้ว่ากูจีบแล้วมาทำไมวะ ก็เออพิจารณากันเอาเองแล้วกันนะครับเป็นยังไง"
จากนั้นนักข่าวก็ยิงคำถามต่อว่า สรุปว่าจีบหรือเปล่า ? "ฟลุค" ไม่ตอบแต่บอกให้ดูรายชื่อของผู้หญิงที่ผ่านมาว่าไม่ธรรมดา
"ไหนๆ ก็ให้ฉายาผมแล้วว่า คาสโนว่าบ้าของแพง ช่วยดูเรคคอร์ดนิดนึง ช่วยนับชื่อที่ผ่านมามีอะไรธรรมดาๆ ไหม ไม่มีทามาดะๆ มีแต่เจ๋งๆ ทั้งนั้น ดังนั้น อย่าคิดไปเองว่าคนเขาจีบ อย่าบังคับให้ผมจีบ ถ้าผมจีบผมรับผมไปส่งถึงบ้าน ตีสองผมยังไปรอรับที่วิทยุครับ แต่ไม่มีการให้น้องเขาขับรถไปเองหรือขับกลับเองด้วย นี่คือ แค่น้ำจิ้มเท่านั้น คุณผู้ชมครับถ้าอยากฟังต่อพรุ่งนี้ครับ ผมจะไปออกแฉแต่เช้าครับ คุณมดดำ (คชภา ตันเจริญ) เขารู้เรื่องหมด ผู้ชายเฮ้ย ! ไม่ใช่คนๆ นั้น ไม่ได้ๆ เดี๋ยวโดนฟ้องเพราะกูก็กลัว เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ฟังแฉแต่เช้าแล้วจะเข้าใจเรื่องทั้งหมด”
“ผมบอกแล้วว่าผมเลิกพูดถึงเด็กคนๆ นั้นและคนๆ นั้นแล้วครับ ผมจบแล้วนะครับ ผมจะไม่พูดแล้ว ขอให้มันเป็นเรื่องของทุกสิ่งทุกอย่างแล้วว่าอะไรเป็นยังไง แล้วผมไม่ต้องมาพูดอะไรแล้ว ตอนนี้ผมกับแพงก็รักกันดีไม่มีปัญหาอะไรกัน แพงก็รักผม ผมก็รักแพง แพงก็รู้เรื่องทุกอย่างที่ผมชวน คือ มันจะมีคลิปอยู่ตอนที่ผมรับโทรศัพท์นั่นก็คือคุณแพง ผมคงไม่โทรคุยกับคุณแพงมั้งว่า ที่รัก ที่รักจ๊ะให้ผมกินข้าวกับคนที่ผมกำลังจะกิ๊กด้วยได้ไหม ก็ลองคิดดูเอาเองแล้วกันนะครับ”
ปฏิเสธว่า ไม่ได้โอนสายโทรศัพท์ไปยังเบอร์มือถือของ “ชัญญ่า” อ้างเป็นบริการเสริมเอไอเอส
“ไม่ได้ด่านะครับ เบอร์ของผมเป็นเบอร์สวยจัด และมีคนโทร.มาเล่นๆ อยู่แล้ว แต่ว่าพอโทร.เข้ามา ผมก็บอกให้โทร.หาเลขา แล้วที่เบอร์ผมเป็นอย่างนั้นมันเป็นบริการเสริมเอไอเอสข้อความขึ้นที่เบอร์ผม เหมือนว่าผมโอนเข้าเลขาของผมไม่ได้โอนเข้าเบอร์เด็กคนนั้น แล้วมันก็กลับมาขึ้นที่เมสเสจของผมมันไม่ได้โอนเมสเสจไปหาเขาแต่อย่างใด แต่ผมขอบอกง่ายๆ กับใครก็ได้ ผมก็สนุกๆ ของผมไปเรื่อยๆ ลองโทร.ไปดูนะครับสนุกดีนะครับ และมีงานอีเวนท์มาติดต่อซึ่งผมก็ให้โอนไปทางโน้นเลย จากค่าตัวศูนย์ตอนนี้ขึ้นไปเป็น 3 หมื่น ก็ไปดูแล้วกันว่าใครได้เปรียบ อย่างวันนี้ผมมางานเพื่อนครับมาฟรีนะครับ”
“ผมไม่รู้แล้วนะครับขอให้รอฟังแฉก็แล้วกัน แล้วเมสเสจที่บอกว่ากู๊ดไนต์อะไรก็แล้วแต่ มีผู้หญิงส่งมาให้ผมครับ ผมก็เมสเสจกับเขาเป็นสิบเหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นถ้าอย่างนั้นเรียกว่าจีบ พี่เตรียมเขียนข่าวได้อีกเลยครับ เดี๋ยวผมให้ดูสั้นๆ นะครับ ไม่ต้องซูมนะครับเดี๋ยวเห็นเบอร์เขา”
หลังจากพูดจบ “ฟลุค” ก็ยื่นโทรศัพท์ให้นักข่าว พร้อมกับบอกให้นักข่าวอ่าน โดยในมือถือมีข้อความว่า
“ไม่ได้เป็นแฟนค่ะ แต่ขอเป็นกำลังใจให้ เรื่องของชัญญ่าไม่ต้องคิดมากนะคะ พี่ฟลุคสู้ๆ”แต่พอจะถ่ายภาพหรือขอดูข้อความอื่นฟลุคก็บ่ายเบี่ยงบอกให้ดูเพียงเท่านี้
“คือ อันนี้ผมโทร.ไปหาตุ๊ดเอ๊ย! ไม่ใช่คนๆ นั้น เดี๋ยวครับเดี๋ยวผมโดนฟ้องผมกลัว ผมก็เลยโอนเบอร์จริงเพราะมีการติดต่องานอีเวนท์ แล้วจริงๆ ผมหวังดีตลอด ผมเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพราะมีกุนซือที่อยากจะปั้นคนเข้าวงการ ก็เลยอยากออกทีวี ก็บอกคนๆ นั้นก็แล้วกันว่า ถ้าน้องเขาปิดปากและไม่ได้พูดอะไรออกมาเรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้ถูกไหมครับ ดังนั้นผมก็เลยไม่ให้เบอร์เขา”
“ผมจบแล้วรอฟังแฉแต่เช้าพรุงนี้ก็แล้วกัน ผมรู้มากกว่านี้เยอะ เพราะมีเพื่อนมาเล่าให้ผมฟังเต็มไปหมดเลย แต่แค่นี้ก็แล้วกันสงสารเด็ก แล้วที่ผมไปเจอน้องเขา ไปเจอในผับนะครับ ผมก็ยังงงอยู่ว่า อายุ 18 เข้าไปในผับได้ยังไง ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เขาอะไรยังไง มาเจอกับผมขอถ่ายรูปกับผมกับคุณแพงด้วยนะครับ ผมก็ไม่เข้าใจว่า เขาเข้ามาในผับได้ยังไง แต่ว่าการ์ดในผับบอกว่า ให้เด็กคนนี้เข้าไป มันเป็นที่น่าคิดนะครับว่าอะไรยังไง”
