ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอากาศที่ร้อนทะลุ 40 องศาหรือเปล่า ถึงทำให้คนบางคนสติแตกลุกออกมาเย๊วๆ อยู่หลายวัน เห็นแล้วก็เป็นห่วงเกิดเป็นลมตายแดดขึ้นมา จะเอาอะไรไป “ไถนา” ล่ะคราวนี้
ไอ้นกเอี้ยง 3 ตัวที่เกาะอยู่บนหลังควายนั่นก็เหมือนกัน ร้อนๆ อย่างนี้ควรสงบจิตสงบใจ สงบปากสงบคำไว้บ้าง เผื่อใครเค้ายั้งซ่งตีงเอาไว้ไม่อยู่ เดี๋ยวก็ได้หรอยจังฮู้หรอก
ว่าแล้วเชียวจะอยู่ได้ซักกี่น้ำ ขนาดรวมพลใหญ่คนยังโหรงเหรงจนต้องเลื่อนเวลาทำชั่ว ขืนกระแดะปักหลักยืดยาวคงเหลือแต่หมานั่งเฝ้าหน้าเวที (เพราะควายกลับไปเฝ้าหน้าจอ) ของบางอย่างมันเลียนแบบกันไม่ได้หรอก วาระมันต่างกัน เหตุผลมันก็ต่างกัน ที่สำคัญใจมันต่างกันว้อยยยยยย...
แหม...ทำมาบอกว่า รักชาติ รักประชาธิปไตย แต่ปากงี้สาดโคลนใส่คนใหญ่คนโตจนเกิดเป็นความแตกแยกในสังคม พฤติกรรมแบบนี้เขาไม่ได้เรียกว่ารักชาติ แต่เขาเรียก “รักชั่ว”
ถ้าขืนยังไม่หยุดการลบหลู่อยู่แบบนี้ อนาคตคงไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือนใครบางคน ทุกวันนี้จะไปขออาศัยชาติไหนก็ไม่มีใครต้อนรับ ล่าสุด ก็เห็นว่า ซินาอ้า บินเข้ามากินเป็ดปักกิ่งไม่ได้แล้ว คาดว่า อนาคตคงบินเข้าชาติไหนไม่ได้แล้วล่ะ ยกเว้น “ชาติหมา!”
ชักจะยุ่งเรื่องควายๆ หมาๆ มากไปหน่อยล่ะ เปลี่ยนเป็นเรื่อง “แรด” มั่งดีกว่า เห็น “นางเอกหน้าหวาน” ประกาศเลิกกับ “นักดนตรี” เล่นเอาหลายๆ คนงงว่า เป็นไปได้ไงหว่า เพราะก่อนหน้านี้ก็เห็นร้ากกันปานจะแหกกระปิ๊ดม
ขนาดมีภาพหลุดนางเอกหน้าหวานกับ “เสี่ย” ผัวเก่าประจานว่อนไปทั่ว แต่ไม่ได้ทำให้นักดนตรีไขว้เขว้เอียงซ้ายเอียงขวา ยังคงตั้งหน้าตั้งตายิงธนูมาปักจึ๊กๆ ที่นางเอกหน้าหวานแต่เพียงผู้เดียว
ไอ้เราก็นึกว่าจะได้เสียมันกันไปเรื่อยๆ พอท้องเมื่อไหร่ก็ค่อยแต่งตามสไตล์ดารา ที่ไหนได้ล่าสุดนางเอกหน้าหวานก็สลัดผัวนักดนตรีทิ้งไปเรียบร้อยแล้ว งานนี้คุณแม่ดีใจแทบจะไปแก้บน เพราะอยากให้ลูกเลิกกับผัวนักดนตรีมานานแล้ว จะได้ใส่ตะกร้าล้างน้ำเอาไปขายกับคนรวยๆ เหมือนอย่างเคย
ไอ้ที่ลูกได้เสียกับอาเสี่ยสมัยก่อน ก็เพราะคุณแม่นี่แหละที่ไฟเขียวให้รถไฟเข้าถ้ำลูก จากนั้นก็จัดเก็บค่าขบวนฉึ่กฉั่กๆ เอามาจุนเจือครอบครัว เท่านั้นไม่พอ ยังให้อาเสี่ยยังรับหน้าที่ส่งเสียลูกเรียนอีกต่างหาก เป็นทั้งพ่อเป็นทั้งผัวไปพร้อมๆ กันแบบนี้นี่เองคุณแม่ถึงติดใจคนรวย
แต่ความจริงแล้วฐานะทางบ้านนักดนตรีก็จัดว่ารวยไม่ใช่เล่น แต่ยังรวยไม่พอที่จะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องญาติๆ อีกหลายชีวิตที่คอยรุม คอยสูบนางเอกหน้าหวาน งานนี้คุณแม่ก็เลยอยากให้ลูกเปลี่ยนเสาหลักครอบครัวอันใหม่เพื่อความมั่นคงในชีวิต
แว่วว่ามีระดับป๋าหลายรายที่สนใจอยากจะเป็นสปอนเซอร์ โดยเฉพาะ “ป๋าใหญ่แห่งวงการบันเทิง” อดีตผัวของบรรดานางเอกร่วมช่องของวิกหลายสี รายนี้แทงบัญชีตั้งแต่นางเอกหน้าหวานเข้าวงการใหม่ๆ อยากจะได้มาทำเมียจนตัวสั่น
แต่จนแล้วจนรอดนางเอกหน้าหวานก็ยังไม่ว่างซักที พอเลิกกับผัวอาเสี่ยก็โดนผัวนักดนตรีดีดกีตาร์อื้ออ้าอยู่ตั้งหลายปี พอหุบเขาลี้ลับจะว่างซะหน่อย “พระเอกจอมแป้ก” อดีตเด็กปั้นของค่ายใหญ่ ที่เคยโผล่มาเอาดีด้านหนัง แต่ก็เจ๊งสนิททุกเรื่อง ก็โดดเข้ามาจับจองพื้นที่สามเหลี่ยม ก่อนจะจัดการ “ไถ” แล้วก็ยึดเป็นของตัวเองซะงั้น คุณป๋าใหญ่ก็เลยต้องเรียบอาวุธเก็บเอาไปชักเย่อที่บ้าน
คู่นี้เจอกันที่กองถ่ายละคร ฝ่ายพระเอกจอมแป้กปิ๊งนางเอกหน้าหวานอย่างจัง เพราะถูกใจที่เป็นสาวเรียบร้อยตั้งใจทำงาน ก็เลยเดินเกมหมาหยอกนางเอกวันละนิดวันละหน่อย จนนางเอกเริ่มใจอ่อน ความรักของทั้งคู่พัฒนาขึ้นกลางกองถ่าย เรื่องนี้คนในกองรู้ดีมีแต่นักดนตรีเท่านั้นที่ไม่รู้ อุตส่าห์ไปรับไปส่งเมียทุกวัน แต่สุดท้ายก็โดนพระเอกจอมแป้กแทรกตรงกลางคว้าหลุมเอาไปมันหน้าตาเฉย
หลังๆ มีเสียงร่ำลือหนาหูขึ้น ประกอบกับคุณนางเอกก็ชักจะเรื่องแยะ เดี๋ยวก็ติดธุระ เดี๋ยวก็ไม่ว่าง ไม่มีเวลาให้นักดนตรีดีดกีตาร์เลย ไม่ต้องรอให้นิติเวชมาตรวจคราบอสุจิ นักดนตรีก็ฟันธงว่า นางเอกหน้าหวานต้องแอบไปกิ๊กกับพระเอกจอมแป้กแหง ว่าแล้วนักดนตรีก็เลยตัดสินใจเปิดฉากเคลียร์กับนางเอกหน้าหวาน ตกลงจะเลือกจะใครทำผัว?
งานนี้นางเอกหน้าหวานถึงกับพูดไม่ออก คนหนึ่งก็ผัวรักแสนจะผูกพัน อีกคนก็ผัวใหม่กำลังจะผูกใจ มันแสนจะลำบากถ้าจะเลือกใคร เล่นเอานักดนตรีแทบจะเอาตีนก่ายหน้าผาก แต่พอดีเส้นยึดซะก่อนก็เลยเอามาเกาหู (อิอิ)
ในที่สุดนักดนตรีก็ทนไม่ไหวตัดสินใจทิ้งนางวันทอง เอ๊ย! นางเอกหน้าหวานในทันที เวลานี้คุณนางเอกก็เลยแฮปปี้ซู่ซ่ากับพระเอกจอมแป้กแบบโนลิมิต ขัดใจคุณแม่สุดๆ แม้แต่คนรอบข้างก็คิดไม่ถึงว่าทำไมนางเอกหน้าหวานถึงยอมปล่อยนักดนตรี หันมาคว้าพระเอกดับแนวชื่อเสียงตกอับ
ขอบอกว่า ของอย่างนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับชื่อเสียงหรือเงินในกระเป๋า บางทีเงินมันก็ไม่สำคัญเท่ากับขนาดและความมันนะจ๊ะ ว่ากันว่า พระเอกจอมแป้กเด็ดไม่เบา ประสบกามโชกโชนจนได้ชื่อว่าเป็นไอ้หนุ่มร้อยท่า ก็ไม่รู้ว่านางเอกหน้าหวานไปเจอท่าไหนเข้าให้ ถึงได้นะจังงัง ลืมอกเหี่ยวของนักดนตรีไปอย่างง่ายดาย
แต่งานนี้คงต้องทำใจหน่อยล่ะ เพราะของมันอร่อยก็ย่อมจะมีคนแย่งกินอยู่เสมอ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงแบ่งไปชิมก็ยังพอจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายเจ้าเสน่ห์ แต่นี่พระเอกจอมแป้กเล่นเซอร์วิสให้กับผู้ชายมีองฯ ทั้งหลาย ก็ไม่รู้ว่านางเอกหน้าหวานจะทนได้ซักแค่ไหน
ก่อนหน้าที่จะคบหากับนางเอกหวาน พระเอกจอมแป้กก็มีชะนีมีไข่ที่เป็นเจ้าของผับอยู่ที่เมืองท่องเที่ยวส่งเสียเลี้ยงดู จ่ายค่าบริโภคดุ้นให้เดือนเป็นแสน ทุกวันนี้พระเอกจอมแป้กก็ยังไปมาหาสู่ชะนีมีไข่ไม่ขาดสาย ล่าสุด พระเอกจอมแป้กก็พึ่งจะหิ้ว “กล้วย” ไปให้ชะนีมีไข่อม เอ๊ย! กินไปเมื่อไม่นานมานี้
เท่านั้นไม่พอ เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา พระเอกจอมแป้กก็ยังไปรับจ๊อบโชว์ตัวที่ญี่ปุ่น พร้อมกับ “กำปั่น” อดีตเท้าไฟ และก็หนึ่งใน “บอยแบนด์ผสม” 3 หนุ่ม 3 หน่อล้วนเคยสังกัดเดียว ตกกระป๋องเหมือนกัน พากันพกข้าวต้มมัดไปโชว์ตัวที่แดนปลาดิบ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการขายปลาช่อนตัวเขื่อง
งานนี้หนุ่มกำปั่นฮอตสุดๆ ได้ค่าขยับบั้นเอวไปเป็นแสน ส่วนพระเอกจอมแป้กแม้หน้าตาจะไม่หล่ออินเทรนด์ แต่ก็อาศัยความคมเข้มเข้าตีหม้อ ผลคือฟันเงินเยนกลับมาไม่น้อยเช่นกัน
ว่าแล้วก็หนักใจแทนนางเอกหน้าหวานซะจริงๆ จะมีผัวทั้งทีก็ดันซวยวันนี้เป็น “ผัวกู” แต่วันหลังดันเป็น “เมียคนอื่น” ป่านนี้จะรู้ไหมน้าว่าไอ้ที่มุดเข้ามุดออกมันผ่านการทำดีท็อกซ์ปูดๆ มาแล้ว
นี่ถ้าคุณแม่นางเอกหน้าหวานรู้เข้าคงจะเป็นลมตายวันละหลายร้อยรอบ อุตส่าห์งัดออกมาจากอกนักดนตรี ดันไปซบดากพระเอก พูดแล้วก็เหม็นขี้ว่ะ....แหวะ
จบจากผู้ชายรายนี้เห็นทีคุณแม่คงจะคิดหนัก นับๆ ผัวของคุณลูกดูแล้วถึงแม้จะน้อยราย แต่ระยะเวลาการใช้งานของแต่ละผัวยาวนานยังกะผ่อนรถยนต์ ป่านนี้ก็ไม่รู้ชำรุดไปถึงลิ้นปี่หรือยัง กว่าจะเหลือถึงมืออาเสี่ยร้อยล้านลูกเขยในฝันที่คุณแม่ต้องการมาเป็นเสาหลัก คาดว่าคงต้องมีการยกเครื่องกันยกใหญ่
ไม่งั้นคงต้องเปลี่ยนจากเสาเป็น “ตอม่อ” แล้วล่ะ คุณแม่ขา
ที่มา:
http://www.manager.co.th
