คอลัมน์ clickworld
สมรภูมิการแข่งขันของตลาดสมาร์ทโฟนกำลังคึกคัก ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจซบเซา โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานว่าไตรมาสแรกที่ผ่านมายอดขายมือถือ "แบล็กเบอร์รี่" จากค่ายรีเสิร์ชอินโมชั่น (RIM) สามารถแซง "ไอโฟน" จากค่ายแอปเปิลไปได้
เอเอฟพีรายงานข้อมูลล่าสุดจากบริษัทวิจัยเอ็นพีดีว่า ขณะนี้แบล็กเบอร์รี่รุ่น Curve กลายเป็นมือถือสมาร์ทโฟนน้องใหม่ที่โค่นแชมป์เก่าอย่างไอโฟนในตลาดสหรัฐได้ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา หลังจากที่ไอโฟนครองความเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐ ต่อเนื่องมากว่า 2 ไตรมาส
และหากดูภาพรวมยอดขายทั่วโลก พบว่ายอดจำหน่ายของแบล็กเบอร์รี่ในไตรมาสแรกมีจำนวนกว่า 7.8 ล้านเครื่อง ทั่วโลก มากกว่าไอโฟนที่มียอดขายเพียง 3.8 ล้านเครื่อง
ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของ RIM ในตลาดคอนซูเมอร์สมาร์ทโฟนในอเมริกา เพิ่มขึ้นมาแตะที่ 50% ขณะที่ส่วนแบ่งของค่ายแอปเปิลและปาล์มกลับลดลงค่ายละ 10% โดยจำนวนผู้ใช้แบล็กเบอร์รี่มากกว่าครึ่งหนึ่งของฐานลูกค้ากว่า 25 ล้านรายอยู่ในกลุ่มคอนซูเมอร์ จากที่เดิมนั้นแบล็กเบอร์รี่จะมุ่งการทำตลาดในกลุ่มนักธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานด้านธุรกิจเป็นหลัก
จากการวิจัยของเอ็นพีดี BlackBerry Curve ติดอันดับยอดขายสูงสุดอันดับ 1 ด้วยจุดเด่นที่น้ำหนักเบา บาง ราคาไม่แพง ทำให้ได้รับความนิยมและต่อกรกับไอโฟนได้ ตามมาด้วยไอโฟน 3จี, BlackBerry Storm, BlackBerry Pearl และ G1 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ของโอเปอเรเตอร์ค่ายทีโมบาย
"โรส รูบิน" นักวิเคราะห์จาก NPD กล่าวถึงสาเหตุหลักที่ทำให้แบล็กเบอร์รี่คว้าชัยชนะเหนือไอโฟนได้ คือ แคมเปญสุดแรงของโอเปอเรเตอร์มือถือค่ายเวอร์ริซอน ไวร์เลส ที่เสนอโปรโมชั่น "ซื้อ 1 แถม 1" กับมือถือแบล็กเบอร์รี่รุ่น Curve รวมถึงการทำตลาดอย่างแอ็กเกรสซีฟในรุ่น Storm ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ในกลุ่มคอนซูเมอร์ของแบล็กเบอร์รี่ขยายใหญ่ขึ้นจนก้าวขึ้นมาติดระดับท็อปไฟฟ์ถึง 3 รุ่น
แต่คีย์สำคัญที่ทำให้แบล็กเบอร์รี่ประสบความสำเร็จ คือ แบล็กเบอร์รี่ร่วมมือในการทำตลาดกับโอเปอเรเตอร์มือถือในสหรัฐทั้ง 4 ราย ขณะที่ไอโฟนผูกสัญญาเฉพาะกับ เอทีแอนด์ทีรายเดียวเท่านั้น ทำให้แบล็กเบอร์รี่สามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างและรวดเร็วกว่า
ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ การลงสู่ตลาดของ Curve ที่หลายคนมองว่าเพื่อมาตัดหน้าแผนโปรโมชั่นของค่าย สปรินท์ที่เตรียมทุ่มงบฯอย่างหนักเพื่อขยายตลาดสมาร์ทโฟนรุ่น "Pre" ของค่ายปาล์ม
ขณะนี้หลายฝ่ายกำลังจับตา "Pre" ของค่ายปาล์มว่าจะเข้ามาเป็นคู่แข่งตัวจริงของ "ไอโฟน" ซึ่งมีแผนจะวางจำหน่ายก่อนสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ ทำให้ Curve ต้องแย่งชิงความได้เปรียบทางการตลาดก่อน
รูบินยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าโปรโมชั่นของแบล็กเบอร์รี่จะจบลงแล้ว และไอโฟนอาจจะขยับขึ้นมาทวงบัลลังก์แชมป์คืนได้อีกครั้ง หากมีการเปิดตัวโมเดลใหม่ออกสู่ตลาด เพราะไอโฟนที่อยู่ในตลาดขณะนี้อาจไม่เพียงพอกับความต้องการ และทำให้เกิดปัญหาสินค้าขาดตลาดก่อนที่รุ่นใหม่จะเปิดตัว และเมื่อถึงเวลานั้นจะยิ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายของแอปเปิลมากขึ้น
ขณะที่มีรายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า แอปเปิลเตรียมที่จะเปิดตัวซอฟต์แวร์สำหรับไอโฟนเวอร์ชั่น 3.0 เร็วๆ นี้
ผลวิจัยของ NPD ยังรายงานว่า ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนในสหรัฐ มียอดขายเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการเติบโตเพียง 17% ส่วนหนึ่งมาจากความสำเร็จของแบล็กเบอร์รี่ที่ช่วยผลักดันตลาดสมาร์ทโฟนในอเมริกาคึกคักขึ้น
แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงท้าทายอย่างหนัก บวกกับผลวิจัยของ NPD ที่พบว่าผู้ใช้มือถือกว่า 45% ในสหรัฐยังคงใช้งานด้านเสียงมากกว่าก็ตาม แต่เทรนด์ที่เพิ่มขึ้นตอนนี้ คือ คอนซูเมอร์ เริ่มมองหาอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานเพื่อท่องอินเทอร์เน็ต สามารถรองรับการใช้งานดาต้า (data) เพื่อรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งเรื่องเอ็นเตอร์เทน
"มือถือสมาร์ทโฟนยังคงเดินหน้ากินมาร์เก็ตแชร์มือถือทุกประเภทอย่างต่อเนื่อง" รูบินกล่าว
นอกจากนี้แบล็กเบอร์รี่ยังรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศจับมือกับฮิวเลตต์-แพคการ์ด หรือเอชพี ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ของโลก เพื่อร่วมมือเป็นพันธมิตรเพื่อจัดหาแอปพลิเคชั่นและบริการบนสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รี่
"แอน ลิเวอร์มอลล์" รองประธานบริหารเอชพี กล่าวว่า โมเดลของการสื่อสารและการร่วมมือกันครั้งนี้ สร้างโอกาสสำหรับแบล็กเบอร์รี่และเอชพี ในการเสนอโซลูชั่นและบริการบน โทรศัพท์มือถือที่มีมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้า อาทิ การใช้แบล็กเบอร์รี่เพื่อสั่งพิมพ์งานทางระบบไร้สาย ทั้งอีเมล์ เอกสาร รูปภาพ เว็บเพจ เป็นต้น
ที่มา: matichon.co.th