"เชาเชา" เบรกรัก "นุ้ย" ให้ฝ่ายหญิงตัดสินใจอยู่หรือไป ยันไม่เคยทุบตี

[Reporter]

"เชาเชา" เบรกความสัมพันธ์กับ "นุ้ย" เหตุนิสัยเข้ากันไม่ได้ แต่รับยังรู้สึกดีๆ ด้วย ให้ฝ่ายหญิงตัดสินใจจะคบต่อหรือหยุดแค่นี้ โต้ข่าวลงไม้ลงมือ

       หลังจากฝ่ายหญิง "นุ้ย เกศริน เอกธวัชกุล" ปล่อยโฮกลางงานเพราะเสียใจที่เลิกกับดีเจฝีปากกล้า "เชาเชา เชาวลิต ศรีมั่นคงธรรม" จนเป็นที่ลือลั่นไปทั่ว ล่าสุดเชาเชาก็ได้ให้สัมภาษณ์ในงาน Centerpoint @ Central World:Move For More Party ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ขอเบรกความสัมพันธ์ของทั้งคู่เพราะนิสัยเข้ากันไม่ได้ ลั่นถ้าฝ่ายหญิงจะกลับไปหาแฟนเก่าก็เป็นสิทธิที่ส่วนตัว




       
       "เราไม่ได้เกลียดกันและไม่เกี่ยวกับมือที่สามที่เลิกแล้วต้องมีคนอื่นคือไม่ใช่มันอยู่ที่นิสัยของแต่ละคนมากกว่า เราคิดกันคนละอย่าง บางทีเราถามอะไรเขาไปเขาก็หาว่าเราขี้หึง บางทีบอกเขากลัวเขาจะเหนื่อยกับการตอบคำถามเขาก็หาว่าเราหึงอีก มันอาจจะเป็นเรื่องของความเข้าใจผิด ตอนนี้มันอยู่ที่นิสัยแล้ว ถ้าตั้งใจจะคบแล้วนิสัยมันจะเข้ากันได้หรือเปล่า"
       
       "ตอนนี้ก็ต่างคนต่างเบรค เมื่อก่อนสนิทกันมาก ตอนนี้กลับมาคิดว่าถ้าเรากลับมาคบกันมันต้องยิ่งใหญ่แล้วต้องจริงจังแล้ว คบอีกกี่ปีถึงจะแต่งงานแต่ตอนนี้ต่างคนถอยมาเพื่อกลับมาดูตัวเอง คิดถึงเวลาที่ผ่านมาถอยกลับมาดูตัวเองว่ามีข้อไหนที่เราเสียบ้างไม่ดีบ้างหรือว่ามีข้อไหนที่นุ้ยเขาเห็นแล้วไม่ดีแต่บางทีอะไรที่ทำไปเจตนาเราไม่ได้เป็นอย่างนั้นนะอยากให้เข้าใจด้วย แต่ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่ไม่ได้เกลียดกันแล้วก็ไม่ได้มีคนอื่นด้วย"
       
       "และที่ไม่ออกมาพูดอะไรเลยเพราะว่านุ้ยเขาออกมาร้องไห้เรื่องนี้แหละ คุยกันเขาก็งอนแล้วก็ขับรถออกไปเลยเราก็ไม่ได้คุยกัน นุ้ยเขารู้สึกว่าเราไม่มีเหตุผล ตามประสาคนครับที่พองอนแล้วก็ไม่ได้คุยกันแล้วพอดีวันนั้นตอนดึกเขาก็ไปเข้าโรงพยาบาลซึ่งผมไม่รู้แน่นอนเราไม่ ได้คุยกันแน่ แล้ววันรุ่งขึ้นนุ้ยเขาก็ไปงานก็มีภาพมีข่าวนั้นออกมาได้ฟังแล้วก็รู้สึกน้อยใจนะ แต่ที่ไม่ได้ไปผมไม่ได้เป็นคนไม่ดีหรือใจร้ายแต่ผมไม่รู้จริงๆว่านุ้ยเข้าโรงพยาบาล ล่าสุดนุ้ยเขาก็เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลติดเชื้อในลำไส้ไปงานที่ต่างจังหวัดแล้วไปทานอาหารที่มีเชื้อแบคทีเรียอยู่นอนโรงพยาบาลไปสองวันให้น้ำเกลือไปสามขวด วันนี้เพิ่งไปรับกลับมาจากโรงพยาบาล"
       
       "ตอนนี้ก็เหมือนเดิมแต่ว่ามันอยู่ที่นิสัย ถ้่าคิดคนละอย่างมันก็คงเข้ากันไม่ได้แต่บางที่ก็รู้สึกดีนะรู้สึกว่าพอเราได้ถอยออกมาดูตัวเอง ก็เริ่มได้คิดอะไรเยอะขึ้นนุ้ยเขาก็มีสิทธ์ที่จะเลือกอยู่แล้วว่าจะเริ่มต้นหรือว่าจะคบต่อไหมหรือจะอยู่คนเดียวไปแบบนี้ถ้าอยู่คนเดียวไปแบบนี้แล้วสบายใจกว่าผมว่าก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่คิดจะทำได้มันก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของเขา แต่ความสัมพันธ์ตอนนี้เราก็คุยกันตลอดเป็นห่วงกันตลอดแต่คงไม่ถึงขนาดเหมือนเมื่อก่อน มันจะมีอะไรมาคอยกั้นอยู่ว่ามันจะไม่เหมือนดิมนะ แต่ว่าความรู้สึกที่เรารู้จักกันไปเรื่อยๆความคิดจะเปลี่ยนไปหรือเปล่าต้องถามใจตัวเองทั้งคู่ให้ดีๆ"
       
       "ถ้าเขามีคนอื่น ณ ตอนนี้มันก็เป็นสิทธ์ของเขาที่จะสามารถคุยกับใครก็ได้ คบกับใครก็ได้แต่ถ้าเขามีใครเขาบอกผมแน่นอนเขาเป็นคนไม่ปิดอยู่แล้ว"
       
       "จริงๆที่ผ่านมาผมก็คิดว่าผมไม่ได้ทำอะไรที่เลวร้าย มันเป็นเพียงมุมของผมที่อธิบายให้นุ้ยฟังแล้วนุ้ยอาจจะไม่เข้าใจ อาจจะคิดว่าทำไมเราถึงขี้หึงขนาดนี้ ไม่มีเหตุผลขนาดนี้ซึ่งผมก็ว่าโตกันแล้วไม่มีเหตุผลขนาดนั้นไม่ใช่ ตอนนี้ก็คืออยากจะเบรคตรงนี้ไว้ก่อน พอก่อนมาคิดเรื่องงานดีกว่าเพราะหลายคนเขาก็บอกว่าอยากให้ผมอยู่แบบนี้ดีแล้ว อยู่นิ่งๆทำงานของตัวเองไปก่อน ส่วนเรื่องคู่ถ้ามันมีเดี๋ยวมันก็เข้ามาเอง เพราะเรื่องแบบนี้เรายิ่งวิ่งตามเขายิ่งวิ่งหนีหรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะว่าฟ้าเขาอาจจะลิขิตมาแล้ว ให้ผมไปเจออะไรที่ไม่ใช่แบบนี้"
       
       ลั่น รู้สึกน้อยใจที่ที่มีข่าวออกมาว่าตนเจ้าชู้
       
       "ผมรู้สึกว่าตอนนี้คนอาจจะมองผมว่าผมเป็นคนเจ้าชู้ อาจจะเป็นเหมือนจีบไปทั่วหรืออาจจะเป็นได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หลายๆข่าวที่ออกมาพอฟังแล้วก็รู้สึกน้อยใจเหมือนกัน ถ้าคนที่รู้จักผมจริงๆจะรู้ว่าผมเป็นคนขี้เล่นชอบพูดกัด คนอาจจะมองว่าไม่จริงจังแต่อยากจะบอกว่าผมเป็นคนจริงจังจริงใจ"
       
       เคลียร์ข่าวเวลาทะเลาะกันแล้วทำร้ายตบตีฝ่ายหญิง โต้ ตนไม่มีนิสัยทำร้ายเพศแม่
       
       "มีข่าวว่าทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือผมอยากจะบอกว่าผมไม่ทำเพศแม่อยู่แล้ว ผู้หญิงผมไม่เคยตีผมไม่เคยเตะมีอะไรผมคุยกันดีๆและตอนนี้อยู่คนเดียวรู้สึกว่าผมมีพลังมากกว่าตอนที่มีคู่มีแฟนเพราะมันทำให้สมาธิเราไปอยู่กับเรื่องความรักเยอะ อยากจะโฟกัสเรื่องงานให้เต็มที่ มันมีเวลาให้ถามตัวเองว่าถ้าไปต่อเราจะสู้ไหม แต่ถ้ามีคนอื่นเข้ามารู้สึกกับคนอื่นไหม ถ้าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับผมจริงๆผมจะยังไง แต่เรื่องแบบนี้มันก็เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ก็อยากอยู่กับการทำงาน ความสัมพันธ์ตอนนี้ก็คงจะคุยกันแบบนี้ มันเป็นครั้งแรกที่ผมถอยห่างออกมาที่ไม่ใช่เรื่องผู้หญิง เมื่อก่อนจริงที่ผมอาจจะเข้าชู้ แต่พอโตขึ้นมันก็ต้องคิดเยอะขึ้นด้วย มันต้องคิดให้โตขึ้นด้วย"
       
       ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าฝ่ายหญิงกลับไปคบกับแฟนเก่า "เชาเชา"รีบ โต้ เป็นสิทธ์ของอีกฝ่าย
       
       "ตอนนี้ยังไงก็คือต้องเบรค เขากลับไปคบกับแฟนเก่ามันก็เป็นสิทธ์ของเขาที่เขาจะเลือกว่าเขาคบกับใครแล้วเขาสบายใจก็คบแต่ผมมีความรู้สึกผมกับนุ้ยถึงไม่ได้คุยกันไม่ได้คบกันผมก็ยังมีความรู้สึกดีๆเพราะเวลาเขาคุยกับผมผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่คนรัก มันเป็นเหมือนกับญาติพี่้น้อง"
       
       
       ฟุ้ง มีสาวๆเข้ามาคุยเยอะ แต่กลัวเสียใจเพราะมีหมอดูทักว่าอาภัพรัก พร้อม ลั่นแต่ตนไม่ได้ปิด
       
       "สาวๆก็มีเข้ามาเยอะครับ แต่เรารู้สึกว่าเรายังไม่อยากเปิดโอกาสถ้าเรายังไม่มั่นใจกับคนอื่น และกับความรักครั้งเก่าเรายังรู้สึกว่าเรายังไม่ได้เคลียร์ เรายังไม่พร้อมที่จะเปิด ยังไม่พร้อมที่จะคบคนใหม่แล้วตัดคนเก่าไปเลย มันยังเหลือความรู้สึกอยู่แต่ตอนนี้อยากจะอยู่คนเดียวไปสักพักก่อน ถ้ามีเมื่อไหร่ได้เห็นแน่นอนครับ"
       
       "ตอนนี้ไม่ได้ปิด โหมหนักเรื่องงานแต่ตัวเองอาภัพเรื่องความรักจริงๆเพราะหมอดู หมอช้าง หมอกฤษณ์ทักมาหลายคนแล้วให้เอาออกก็ไม่ได้เอาออกเพราะว่ามันใกล้ตามากเขาบอกว่ามันเป็นที่รองรับน้ำตา รองรับเรื่องความรัก แต่จริงๆก็อยากเอาออกนะอยากลองดูว่าถ้าเอาออกแล้วมันจะดีไหม "
       
       "ผมเชื่อครับเชื่อเพราะว่าพอผมมีความรักแล้วจะไม่ค่อยสมหวัง ถ้าผมรักเขามากจะไม่สมหวังเลย ถ้าคนไหนที่ผมไม่รักเขาจะรักผม แต่คนไหนที่ผมรู้สึกรักเขาเขาจะรู้สึกเฉยๆ ยังไม่เคยเจอคนที่เขารักผมมากผมรักเขามากอยากจะเจอแบบนี้ อยากเจอคนที่คุยได้ทุกเรื่องคุยแล้วมีอมยิ้มกลับมา"
       
       "ถ้าคนใหม่เข้ามาดีจริงผมก็ยินดีจะเปิดเลย เพราะถึงปิดก็คงปิดไม่มิด อยู่ในที่สว่างคนก็จะเห็นเยอะ ถ้าเป็นความลับคงปิดได้ไม่นานหรือไม่ก็อาจจะปิดไม่ได้เลย ถ้ามีก็คงจะบอกแต่ตอนนี้ก็คงจะเบรค แต่ความรู้สึกดีๆในฐานะที่เป็นพี่น้องเป็นเพื่อนยังมีอยู่แน่นอนครับ"


ที่มา: manager.co.th