Author Topic: "เฮาส์แบรนด์"จุกสะดุดกำลังซื้อทรุด ปรับพอร์ตรับมือราคาดิ่งเร็ว-ลูกค้ายืด  (Read 1160 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

"เฮาส์แบรนด์"จุกสะดุดกำลังซื้อทรุด ปรับพอร์ตรับมือราคาดิ่งเร็ว-ลูกค้ายืดเปลี่ยนเครื่อง


 
มือถือ "เฮาส์แบรนด์" หน้าใหม่คัมแบ็กตลาดอีกรอบ หลังปลายปีที่แล้วเจ็บหนัก ตัดราคาจนถอยทัพไปตั้งหลัก "ขาใหญ่" ยอมรับวิกฤตเศรษฐกิจ-กำลังซื้อหดหายทุบยอดขายร่วง 2 เดือนซ้อน "โฟนวัน-เวลคอม" พลาดเป้า 10-15% ปรับพอร์ตสินค้าพยุงรายได้ เผยลูกค้ารัดเข็มขัดดึงเปลี่ยนเครื่องช้าลง "ไอโมบาย" หันพึ่งตลาด ตปท.-เพิ่มฟีเจอร์มือถือดันมูลค่าสินค้าเพิ่ม ขณะที่ "จีเน็ต" โตสวนกระแส


นายศักดิ์ชัย เลิศเวชกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สินค้าโฟนวัน บริษัท ไวร์เลส ดีไวซ์ ซัพพลาย จำกัด (ดับบลิวดีเอส) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เริ่มมีโทรศัพท์มือถือแบรนด์ใหม่ๆ จากประเทศจีนหลายสิบแบรนด์เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอีกครั้ง หลังซาลงไปมากเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยบางแบรนด์ถึงกับเข้ามาตั้งสำนักงานขายในไทย อาจเพราะตลาดในจีนซึ่งเป็นประเทศ ผู้ผลิตเครื่องไม่ขยายตัว ยอดสั่งซื้อลดลง จึงมีสินค้าทะลักเข้ามาขายในบ้านเรามากขึ้น

ส่วนใหญ่เป็นเครื่องในสินค้ากลุ่มมัลติมีเดีย คือมีกล้องดิจิทัล วิทยุ FM และ MP3 ราคาประมาณ 2-3 พันบาท ทำให้สินค้าเฮาส์แบรนด์เกิดการแข่งขันด้านราคาอย่างรุนแรงและรวดเร็วขึ้น

"ทีวีโมบาย ปกติราคา 3 พันต้นๆ ลดเหลือ 2 พันปลายๆ และคาดว่าน่าจะลดลงอีก จากเดิมที่การปรับราคาลงจะนาน 3-4 เดือน ตอนนี้หลังสินค้าออกสู่ตลาดได้เพียงเดือนกว่า ราคาก็เริ่มไหลลงแล้ว การแข่งขันจึงสูงขึ้นมาก"

ประกอบกับกำลังซื้อในตลาดชะลอตัว ของโฟนวันในช่วง 2 เดือนแรก หายไป 10-20% จากปลายปีขายได้ 6-7 หมื่นเครื่องต่อเดือน เหลือเดือนละ 4 หมื่นเครื่อง โดยกลุˆมสินค้าที่ขายดีมากมีระดับราคา 2-3 พันบาท จากเดิม 4-5 พันบาทขายดี เพราะกำลังซื้อหายไป และโฟนวันไม่มีสินค้ารุ่นใหม่ๆ เปิดตัวในช่วงนี้

ทั้งนี้ตามแผนที่วางไว้ในปีนี้จะมีสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด 20 รุ่น น้อยกว่าปีที่ผ่านมาที่มีกว่า 30 รุ่น เน้นมือถือกลุ่มมัลติมีเดีย ราคาประมาณ 2 พันกว่าบาท และจะเปิดตัวช่วงครึ่งปีหลังมากกว่าครึ่งปีแรก เพราะต้องการรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจ รวมถึงตลาดรวมอย่างใกล้ชิด

สำหรับกลยุทธŒธุรกิจจะพยายามลดวงจรชีวิตของสินค้า ตั้งแต่การผลิตจนถึงวางขายให้สั้นลง จาก 90-120 วัน เหลือ 60 วัน เพื่อให้ราคาสินค้าเหมาะกับสภาพตลาดมากขึ้น และเน้นการจัดกิจกรรมตามต่างจังหวัด ส่วนยอดขายปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 6 แสนเครื่องเท่ากับปีที่ผ่านมา แต่ยอดขายจริงในปีที่แล้วทำได้ 5 แสนเครื่อง

ด้านนายสมชาย รวมก้อนทอง ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท นิวส์เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้จำหน่ายมือถือภายใต้แบรนด์ "เวลคอม" กล่าวถึงตลาดโทรศัพท์มือถือว่า ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา มียอดขายรวมประมาณ 9 แสนเครื่อง แต่ในเดือน ก.พ.ทำได้น้อยกว่า คาดว่าปีนี้ทั้งปียอดขายน่าจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว กำลังซื้อในตลาดชะลอตัวลง ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง แม้แต่ในกลุ่มที่ใช้เฮาส์แบรนด์ จากเดิมเปลี่ยนเครื่องประมาณ 3 เดือนครั้ง เพราะราคาถูก แต่ปัจจุบันใช้เวลา 6-9 เดือน

อย่างไรก็ตามต้องรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงกลางปีอีกครั้งว่าจะกระเตื้องขึ้นหรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าทุกแบรนด์ ์ต่างเข้าสู่โหมดตั้งรับสถานการณ์ ทำให้ตลาดค่อนข้างเงียบเหงา แต่เป็นความจริงที่มีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้นจากสภาพเศรษฐกิจคนมีกำลังซื้อลดลงเฮาส์แบรนด์รายใหม่ๆ มองเห็นช่องว่างทางการตลาด นำสินค้าราคาระดับกลางถึงล่างเข้ามาขาย

"เวลคอมเองช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายลด 10-15% จากปลายปี จากเดือนละ 6 หมื่นกว่าเครื่อง ปัจจุบันเหลือ 5 หมื่นกว่าเชื่อว่าปัจจัยสำคัญมาจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อในตลาดที่หดหายไป 40-50%"

ในแง่ของเวลคอมจะเพิ่มสินค้ารุ่นใหม่ๆ ในแต่ละช่วงราคา ที่เดิมไม่เคยนำเข้ามาทำตลาด อีกทั้งจะเริ่มจัดระเบียบซับดีลเลอร์ที่มีกว่า 4 พันกว่ารายให้ชัดเจนขึ้น แบ่งโซนการขายเพื่อให้สามารถดูแลการขายและสนับสนุนงบประมาณได้แม่นยำขึ้น

โดยในปีนี้จะมีสินค้ารุ่นใหม่ๆ 40 รุ่น จากปีที่แล้ว 30 รุ่น ตั้งเป้ายอดขายสูงกว่า 6 แสนเครื่องที่ทำได้ในปีที่ผ่านมา

"ปีนี้จะพยายามเพิ่มราคาเฉลี่ยมือถือจาก 2.9-3 พันบาท เป็น 3 พันบาทต้นๆ เพื่อให้มีรายได้มากขึ้น เน้นมือถือในกลุ่มทีวีโมบาย เพราะกระแสการใช้งานมีมากขึ้น จากปัจจุบันเฮาส์แบรนด์ส่วนใหญ่โฟกัสสินค้าราคาต่ำกว่า 3 พันบาท"

ด‰านนายธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เฮาส์แบรนด์รายใหม่ยังเข้ามาทำตลาดต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ตนเชื่อว่าภาพรวมในปีนี้จะน้อยลง เพราะผู้ซื้อเริ่มมีปัญหากับเครื่องที่ซื้อมาใช้

สำหรับตลาดรวมใน 2 เดือนแรกของปีอยู่ในภาวะทรงตัวเช่นเดียวกับยอดขาย ไอ-โมบาย ปีนี้จะเปิดตัว 20 รุ่น จากปีที่แล้ว 18 รุ่น โดยสินค้าราคาไม่เกิน 6 พันบาท มีสัดส่วน 80%

"ปีนี้จะเน้นขายสินค้าราคาสูงขึ้น เฉลี่ย 3 พันกว่าบาท จากเดิมราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2 พันกว่าบาท โดยจะเพิ่มฟิวเจอร์ให้เกิดความคุ้มค่าเพื่อทำให้มูลค่ารวมดีขึ้น คาดว่าตลาดของไอ-โมบายในไทยจะโต 1-2% เพราะมีแบรนด์ใหญ่ทำตลาดอยู่แล้ว และการแข่งขันสูง ทำให้ต้องหันไปเน้นตลาดต่างประเทศเป็นหลัก"

นายฑัศ เชาวนเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวร์เลส แอ็ดวานซ์ ซิสเต็มส์ จำกัด ผู้จำหน่ายมือถือยี่ห้อ จีเน็ต กล่าวว่า ตลาดรวมโทรศัพท์มือถือในช่วง 2 เดือนที่ผ่านได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ทำให้ยอดขายรวมลดลง ราคาเฉลี่ยต่อเครื่องก็ตกลง จากเดิม 5 พันกว่าบาท เหลือเพียง 3 พันกว่าบาท เช่นเดียวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มเปลี่ยนไป หันมาประหยัดมากขึ้น เลือกซื้อสินค้าที่มีฟังก์ชั่นครบ แต่ราคาไม่แพง

อย่างไรก็ตามยอดขายของจีเน็ตโตสวนกระแสตลาด เพราะทำได้มากกว่าปีที่แล้ว จากไม่ถึงหลักแสนเป็น 2 แสนเครื่อง ทั้งในเดือน ม.ค. และ ก.พ.2552 ที่ผ่านมา

"จากผลวิจัยพบว่าตลาดมือถือที่มียอดขายตกลงอย่างรุนแรง เป็นเครื่องรุ่นที่มีกล้อง กลุ่มพีดีเอโฟน ซิมเบี้ยน และเบสิกโฟน ขณะที่กลุ่มทีวีโมบาย มือถือ 2 ซิม และมือถือที่รองรับซีดีเอ็มเองยังรักษาอัตราการเติบโตได้ เป็นเซ็กเมนต์ที่ยังโต เพราะแบรนด์หลักไม่ทำตลาด"

สำหรับจีเน็ตในปีนี้จะหันมาเน้นเรื่องการบริการ โดยจะเปิดศูนย์บริการตลอด 24 ช.ม. ภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้แถวรัชดาภิเษก และสาขาถัดไปใกล้เมเจอร์ปิ่นเกล้า โดยในสิ้นปีจะเปิดให้ครบ 20 แห่งทั่วประเทศ

งบฯลงทุนที่เราวางไว้สำหรับในไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 300 ล้านบาท แต่ทั้งปียังต้องประเมินสถานการณ์ในภาพรวมอีกที ในแง่ยอดขายจีเน็ตตั้งเป้าไว้ว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 มียอดขายประมาณ 2 ล้านเครื่อง รายได้รวมที่ 4-5 พันล้านบาท จากปีที่แล้วทำยอดขายได้ประมาณ 2 พันล้านบาท โดยมีแผนเปิดตัวมือถือ 50 กว่ารุ่น โดยเฉพาะในกลุ่มทีวีโมบาย มือถือ 2 ซิม จาก 55 รุ่นใน 2 ปีที่ผ่านมา

ที่มา: matichon.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
7450 Views
Last post February 14, 2009, 12:00:18 AM
by Webmaster
0 Replies
3369 Views
Last post February 21, 2009, 09:50:39 AM
by Nick
0 Replies
4182 Views
Last post March 03, 2009, 06:03:22 PM
by Reporter
0 Replies
6167 Views
Last post March 03, 2009, 06:05:12 PM
by Reporter
0 Replies
2758 Views
Last post March 06, 2009, 11:17:31 PM
by Reporter
0 Replies
2672 Views
Last post March 10, 2009, 08:43:28 AM
by Reporter
0 Replies
2017 Views
Last post March 10, 2009, 10:03:22 AM
by Reporter
0 Replies
2264 Views
Last post March 13, 2009, 03:57:06 PM
by Reporter
0 Replies
2603 Views
Last post March 13, 2009, 05:36:43 PM
by Reporter
0 Replies
2626 Views
Last post March 23, 2009, 11:59:20 PM
by Reporter