แม้แผนบอลไทยไปบอลโลกจะเป็นเรื่องไกลเกินเอื้อม และยุทธศาสตร์ครัวไทยเป็นครัวโลกกลับอ่อนแรงจนต่อไม่ติด แต่ความหวังครั้งใหม่ที่กำลังฉายแสงให้คนไทยกลุ่มหนึ่งมุ่งมั่นสานต่อในขณะนี้ คือการสร้างแบรนด์ไอทีไทยให้ผงาดบนตลาดโลก
ความหวังนี้มี "พีรศักดิ์ ทองนรินทร์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอกซ์ ไอที ไลฟ์ สไตล์ ดอท คอม จำกัด เป็นผู้นำทีม บนภารกิจหลักคือการผลักดันแบรนด์ "VOX" ของตัวเองขึ้นเป็นแบรนด์สินค้ากลุ่มไอทีแอคเซสซอรีดีไซน์เก๋ชั้นนำของโลก เทียบชั้นยักษ์ใหญ่อย่าง Belkin Phillips Logitec หรือแม้แต่ Microsoft
แม้ยุทธวิธีที่พีรศักดิ์เล่าให้"เอเอสทีวีผู้จัดการ" ฟังนั้นจะดูเหมือนเต็มไปด้วยนานาอุปสรรค แต่ต้องยอมรับว่าโอกาส ความมุ่งมั่นตั้งใจ และความเข้าใจตลาดของผู้ชายคนนี้ ทำให้ความฝัน"ไอทีไทยไปตลาดโลก"นั้นมีน้ำหนัก ไม่ใช่ขนมที่หลอกเอาใจคนไทยไปวันๆ
** นิยามความเป็นเราคืออะไร **
เราเป็นเอสเอ็มอีที่กำลังขยายธุรกิจ เราคือ VOX IT LifeStyle เป็นสินค้าไอทีสำหรับคนมีสไตล์ เดี๋ยวนี้สิ่งของรอบตัวเราต้องสวยตั้งเก๋ ขนาดโถส้วมสุขภัณฑ์ยังต้องมีสไตล์
อดีตของเราคือเน้นความอยู่รอดของธุรกิจ ปัจจุบันเรากำลังเน้นสร้างสินค้าที่มีไอเดีย มีมุมมองที่แตกต่าง และมีสไตล์ยิ่งขึ้น อนาคตเราหวังจะเป็นผู้นำด้านไอทีไลฟ์สไตล์ เราจะเป็นแบรนด์ที่คนมองว่ามันคือ Technology บวกกับ Design
** จะทำอย่างไรให้เดินตามอนาคตที่หวังไว้ **
ตลาดในประเทศไทย การตลาด 4P หรือ 5P เราบูรณาการทำร่วมกันหมด ส่วนในต่างประเทศ เรายังต้องใช้เวลา ใช้เงินทุน
กลยุทธ์ที่เราเริ่มทำแล้วในการบุกตลาดต่างประเทศมี 5 ส่วน หนึ่งคือเราจดสิทธิบัตรเครื่องหมายการค้าในประเทศใหญ่ๆ เช่นสหรัฐฯ อังกฤษ ญี่ปุ่น และจีน สองคือเราจะหาตัวแทนจำหน่ายให้คลุมทุกทวีป ตรงนี้เราเน้นกลุ่มที่ต้องการสินค้าราคากลางและอิมเมจดี ไม่ใช่กลุ่มที่เน้นการใช้งานฟังก์ชันอย่างเดียวอย่างเวียดนาม
สามคือทำการตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มคนเมืองที่มีพร้อมทั้งรายได้และรสนิยม สี่คือเราวิจัยและพัฒนาสินค้าให้ตรงความต้องการของตลาด ห้าคือเราพยายามช่วยเหลือดีลเลอร์ให้สามารถทำตลาดได้
งบทำตลาดต่างประเทศปีนี้ใช้ไปเยอะ ประมาณ 20 ล้านบาท คิดว่าจะสร้างแบรนด์ได้ 1-2 ปีนี้ถ้าเราลงทุนเงินเยอะ แต่ถ้าลงทุนปานกลางอาจต้องใช้เวลา 3 ปี
การบุกตลาดต่างประเทศ เรามั่นใจว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง เราช่วยดีลเลอร์และวิจัยตลาดให้ ซึ่งตอนนี้มี 2 โปรเจคใหญ่กับต่างประเทศรออยู่ เป็นโครงการตั้งโรงงานผลิตหมึกพิมพ์ราคาโครงการละ 750,000 เหรียญ ซึ่งรัสเซียและไนจีเรียให้ความสนใจมากเพราะสามารถลดการนำเข้าหมึกพิมพ์ในประเทศได้ ธุรกิจหมึกพิมพ์นี้เราทำควบคู่ไปกับ VOX เรามีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องการผลิตหมึก คาดว่าจะมีโรงงานลักษณะนี้เกิดขึ้นราว 30 โรงงานในต่างประเทศ
สำหรับตลาดในประเทศ เรามีแผนสร้างแบรนด์ให้ติดใน 1 ปี งบการตลาดใช้ไปแล้ว 20 ล้าน จะใช้อีกได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นค่าชั้นวางจุดจำหน่ายกว่า 400 จุด
ผลิตภัณฑ์ของเราครอบคลุมทั้งอุปกรณ์ต่อพ่วงเช่นเมาส์ คีย์บอร์ด ชุดอุปกรณ์ทำความสะอาด สายเคเบิล เรื่อยไปถึงปลั๊กไฟ ที่ทำสินค้าครอบคลุมขนาดนี้เพราะเราศึกษาพบว่า ถ้าลูกค้าชอบภาพลักษณ์แบรนด์ไหน ก็จะกลับมาซื้อแบรนด์นั้นอีก เช่นเดียวกับดีลเลอร์ ที่มักรู้สึกว่าง่ายกว่าถ้าได้สื่อสารในแบรนด์เดียว
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
** เสียงตอบรับ VOX ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเป็นอย่างไร **
ลูกค้าชอบแบรนด์ ตอบรับดีมาก แต่ยอดขายพลาดเป้า เพราะหนึ่งคือการพัฒนาสินค้าครั้งแรกทำได้ล่าช้า ต้องรอการผลิต สองคือวิกฤตการเมือง ความเชื่อมั่นในลูกค้าต่างประเทศลดลง และการวางขายจริงทำได้ช้าลง
เราเริ่มขายจริงได้ช่วงปลายเมษายน ทั้งที่แพลนว่าจะเริ่มเดือนกุมภาพันธ์ แต่ยอดขายต่อเดือนที่ผ่านมาก็เป็นไปตามเป้า แต่ยอดรวมพลาดไปประมาณ 30% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจุดจำหน่ายบางห้างไม่สามารถตั้งได้ตามสัญญาที่ทำไว้
เป้าหมายยอดขายของเราในปีนี้คือ 500 ล้านบาท คิดว่าเป็นตลาดในประเทศ 300 ล้านบาท เป้าหมายนี้ยอมรับว่าสูง แต่เราก็จะพยายามไปในเวลาที่เหลืออีก 5-6 เดือน
ส่วนแบ่งตลาดแอสเซสซอรีในประเทศไทยที่เราต้องการคือ 5-10% จากมูลค่าตลาดรวมในเมืองไทยที่มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ปีนี้เราจะไปจุดวางจำหน่ายโมเดิร์นเทรดพวกโลตัสและเซเว่น และพยายามรุกในตลาดที่ยังไม่สามารถเข้าไปวางจุดจำหน่ายในบางห้าง เช่น โฮมโปร และเพาเวอร์บาย
เราแบ่งช่องทางการตลาดในประเทศไทยออกเป็นร้านค้าปลีกและร้านเครื่องเขียนในกรุงเทพฯ 30% ต่างจังหวัด 35% ขณะที่ห้างและโมเดิร์นเทรดอยู่ที่ 35% ตรงนี้ยอมรับว่าการแข่งขันเรื่องราคาในโมเดิร์นเทรดอาจทำให้สินค้าราคาเสีย เราจึงต้องใช้กลยุทธ์คือเลือกเล่นราคาเฉพาะสินค้าบางตัว
ถามว่าครึ่งปีที่ผ่านมาพอใจไหม ยังไม่พอใจมากเท่าไหร่ ตอนนี้เราเป็นธุรกิจขนาดกลาง ก่อนนี้เราเป็นขนาดเล็ก งบประมาณยังน้อย แต่เรายังมีความรู้ มีทีมดีไซน์เนอร์ เรามีกำลังในการไดร์ฟตลาด แม้จะช้ากว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่ก็เชื่อว่าน่าจะทำได้
งานคอมมาร์ตที่เพิ่งจบไป เราเอาสินค้าเข้าไปขาย 4 วันได้ 1.5 ล้านบาท ก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง ขายได้ทุกกลุ่มสินค้า ทั้งสายเคเบิล เมาส์
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
** เราพบอุปสรรค์อะไรบ้าง **
ตลาดในประเทศ เราพบว่าขั้นตอนการพัฒนาสินค้าทำได้ช้า ขณะเดียวกัน พฤติกรรมลูกค้าต่างจังหวัดและในคนเมืองนั้นต่างกัน ทำให้เราต้องปรับการเข้าถึงกลุ่มตลาดกันใหม่
ตลาดต่างประเทศ เรามีปัญหาเรื่องเงินทุน การไปออกบูธต่างประเทศ ถึงจะได้ผลจริงและได้ลูกค้ามาแต่ก็ต้องใช้เงินสูง อีกปัญหาที่คิดว่าอาจจะมีในอนาคตคือการเลียนแบบสินค้า แต่คิดว่าไม่ติดปัญหาเพราะเราจะดีไซน์ให้เร็ว ใช้วัสดุและดีไซน์ให้แตกต่าง ขณะที่ผู้วางขายสินค้าลายการ์ตูนที่ไม่มีลิขสิทธิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมได้ ที่ห่วงก็คือลูกค้าอาจจะสับสน
** เหนื่อยไหม **
เหนื่อยครับ แต่ถ้าเหนื่อยให้ชินเราก็จะมีความสุขได้
คนที่ท้อแท้ ถ้าไม่ท้อจะสู้ต่อได้ ต้องมองว่าความท้อนั้นเป็นความจริงของชีวิต ถ้าทำให้ความท้อนั้นเหมือนสายน้ำ เมื่อท้อแล้วก็หาทางแก้ไขอย่างมีความสุข เรียกว่าถ้าเครียดแล้วก็ต้องเครียดให้ชิน
** การศึกษาตลาดผู้บริโภคในไทยทำให้เราเรียนรู้อะไรบ้าง **
เราพบว่าคนไทยตกแต่งโน้ตบุ๊กกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจุบันเครือข่ายไว-ไฟนั้นแพร่หลายตามร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า หรือแหล่งนัดรวมตัวอื่นๆ ทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์เริ่มอยากได้เมาส์ที่สวยขึ้น อยากติดลวดลายที่ฝาโน้ตบุ๊ก
คนไทยเริ่มอยากได้อุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือแบบพกพา ไม่ใช่การพกแบตเตอรี่สำรอง เพราะอุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์สามารถเสียบแล้วใช้งานต่อได้เลย ไม่ต้องแกะแบตเตอรี่ ถอดซิมให้ยุ่งยากเหมือนแบตเตอรี่สำรอง ซึ่งเมื่อใส่ซิมการ์ดก็ต้องเสียเวลามาพิมพ์ตั้งวันเวลาในเครื่องใหม่
อีกสิ่งคือคนไทยหลายคนเน้นเลือกสินค้าที่ราคาและคุณภาพ การวิจัยความต้องการทำให้เราพัฒนาปลั๊กไฟโดยเพิ่มดีไซน์ลงไป ออกแบบให้มันดู"กรีน"มากขึ้น เพิ่มความสามารถใหม่เช่นการใส่พอร์ตยูเอสบีลงไป ก็พบว่าสามารถขายได้ดี
ตอนนี้เรามีสินค้าทั้งหมด 1,000 กว่ารุ่น ปีหน้าจะขยายเพิ่มอีกไม่เกิน 1,500 รุ่น นี่คือรวมทุกแบรนด์ในเครือ
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
** เรามองเทรนด์ที่เกิดขึ้นจากการแพร่หลายของร้าน i-Studio ของแอปเปิลหรือเปล่า **
จริงๆ ร้านไอสตูดิโอก็เป็นเบนช์มาร์กที่เราอยากให้ VOX ไปแบบนั้น แต่ไม่ต้องถึงกับนำหน้า แค่เป็นผู้ตามก็ได้
ผมมองว่า ชุมชนชาวพีซีมีมากกว่าแมคอินทอช มีมูลค่าเม็ดเงินในตลาดเหนือกว่า แต่ 90% ของคนใช้พีซียังไม่มีแหล่งหรือสังคมที่จะซื้อหาสินค้าไอทีมีดีไซน์อย่างที่ชาวแมคมี เราจึงตั้งเป้าสร้างชุมชนให้ชาวพีซีด้วยการตั้ง VOX Shop จะเป็นร้านจำหน่ายสินค้า VOX โดยเฉพาะ
เราจับมือกับพันธมิตรเริ่มทำต้นแบบ VOX Shop กว่า 10 รายแล้ว ปีนี้มีแผนขยายเป็น 25 แห่ง เช่น จามจุรีสแควร์ เป็นต้น เป้าหมายของเราคือสร้าง VOX Shop ให้ได้ 50-70 ร้าน
ไม่ใช่เฉพาะผู้ใช้คอมพิวเตอร์พีซี แต่สินค้าของเราเกือบทั้งหมดก็สามารถใช้งานบนแมคอินทอชได้ ปีหน้าเรามีแผนจะออกสินค้าที่เกี่ยวกับบีบีและไอโฟนให้มากขึ้น แต่ละเน้นความแตกต่าง เช่นการสร้างจุดเด่นเรื่องพลังงาน และการติดเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะเห็นความชัดเจนด้านเทคโนโลยียิ่งขึ้นในปีหน้า
** ความเป็นแบรนด์ไทยมีผลกระทบต่อฝันของเราหรือไม่ **
แน่นอนครับ คนไทยส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่นในสินค้าไทย เราใช้วิธีออกแบบให้สากล สื่อสารแบรนด์ให้ดีแต่ก็ไม่ปกปิดว่าเป็นแบรนด์ไทย
อย่างเช่นผลิตภัณฑ์หมึกพิมพ์ คนไทยจะเชื่อถือแบรนด์เยอรมัน ญี่ปุ่น ตรงนี้ก็เป็นปัญหาเหมือนกัน
** ประเทศไหนในตลาดโลกที่เรามองว่าสำคัญที่สุด **
ประเทศใหญ่อย่างสหรัฐฯ และอังกฤษนั้นเป็นตลาดเก่าที่เราลงทุนแบบตามน้ำ เพราะในประเทศใหญ่เหล่านี้มีแบรนด์ดั้งเดิมครองตลาดอยู่แล้ว ตลาดใหญ่ของเราคือตลาดใหม่ที่คนมองหาสินค้าคุณภาพแต่มีราคาปานกลาง เช่นบราซิล อาร์เจนตินา รัสเซีย ยุโรปตะวันออก ดูไบ อีหร่าน นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย
ในอาเซียนคือมาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เช่นเดียวกับจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และอินโดนีเซีย
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
** เราต้องการความช่วยเหลืออะไรจากรัฐบาล **
เราต้องการความจริงใจ และความมุ่งมั่นของหน่วยงานราชการ ต้องบอกว่าสถาบันการเงินของภาครัฐฯพึ่งพาได้น้อยมาก ไม่เหมือนเอกชนที่กระตืนรือร้นและต่อเนื่อง
ภาครัฐนั้นประกาศนโยบายที่สวยหรู แต่การจะทำให้ได้ตามนโยบายที่ให้มานั้นไม่สามารถทำได้แบบขอไปที ซึ่งหากภาครัฐส่งเสริมเอสเอ็มอีถูกทาง เศรษฐกิจประเทศก็จะดีขึ้นด้วย
** อยากฝากอะไรถึงคนอ่าน **
คิดว่าคนไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติอื่น ขอให้สนับสนุนคนไทยด้วยกัน อยากฝากถึงเด็กรุ่นใหม่ให้ตั้งใจเรียน ให้เตรียมความคิดไว้ว่าโตขึ้นแล้วอยากทำธุรกิจอะไร คนไทยทำอะไรได้เยอะอยู่แล้ว
และแม้เมืองไทยจะมีทรัพยากรที่ดีมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญคือเราต้องช่วยตัวเอง จึงจะสร้างความฝันให้สำเร็จได้.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
** เกี่ยวกับ VOX **
- VOX เป็นคำย่อของคำว่า Value, Off beat และ X-Experience หมายความถึงประสบการณ์ใหม่ไม่จำเจ และมีคุณค่าน่าภูมิใจ
- ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ VOX ประกอบด้วยสินค้ากลุ่ม Computer Accessories อาทิ อุปกรณ์ต่อพ่วง เม้าส์ คีย์บอร์ด หูฟัง กระเป๋าคอมพิวเตอร์ Flash Drive เป็นต้น และสินค้ากลุ่ม Digital Accessories อาทิ Mobile Bag, Case, Cable Wrap และ Bluetooth Headset
- VOX Shop คือแฟรนไซส์ที่ผู้สนใจสามารถลงทุนได้ด้วยเงิน 3 แสน - 1 ล้านบาท รายละเอียดเพิ่มเติมที่
www.vox-itstyle.com ** Executive Profile **
ชื่อ : พีรศักดิ์ ทองนรินทร์
อายุ : 38 ปี
ประวัติการศึกษา : Executive MBA มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ประวัติการทำงาน : 2535-2540 ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เวลเทคกรุ๊ป จำกัด
2541-ปัจจุบัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ซีแมซ คอปอร์เรชัน จำกัด
Lifestyle : งานอดิเรก - จัดและตกแต่งสวน อ่านหนังสือ ท่องเที่ยว
กีฬา : เล่นกอล์ฟ ขี่ม้า
Company Related Link :
VOX
ที่มา: manager.co.th