"IBM"บุกตจว. ตั้งทีมประกบ ขยายฐานSMB

[Reporter]

"ไอบีเอ็ม" รุกขยายฐานลูกค้าเอสเอ็มบีและตลาดต่างจังหวัด เดินหน้าตั้งผู้จัดการโฟกัสตลาดโดยเฉพาะ หลังจากปล่อยให้พาร์ตเนอร์ทำตลาดเพียงลำพังมาตลอด สานต่อโครงการ IBM Express Advantage เจาะตลาดภาคใต้ เผยภาพรวมการลงทุนเซ็กเมนต์ที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานมีโอกาสเติบโตสูง หลังรัฐบาลเดินหน้าลงทุนเมกะโปรเจ็กต์


นางพรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจทั่วไป บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กลุ่มเจเนอรัล บิสซิเนส (จีบี) ของไอบีเอ็มที่ตนเองดูแลอยู่เป็นตลาดที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะครอบคลุมบริษัทที่จดทะเบียนกว่า 2 ล้านบริษัท ขณะเดียวกันเป็นเทรนด์ของเกือบทุกประเทศทั่วโลกที่ตลาดเอสเอ็มบีจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

โดยเมื่อปี 2007 ซีอีโอใหญ่ของไอบีเอ็มได้กล่าวว่า ต่อจากนี้อีก 3 ปี กลุ่มเอสเอ็มบีจะเป็นเซ็กเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดของไอบีเอ็ม ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทก็ได้โฟกัสและลงทุนในตลาดกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น

ล่าสุดได้แต่งตั้งผู้จัดการที่ดูแลตลาดขนาดกลางเพื่อโฟกัสตลาดโดยตรง จากเดิมการทำตลาดกลุ่มธุรกิจขนาดกลางจะเป็นการทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์เป็นหลัก ซึ่งครั้งนี้ก็จะมีทีมงานที่เข้าไปพบลูกค้าด้วย

พร้อมกันนี้ได้มีการแต่งตั้งผู้จัดการดูแลตลาดต่างจังหวัดขึ้นอีกหนึ่งตำแหน่ง จากเดิมที่ให้พาร์ตเนอร์เป็นผู้ดูแลเป็หลัก เพราะผลการสำรวจในอาเซียนระบุว่า ยอดการใช้จ่ายด้านไอที 60% อยู่นอกเมืองหลวง ทำให้รุกตลาดพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น

"ปีที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจทั่วไปของไอบีเอ็มในไทยโตแบบก้าวกระโดด จึงต้องการคนมาดูแลด้านกลยุทธ์และขับเคลื่อนตลาดนี้ให้มากขึ้น"

กับทิศทางการทำธุรกิจในปีนี้เพื่อเจาะกลุ่มตลาดขนาดกลาง ยังมีโครงการ "IBM Express Advantage" ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เป็นการเสนอโซลูชั่นให้กลุ่มเอสเอ็มบีพร้อมโปรแกรมสนับสนุนทางการเงิน ที่เร็วง่ายจ่ายคุ้ม เพราะธุรกิจขนาดกลางที่ไอบีเอ็มโฟกัสคือบริษัทที่มีพนักงาน 100-1,000 คน กลุ่มนี้จะไม่มีทีมงานด้านไอที ต้องการโซลูชั่นที่ใช้งานง่าย

หลังเปิดตัวโครงการไปเมื่อปีที่แล‰วได้รับการตอบรับที่ดี บริษัทขนาดเล็กตามต่างจังหวัดหันมาใช้ไอบีเอ็มมากขึ้น จากเดิมที่มองว่าเข้าถึงได้ยากและแพง ปีนี้จะขยายลงสู่ภาคใต้ นอกเหนือจากภาคเหนือ อีสาน และนิคมอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจทำให้การตัดสินใจใช้จ่ายด้านไอทีของแต่ละองค์กรไม่รวดเร็วเหมือนที่ผ่านมา แต่ยังไม่หยุดการลงทุน เพียงระมัดระวังการใช้จ่าย ดูละเอียดขึ้น ต้องการโซลูชั่นลดค่าใช้จ่ายหรือใช้เท่าเดิมแต่ยังขยายกิจการของบริษัทได้ โดยปีนี้ให้ความสำคัญเรื่องซีเคียวริตี้และดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเซ็กเมนต์ที่คาดว่าเติบโตดีคือกลุ่มที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพราะรัฐบาลอัดฉีดผ่านเมกะโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ ทำให้เซ็กเมนต์ที่เกี่ยวข้องเติบโตขึ้น


ที่มา: matichon.co.th