เอปสันนำเสนอโปรเจกเตอร์รุ่นใหม่ 17 รุ่นออกสู่ตลาด หวังรักษาตำแหน่งผู้นำทางด้านยอดขายในเมืองไทย และพร้อมจะเป็นเบอร์ 1 ของตลาดโปรเจกเตอร์ทุกเซกเมนต์ในปีนี้ ชี้สถานการณ์การเมืองไม่นิ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจ แต่มีการปรับตัวเพื่อรองรับไว้แล้ว มั่นใจตลาดยังคงเติบโตได้เนื่องจากหลายธุรกิจยังมีความต้องการนำเสนองานเพื่อรับตลาดใหม่ๆ ในเออีซี และสินค้ามีราคาถูกลงจึงช่วยให้ซื้อได้ไม่ยาก นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมาเอปสันสามารถรักษาตำแหน่งแชมป์แบรนด์โปรเจกเตอร์ที่มียอดขายสูงสุดจากตลาดทั่วโลก เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ในผลิตภัณฑ์นี้เอปสันก็ครองตำแหน่งผู้นำในด้านปริมาณการขายเช่นเดียวกัน จากตลาดรวมโปรเจกเตอร์ในประเทศไทยที่ปัจจุบันมียอดขายประมาณ 1 แสนเครื่องต่อปี และในปีที่ผ่านมาแม้ว่าสถาณการณ์ต่างๆ จะยังไม่เข้าที่ แต่สำหรับตลาดโปรเจกเตอร์เอปสันมองว่ายังสามารถเติบโตขึ้นได้อีก เนื่องจากผู้บริโภคมีความจำเป็นต้องใช้งาน
ล่าสุดเอปสันจึงได้นำเสนอสินค้าใหม่เพิ่มอีก 17 รุ่นเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นอีก โดยตั้งเป้าหมายที่จะขึ้นสู่อันดับหนึ่งได้ทุกเซกเมนต์ในปีนี้ โดยเฉพาะในตลาดโปรเจกเตอร์ที่มีความสว่างสูงกว่า 4,000 ลูเมนส์ ซึ่งเป็นเซกเมนต์เดียวที่เอปสันอยู่ในอันดับที่สอง แต่ขณะนี้มีช่องว่างส่วนแบ่งตลาดจากอันดับหนึ่งไม่มากแล้ว
“การใกล้เข้ามาของการเปิดประชาคมอาเซียน หรือเออีซี จะทำให้ภาคธุรกิจต่างๆ มีความจำเป็นต้องใช้โปรเจกเตอร์ในการนำเสนองาน ประกอบกับในปัจจุบันโปรเจกเตอร์มีราคาที่ถูกลง ทำให้หลายหน่วยงานให้ความสนใจและตัดสินใจลงทุนซื้อได้ไม่ยาก จึงเป็นโอกาสดีที่เอปสันได้ออกสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยจะกระจายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อสร้างฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น ซึ่งปัจจุบันเอปสันมีศูนย์บริการทั่วประเทศอยู่ทั้งสิ้น 135 แห่ง”
นายยรรยงกล่าวต่อว่า ปัญหาทางการเมืองส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างแน่นอน ทำให้ตลาดโปรเจกเตอร์ไม่มีการขยายตัวอย่างเด่นชัด ซึ่งเอปสันจะใช้ช่วงเวลานี้ในการเตรียมพร้อมภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในองค์กรให้มีความแข็งแรง ทำการบริหรจัดการสต๊อกและยอดขายให้มีความสมดุลกัน รวมไปถึงการพัฒนาศักยภาพของคู่ค้าให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา
สำหรับกลยุทธ์ในการขึ้นสู่ผู้นำทางการตลาดในทุกเซกเมนต์ของตลาดโปรเจกเตอร์นั้น เอปสันได้เตรียมดำเนินการใน 4 เรื่องหลักๆ คือ 1. การพัฒนาสินค้าให้ตรงความต้องการและตอบโจทย์ลูกค้าในทุกกลุ่ม ชูจุดเด่นด้านการเชื่อมต่อที่หลากหลาย เพื่อตอบรับกับพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า 2. การนำเสนอเทคโนโลยี 3LCD ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เอปสันคิดค้นมาด้วยตัวเองให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น 3. การพัฒนาทางด้านคู่ค้าอยู่ตลอดเวลา ทั้งทางด้านการเทรนนิ่ง และการช่วยสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายให้การขายเป็นไปอย่างมืออาชีพ และ 4. การบริการหลังการขายที่จะพัฒนาให้ดีขึ้นจากเดิมที่ดีอยู่แล้ว
“ปัจจุบันพฤติกรรมของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงไป โดยหันมาใช้แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนกันมากขึ้น ซึ่งโปรเจกเตอร์ของเอปสันรุ่นใหม่ๆ ทุกรุ่นได้รับการพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อกับทุกอุปกรณ์และทุกระบบปฏิบัติการ รวมไปถึงการเชื่อมต่อรูปแบบใหม่ อย่าง MHL หรือ Mobile High-Definition Link รวมไปถึงการใช้หลอดภาพรุ่นใหม่ที่ให้อายุงานยาวนานมากถึง 6,000 ชั่วโมง ในราคาสุดประหยัดเพียง 3,750 บาท จึงน่าจะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกได้ไม่ยาก”
สำหรับสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในครั้งนี้ ประกอบด้วยเครื่องจาก 3 ซีรีส์ ได้แก่ Smart Series รวม 10 รุ่น Evolution Series 5 รุ่น และ Home Series 2 รุ่น โปรเจกเตอร์ใน Smart Series จะมีระดับความสว่างตั้งแต่ 2,700-3,500 ลูเมนส์ เน้นที่ฟังก์ชันครบครัน การเชื่อมต่อ Wi-Fi ผ่าน ELPAP907 แลนอะแดปเตอร์ของเอปสัน และพอร์ตเชื่อมต่อ USB และ HDMI เหมาะต่อการนำเสนองานในทุกรูปแบบ ซึ่งเปิดตัวรวม 10 รุ่น
ในกลุ่ม Evolution Series เปิดตัว 5 รุ่น ได้แก่ EB-97, EB-98, EB-945, EB-955W และ EB-965 มีจุดเด่นที่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ในการฉายภาพได้พร้อมกันหลายเครื่อง (Multi PC Projection) และการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ได้
สำหรับในกลุ่ม Home Series เปิดตัว EH-TW5200 และ EH-TW8200 โปรเจกเตอร์ที่ช่วยยกระดับความบันเทิงภายในบ้านในรูปแบบ Full HD และระบบ 3 มิติ ด้วยความละเอียด 1,080P โดยในรุ่น EB-TW5200 สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และมีพอร์ต MHL ในตัวจำนวน 2 ช่อง
นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นยังช่วยเพิ่มอรรถรสการชมภาพยนตร์ โดยเปลี่ยนจากรูปแบบ 2 มิติ เป็น 3 มิติ ภาพคมชัดสมจริง ด้วยเทคโนโลยี C2Fine (Crystal Clear Fine) และระบบแว่นแบบใหม่ RF 3D Technology ที่เชื่อมต่อกับโปรเจกเตอร์ผ่านความถี่วิทยุให้รัศมีไกลถึง 10 เมตร โดยไม่มีปัญหาสัญญาณถูกรบกวน
Company Relate Link :
Epson
ที่มา: manager.co.th