"ไอซีอีคอนซัลติ้ง"ขอโต30% ลูกค้าปลดคนพึ่ง"เอาต์ซอร์ซ"

[Reporter]

"ไอซีอี คอนซัลติ้ง" เผยแนวโน้มลูกค้าองค์กรเลย์ออฟพนักงานไอที หันมา "เอาต์ซอร์ซ" งานข้างนอกเพิ่มสูงขึ้นเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย ขณะนี้บริษัทเตรียมส่ง แอปพลิเคชั่นด้าน "เอชอาร์" และ "บิสซิเนส อินเทลลิเจนซ์" รองรับกระแสรัดเข็มขัดเน้นการพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ


นางกาญจนา ลิ้มปัญญาเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอซีอี คอนซัลติ้ง จำกัด ผู้ให้คำปรึกษาและติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ ERP ของออราเคิล กล่าวถึงภาพรวมตลาดองค์กรในช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า หลายๆ บริษัทชะลอการลงทุนระบบไอที และเริ่มมีการปลดพนักงานด้านไอทีที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ เช่น งาน helpdesk support แล้วหันมาเอาต์ซอร์ซงานประเภทนี้แก่บริษัทภายนอก เพราะจะช่วยให้ต้นทุนคงที่และวัดผลได้เป็นรูปธรรม ซึ่งก็ถือว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจ

กลยุทธ์ของบริษัทปีนี้จะเน้นสร้างรายได้ด้วยการต่อยอดจากฐานลูกค้าเดิมด้วยการหาแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติมเข้าไป รวมทั้งการเอาต์ซอร์ซงานประเภทเทคนิเคิลซัพพอร์ตและแอปพลิเคชั่นซัพพอร์ตต่างๆ การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่มีจุดแข็งในส่วนที่เรายังขาดอยู่แทนที่จะสร้างทีมเอง

สำหรับแอปพลิเคชั่นที่จะเน้นทำตลาดปีนี้มี 3 กลุ่ม ได้แก่ แอปพลิเคชั่นทางด้าน human capital management เพราะกระแสเริ่มมาตั้งแต่ปีก่อน และในช่วงนี้จะเห็นการเลย์ออฟพนักงานมากขึ้น ซึ่ง พนักงานที่เหลืออยู่หมายถึงทรัพยากรสำคัญที่บริษัทต้องการเก็บตัวไว้และต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพบุคลากรให้สูงขึ้น โดยบริษัทจะมีแอปพลิเคชั่น salf-service เพื่อบริหารจัดการงานแอดมิตต่างๆ เพื่อลดภาระงานของฝ่ายเอชอาร์ รวมทั้งแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับการบริหารประสิทธิภาพบุคลากร เช่น มีตัววัดว่างานลักษณะไหนควรมีทักษะทางด้านใด และพนักงานที่จะอยู่ในตำแหน่งต้องได้รับการฝึกอบรมอะไรบ้าง ในภาพรวมของบริษัทก็จะทราบว่าแต่ละบริษัทมีจุดแข็งทางด้านใดและควรพัฒนาความสามารถทางด้านใดมากขึ้น

กลุ่มที่ 2 ได้แก่ แอปพลิเคชั่นทางด้าน business intelligence โดยเฉพาะในปีนี้แต่ละบริษัทจะต้องดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบและวิเคราะห์มากขึ้น ซึ่งจากที่บริษัทได้สัมผัสกับองค์กรหลายๆ แห่งพบว่าการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ทำบนสเปรดชีต ซึ่งมักจะพบปัญหาเกี่ยวกับความรวดเร็วในการดึงข้อมูลมาวิเคราะห์และความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งโซลูชั่นของออราเคิลจะช่วยให้ลดความผิดพลาดของข้อมูลอันเกิดจากมนุษย์ และการดึงข้อมูลมาใช้ทำได้เร็วกว่า และกลุ่มที่ 3 คือ oracle business accelerators (OBA) หรือระบบการติดตั้งแอปพลิเคชั่นอัตโนมัติของออราเคิลที่ช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนได้ดีขึ้น

"ปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขาย 30% จากปีก่อนซึ่งมีรายได้ 261 ล้านบาท ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แต่เราคิดว่ายังมีอีกหลายๆ ธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบและยังสามารถลงทุนระบบไอที เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ เช่น ภาคอุตสาหกรรมเกษตรซึ่งแม้เศรษฐกิจจะแย่ แต่คนก็ยังต้องกินต้องใช้อยู่ รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีซึ่งเราจะเจาะตลาดไปตามนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ"

ที่มา: matichon.co.th