เมนทาแกรมส่งกล้องเอาต์ดอร์ GoPro ใหม่ Hero3+ พร้อมกัน 2 รุ่น หวังกระตุ้นยอดขายเดือนละ 20 ล้านบาท ตั้งเป้าโตเท่าตัวและปิดยอดทั้งปีที่ 250 ล้านบาท พร้อมขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ให้กว้างขึ้นโดยเฉพาะตลาดครอบครัวและผู้หลงใหลเทคโนโลยี เตรียมเพิ่มตัวแทนจำหน่ายเป็น 250 ราย จากเดิมที่มีอยู่ 150 ราย ด้านกลยุทธ์การตลาดเน้นออกงานเทรดโชว์และจับมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับกีฬาเอ็กซ์ตรีม ล่าสุดจับมือกับเรดบูล คาดว่าจะมีกิจกรรมร่วมกันเร็วๆ นี้ นายณัฐพล ปัทมพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมนทาแกรม จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ทำการเปิดตัวกล้องโกโปรรุ่นใหม่ล่าสุด Hero3+ เพื่อเป็นการเพิ่มไลน์สินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยกล้องโกโปร Hero3+ เป็นกล้องที่พัฒนาต่อยอดจาก Hero3 ซึ่งเป็นกล้องโกโปรที่ขายดีที่สุดทั่วโลก มาพร้อมกัน 2 รุ่น ประกอบด้วย HERO3+ Black Edition และ The HERO3+ Silver Edition โดยตั้งเป้าหมายการขายไว้ที่ประมาณ 20 ล้านบาทต่อเดือน และคาดว่าจะสร้างรายได้ทั้งปีได้ที่ 250 ล้านบาท โตขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับยอดขายในปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 110 ล้านบาท
เมนทาแกรม จำกัด ถือเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกล้องโกโปรแต่เพียงผู้เดียว ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายประมาณ 150 รายทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมานำเสนอผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาดแล้วประมาณ 6 รุ่น โดยจุดเด่นของโกโปรอยู่ที่ความสามารถบันทึกภาพที่ตื่นตาตื่นใจขณะทำกิจกรรมโปรด HERO เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องที่สามารถสวมและติดตั้งกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ เป็นที่นิยมใช้ในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป นักกีฬา และผู้ผลิตวิดีโอและรายการโทรทัศน์
“กลุ่มเป้าหมายหลักของโกโปรเป็นกลุ่มที่เป็นแฟนของกล้องโกโปรอยู่แล้ว ได้แก่ นักกีฬาทั้งทางบกและทางน้ำ เช่น แข่งรถ แข่งจักรยาน กีฬาเอ็กซ์ตรีม เรือใบ ดำน้ำ ล่องแก่ง ทั้งระดับมืออาชีพและมือสมัครเล่น และผู้ประกอบอาชีพหรือมีงานอดิเรกด้านการถ่ายภาพทั้งหมดนี้จะใช้กล้องโกโปรเพื่อบันทึกภาพประสบการณ์สุดเร้าใจที่เกิดขึ้นตรงหน้า ในสถานการณ์ที่กล้องทั่วไปไม่สามารถทำได้”
นายณัฐพลกล่าวว่า การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ เมนทาแกรมต้องการขยายกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ เจาะตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ขึ้นไปยังผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีหรือ gadget ซึ่งเพิ่มขึ้นตามประชากรคนรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโต และกลุ่มครอบครัว ซึ่งจะมองเห็นความคุ้มค่าในการใช้งาน เนื่องจากกล้องโกโปรสามารถใช้ได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ และสามารถใช้งานได้ในทุกสถานการณ์
โดยในปีหน้าเตรียมที่จะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายให้เพิ่มขึ้นเป็น 250 ราย จากเดิมที่เน้นวางขายในร้านพิเศษเฉพาะทาง เช่น ร้านมอเตอร์ไซค์ เวคบอร์ด แต่นับจากนี้จะขยายไปในร้านแกดเจ็ต ร้านกล้อง และเตรียมเปิดเทรนนิ่งเซ็นเตอร์
ส่วนแผนการตลาดของกล้องโกโปรนอกเหนือไปจากการเพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่ายแล้ว ยังจะมีแผนการประชาสัมพันธ์ผ่านทางคอนซูเมอร์เทรดโชว์ อาทิ งานบางกอกออโตซาลอน ซึ่งทางเมนทาแกรมจะเข้าไปช่วยร้านค้าจัดงาน นอกจากนี้ยังได้เข้าเป็นพันธมิตรกับทีมแข่งรถต่างๆ เช่น เฟอร์รารี่ โลตัส และกำลังจับมือกับเรดบูลที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา โดยปัจจุบันเมนทาแกรมมีการเติบโตในประเทศไทย 100% ทุกปี ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 4 แล้ว และคาดว่าการเติบโตดังกล่าวจะรักษาไปได้อีก 2 ปี เนื่องจากพฤติกรรมของคนไทยเริ่มหันมาเล่นกีฬากันมากขึ้น
“ปัจจุบันมีการแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ที่บันทึกด้วยกล้องโกโปรทั้งจากผู้ใช้งานทั่วไปและมืออาชีพบนโลกออนไลน์ โดยเฉลี่ยจะมีวิดีโอที่ติดแท็ก “GoPro” อัปโหลดบน YouTube 3 เรื่องทุกๆ 1 นาที จึงมีความมั่นใจว่ายังสามารถจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการความแตกต่างได้เป็นอย่างดี และแม้ขณะนี้จะมีคู่แข่งอย่างโซนี่ที่ทำกล้องนำเสนอตลาดในลักษณะเดียวกัน แต่มั่นใจว่าด้วยผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาก่อนมีอินเฮาส์ที่อเมริกา มีดีไซน์ของตัวเอง และมีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนอยู่แล้วจะทำให้ลูกค้าเลือกโกโปรมากกว่า ดังนั้นแม้จะมีคู่แข่งใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่เราก็พร้อมรับมือเพราะเรามีตัวแทนจำหน่ายที่ครอบคลุม และเรารู้กลุ่มลูกค้าความต้องการอยู่แล้ว ที่สำคัญคือเราจะดันตัวเองให้ล้ำหน้าออกไปเสมอ”
สำหรับ GoPro Hero3+ รุ่นใหม่มีขนาดเล็กและเบากว่าเดิมถึง 20% ด้วยประสิทธิภาพใหม่พร้อมเลนส์ที่คมชัดยิ่งขึ้น และโหมด SuperView ทำให้ Hero3+ เป็นกล้องโกโปรรุ่นที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน นอกจากนี้ เมนทาแกรมยังวางจำหน่ายอุปกรณ์เสริมอีกมากเพื่อเพิ่มศักยภาพในการบันทึกภาพในทุกกิจกรรม โดยราคา HERO3+ Black Edition 14,500 บาท และ The HERO3+ Silver Edition ราคา 11,200 บาท
Company Relate Link :
GoPro
ที่มา: manager.co.th