กสทช. เผยดีพีซีเล็งปิดระบบ 1800 MHz ต.ค.นี้

[Nick]

“ฐากร” ระบุดีพีซีเตรียมปิดระบบ 1800 MHz สิ้นเดือน ต.ค.นี้ ส่วนคณะทำงานตรวจสอบรายได้ช่วงเยียวยายังไม่คืบหน้า แต่วางกรอบเบื้องต้นแล้ว
       
       นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ความคืบหน้าการดำเนินการเยียวยาผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือระบบ 1800 MHz หลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุดเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 56 ผู้บริหารบริษัท ดิจิตอลโฟน หรือดีพีซี ได้แจ้งว่า ภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้จะสามารถปิดระบบโทรศัพท์มือถือ 1800 MHz ได้ โดยปัจจุบันได้มีการโอนย้ายลูกค้าแล้ว 20,000 เลขหมาย จากเดิมมีลูกค้า 74,219 เลขหมาย และจะมีการโอนย้ายลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
       
       ส่วนบริษัท ทรูมูฟ ได้โอนย้ายลูกค้าแล้ว 900,000 เลขหมาย และรอคิวการโอนย้ายอีก 1.1 ล้านเลขหมาย โดยทรูมูฟมีลูกค้ารวม 17.7 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นระบบเติมเงิน (พรีเพด) 17.4 ล้านเลขหมาย ส่วนอีก 300,000 เลขหมายเป็นระบบจดทะเบียน
       
       ทั้งนี้ ในประเด็นการคำนวณรายได้ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการคุ้มครองผู้ใช้บริการตามประกาศเรื่องมาตรการคุ้มครอง ผู้ใช้บริการกรณีการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานนั้น ยังคงต้องรอคณะทำงานตรวจสอบรายได้ส่งรัฐ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถแต่งตั้งได้ เนื่องจากต้องรอแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นกรรมการก่อน
       
       อย่างไรก็ตาม กสทช.ได้กำหนดกรอบการคำนวณต้นทุนไว้ 2 ข้อที่อ้างอิงได้ คือ 1. อัตราค่าบริการไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาที ตามประกาศกสทช.เรื่องอัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการ โทรศัพท์มือถือประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ. 2555 และ 2. เงินรายได้ที่ผู้รับสัมปทานส่งให้แก่บริษัท กสท โทรคมนาคม ในฐานะผู้ให้สัมปทาน และกสท ส่งเป็นรายได้แผ่นดิน โดยกรอบการพิจารณาต้นทุนทั้งหมดในช่วงเยียวยานั้น จะกำหนดความชัดเจนว่า ผู้ประกอบการแต่ละรายละเอียดมีค่าใช้จ่ายเช่าโครงข่ายเท่าใด ค่าธรรมเนียมเลขหมาย และค่าบริหารจัดการต่างๆ เท่าไหร่
       
       “เชื่อว่าเมื่อยอดผู้ใช้บริการลดลง ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ต้องลดลงตามไปด้วย ดังนั้นขอยืนยันว่ารัฐจะไม่เสียหาย และต้องได้รับประโยชน์จากการออกมาตรการเยียวยา เช่นเดียวกับผู้บริโภคต้องได้ใช้บริการตามปกติ”
       
       ดีพีซีเร่งปิดระบบหวั่นขาดทุน
       
       นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า การโอนย้ายลูกค้าที่มีทั้งหมดของดีพีซี 7.4 หมื่นเลขหมายในเวลา 1 เดือนนั้นบริษัททำได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้บริการด้วยเช่นกัน ว่าจะมีความยินยอมที่จะโอนย้ายไปสู่ระบบใดที่ความถี่ 900 MHz หรือ 2.1 GHz
       
       ทั้งนี้ การที่ต้องรีบโอนย้ายเลขหมายของดีพีซีทั้งหมดภายใน 1 เดือนนั้น เนื่องจากหากยังมีลูกค้าค้างในระบบจำนวนไม่มาก บริษัทก็จะขาดทุน เพราะการให้บริการโทรศัพท์มือถือไม่สามารถเปิดโครงข่ายเพียงส่วนใดส่วนหนี่งได้ ต้องให้บริการด้วยโครงข่ายทั้งหมด
       
       ค่ายมือถือช่วยน้ำท่วม
       
       นายฐากรกล่าวว่า ภายหลังการหารือกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในการออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างต่อเนื่องนั้น ผู้ประกอบการทุกรายพร้อมที่จะขยายเวลาการชำระค่าบริการออกไปจากกำหนดเดิม แบ่งเป็นระบบเติมเงิน (พรีเพด) ที่มีลูกค้าใช้งานมากสุด ในจังหวัดพื้นที่น้ำท่วม เอไอเอสจะมีการเพิ่มวันใช้งานให้ผู้ใช้บริการ 30 วัน และมีการตั้งเต็นท์ให้บริการเติมเงินในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม และมีการเข้าไปให้บริการเติมเงินในพื้นที่ด้วย ดีแทคจะมีการเพิ่มวันใช้งานให้ผู้ใช้บริการ 15 วัน และสำหรับลูกค้าที่มีเงินคงเหลือในระบบน้อยกว่า 30 บาท ให้สามารถโทร.หาเลขหมายในเครือข่ายเดียวกันฟรีเป็นระยะเวลา 3 วัน ส่วนทรูมูฟจะมีการเพิ่มวันใช้งานให้ผู้ใช้บริการ 30 วัน พร้อมเติมเงินฟรีคนละ 20 บาท และให้ใช้บริการ sms ฉุกเฉินฟรี
       
       กรณีบริการระบบรายเดือน (โพสต์เพด) ในจังหวัดพื้นที่น้ำท่วมเอไอเอสจะมีการขยายเวลาในการชำระค่าบริการไปครั้งละ 15 วัน และจะไม่มีการระงับการให้บริการสำหรับลูกค่าระบบรายเดือนที่อยู่ในพื้นที่ ประสบอุทกภัย ดีแทคจะมีการขยายเวลาในการชำระค่าบริการไปครั้งละ 15 วัน และจะเพิ่มวงเงินค่าโทรศัพท์ให้สำหรับผู้ที่มีวงเงินต่ำกว่า 500 บาท อีกคนละ 500 บาท เป็นวงเงินคนละไม่เกิน 1,000 บาท ทรูมูฟได้มีการขยายเวลาในการชำระค่าบริการไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556
       
       สำหรับเซลไซต์ที่ล่มในจังหวัดพื้นที่น้ำท่วมนั้น พบว่าเซลไซต์ของทรูมูฟล่ม 1 เซลไซต์ที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งขณะนี้ยังทำการกู้ไม่ได้ แต่ได้มีการปรับความแรงของสัญญาณเซลไซต์โดยรอบช่วย ทำให้ขณะนี้สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้เป็นปกติแล้ว ในส่วนเซลไซต์ของดีแทคได้มีการยกระดับความสูงของตู้คอนเทนเนอร์แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเซลไซต์ล่ม สำหรับเซลไซต์ของเอไอเอสล่ม 1 เซลไซต์ที่จังหวัดอุบลราชธานี ยังไม่สามารถกู้ได้ แต่ได้จัดรถโมบายเข้าไปในพื้นที่ ทำให้ขณะนี้สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้เป็นปกติแล้ว ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทั้ง 3 รายได้มีการเตรียมความพร้อมมีการจัดรถโมบายเตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์อยู่แล้ว
       
       นายฐากรกล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคมนี้ สำนักงาน กสทช.พร้อมด้วยผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3 ราย คือ เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ จะออกคาราวานไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยรถจะออกจากสำนักงาน กสทช. เวลา 08.00 น. ทั้งนี้ หากประชาชนในพื้นที่จังหวัดที่ถูกน้ำท่วม พบปัญหาโครงข่ายโทรศัพท์ถูกน้ำท่วม หรือโทรศัพท์ใช้งานไม่ได้ ขอให้แจ้งมูลมายังสำนักงาน กสทช. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสำนักงาน กสทช. คอลเซ็นเตอร์ 1200 หรือ sms 1200 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือเว็บไซต์สำนักงาน กสทช. www.nbtc.go.th เพื่อสำนักงานฯ จะได้เข้าไปแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด
       
       Company Related Link :
       กสทช.

ที่มา: manager.co.th