ณัฐพล อภิลักโตยานันท์ ผู้จัดการประจำประเทศมาเลเซียและไทย ซีเอ เทคโนโลยี ผู้เชี่ยวชาญซีเอ เทคโนโลยี ฟันธง ชี้ 5 เทคโนโลยีสำคัญที่จะกำหนดทิศทางเทรนด์ใหม่ปี 2013 ดาต้าจะขยายตัวอย่างมาก ธุรกิจเอนเตอร์ไพรส์หันมาใช้คลาวด์สาธารณะมากขึ้น อีกกระแสกำลังมาคือ DevOps ณัฐพล อภิลักโตยานันท์ ผู้จัดการประจำประเทศมาเลเซียและไทย ซีเอ เทคโนโลยี กล่าวว่า ในปี 2013 ไอทีจะเป็นตัวขับเคลื่อนการแข่งขันทางธุรกิจ โดย CIO จะต้องมีโมเดลที่สามารถนำเสนอเซอร์วิสได้อย่างครบวงจร นำเอาทุกส่วน และทุกเทคโนโลยีมาสร้างรวมเป็นการใช้งานที่ยูสเซอร์พอใจ ถ้าจะตามกระแสให้ได้ ตัว CIO จะต้องทำหน้าที่เป็นทั้งผู้พัฒนานวัตกรรมเชิงธุรกิจ และผู้ประสานรวมระบบ สามารถจัดการดูแลเซอร์วิสที่หลากหลายและรวมเข้ามานำเสนอให้แตกต่างตามความต้องการของแต่ละเซอร์วิสให้ได้ นอกจากนี้ ฝ่าย IT จะต้องทำหน้าที่เป็นทั้งกุนซือที่ทุกคนวางใจ และผู้ประสานงานเซอร์วิสที่ประกันคุณภาพได้เสมอ
ในเรื่องดาต้าจะเกิดการขยายตัวอย่างมาก ไม่ได้ใหญ่แค่ขนาดเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มากมาย ผู้บริหารระบบข้อมูลจะมีบทบาทสำคัญในการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอย่างเป็นกลางและนำไปใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ
ในส่วนธุรกิจเอนเตอร์ไพรส์หันมาใช้คลาวด์สาธารณะมากขึ้น จากการขยายตัวของบริการจากเซอร์วิสโพรวายเดอร์มากมายโดยเฉพาะจากรายใหญ่ๆ อย่างบริษัทเทเลคอม ที่ได้รับการวางใจจากภาคธุรกิจอยู่แล้ว ดังนั้นธุรกิจเอนเตอร์ไพรส์จะหันมาใช้คลาวด์สาธารณะที่อยู่นอกบริษัทมากขึ้น ในขณะที่ทางผู้ให้บริการคลาวด์ก็จะขยายตัวทั้งในเรื่องเทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจ ระบบคลาวด์จะเริ่มขยายตัวสูงนอกตลาดสหรัฐฯ ในขณะที่ความฮือฮาของคอมพิวเตอร์ระบบคลาวด์ก็จะซาลง เพราะคนเริ่มเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่ปฏิบัติกันทั่วไปแล้ว
นับจากนี้ต่อไปขอบเขตของบริษัทอยู่ที่ไอดี ผู้ใช้ระบบเอนเตอร์ไพรส์จะมาจากทุกที่ทุกเวลา การใช้งานระบบคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นและการทำงานประสานกันข้ามโลกกับลูกค้าและพาร์ตเนอร์ผ่านหลายชนิดอุปกรณ์เชื่อมต่อ ทั้งหมดนี้ทำให้พรมแดนไอทีของบริษัททั่วไปเปลี่ยนไป และมืออาชีพด้านการรักษาความปลอดภัยกำลังเจอปัญหาการรับมือจากทุกด้านโดยมีตัวแปรสำคัญอยู่ที่ไอดีของผู้ใช้งาน
การระบาดของโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน แนวคิด BYOD ที่อนุญาตให้พนักงานเอาเครื่องมาใช้ที่ทำงาน คอมพิวเตอร์ระบบคลาวด์ กระแสบิ๊กดาต้า และการรักษาความปลอดภัยได้ทำให้ทุกอย่างซับซ้อนขึ้น ในอดีตเทคโนโลยีเคยเป็นการใช้แบบล็อกอินล็อกออฟ ยูสเซอร์เข้าแล้วออกจากระบบ และระบบไอทีชัดเจนว่าอะไรอยู่ตรงไหน แต่ในโลกที่เชื่อมต่อกันหมดในปัจจุบัน ตัวเทคโนโลยีได้พัฒนาไปไกลกว่าแค่การรันระบบ แต่ไปสู่การขับเคลื่อนและพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจอย่างชาญฉลาด
อีกกระแสที่น่าจับตา DevOps กำลังมา การประมวลผลอัจฉริยะที่มีในทุกชิ้นทุกอุปกรณ์ของโลกเราทุกวันนี้ทำให้งานไอทีซับซ้อนกว่าที่เคยเป็นมา และต้องมีการวางแผนกันให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะเขียนโค้ดโปรแกรมกันด้วยซ้ำไป
ความยืดหยุ่นคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้ทั้งดีเวลอปเปอร์หรือผู้พัฒนา ผู้ทดสอบโปรแกรม และธุรกิจเจ้าของโปรเจกต์ต้องทำงานอย่างใกล้ชิด กระแส DevOps กำลังผลักดันให้มีการออกแบบซอฟต์แวร์ที่เน้นประสบการณ์การใช้งานจริง โดย CIO ยุคต่อไปจะวุ่นวายกับการดูแลตัวเครื่องและอุปกรณ์น้อยลง แต่ต้องห่วงบริหารจัดการแอปฯ กันมากขึ้น ขณะเดียวกัน ในสถานการณ์ที่เซอร์วิสต่างๆ เคลื่อนย้ายไปสู่ระบบคลาวด์จนหมดและผู้ใช้ก็ไม่อยากจะมาดูโครงสร้างระบบต่างๆ ด้วยตนเอง
ที่มา: manager.co.th