นายไมเคิล แมคโดนัลด์ หัวเว่ยโรดโชว์บรอดแบนด์บนเครือข่าย 3G และ 4G ในไทย ชู 3 โซลูชันทั้งเครือข่าย แอปพลิเคชันและดีไวส์ ตอบโจทย์กระแสโมบายบรอดแบนด์ ลั่นโอเปอเรเตอร์มือถือในไทยเลือกใช้โซลูชัน 3G ทุกราย แม้กระทั่งดีแทคก็ยังเปลี่ยนใจ หลังพบจุดเด่นส่งอุปกรณ์เร็วกว่าใคร นายไมเคิล แมคโดนัลด์ หัวหน้าคณะผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยี ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท หัวเว่ย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญของหัวเว่ยในภูมิภาคนี้ ปัจจุบันหัวเว่ยมีส่วนแบ่งตลาดเน็กเวิร์กไร้สาย 2G เป็นอันดับหนึ่ง ขณะที่เทคโนโลยี 3G และ 4G หรือ LTE หัวเว่ยก็มีส่วนร่วมทั้ง 2 เทคโนโลยี ในส่วนของ 3G หัวเว่ยมีโซลูชันที่สามารถให้บริการทั้ง 2G, 3G และ 4G ภายในอุปกรณ์ตัวเดียวกัน ซึ่งเหมาะกับไทยที่เวลานี้ยังไม่มีใบอนุญาต 3G ความถี่ 2.1 GHz ออกมา แต่ถ้ามีใบอนุญาตเมื่อไรก็สามารถเซตอัปให้บริการได้ทันที ซึ่งเวลานี้มีผู้ให้บริการมือถือในไทยบางรายนำโซลูชันดังกล่าวมาให้บริการแล้ว
หลังจากที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เปิดให้ประมูลใบอนุญาต 3G ความถี่ 2.1 GHz เชื่อว่าจะเกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมราว 100,000 ล้านบาท หัวเว่ยมีความมั่นใจว่าจะมีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือติดตั้งอุปกรณ์ 3G ของหัวเว่ยกว่า 50% เนื่องจากผู้ให้บริการหลายรายมั่นใจในเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 2G จนถึง 3G ที่สำคัญจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดก็คือ ความพร้อมที่จะส่งมอบโซลูชันต่างๆ ในระยะเวลาสั้น ทำให้สามารถติดตั้งเครือข่ายได้ภายในเวลาไม่กี่เดือน
“เวลานี้ ผู้ให้บริการมือถือทุกรายในประเทศไทย ต่างใช้โซลูชันของหัวเว่ยหมดแล้ว จุดขายของหัวเว่ยคือ เรื่องระยะเวลาในการส่งมอบสินค้า ซึ่งถือว่า เร็วกว่าค่อนข้างมาก จะเห็นได้จากการที่ดีแทคตัดสินใจเลือกให้หัวเหว่ยซัปพลายโซลูชัน 3G บนคลื่น 850 MHz เพิ่มอีกรายเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา จึงทำให้วันนี้ หัวเว่ยเป็นซัปพลายเออร์รายเดียวที่ผู้ให้บริการมือถือเอกชนในไทยเลือกใช้"
หัวเว่ยได้จัดงานโรดโชว์ Welcome Broadband World: Huawei Solution 2012 ในรูปแบบนิทรรศการเทคโนโลยีสื่อสารอนาคตในการให้บริการทางด้านโมบายอินเทอร์เน็ตไว้ภายรถบรรทุกคอนเทเนอร์ขนาดใหญ่ให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของไทยได้สัมผัส โดยได้จัดแสดงไปแล้วที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 14-17 ก.พ. และที่บริษัท ทีโอที ระหว่างวันที่ 18-23 ก.พ. ที่ผ่ามาโดยก่อนหน้านี้เดินสายไปจัดแสดงมาแล้วที่ประเทศพม่า กัมพูชา และเวียดนาม
เทคโนโลยีที่นำมาแสดงในครั้งนี้ เป็นผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ทำงานบนเครือข่าย 3G คลื่นความถี่ 1900 MHz ซึ่งยังคงมีการใช้งานอยู่ในเวลานี้ โดยแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน คือส่วนแรกเป็นโซลูชันด้านเครือข่ายที่หัวเว่ยนำโซลูชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเพาเวอร์ซัปพลาย รวมไปถึงระบบสื่อสัญญาณที่สามารถรองรับเทคโนโลยีทั้ง 2G, 3G และ LTE ได้พร้อมๆ กัน ซึ่งถือเป็นเครือข่ายระบบเดียวที่มีความยืดหยุ่นสูงและมีโครงสร้างที่เรียบง่าย ที่สำคัญยังลดพื้นที่การติดตั้งระบบและลดการใช้พลังงานได้มากกว่า
ส่วนที่สองเป็นเรื่องของความพร้อมเครือข่ายที่รองรับกับสมาร์ทดีไวส์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แอร์การ์ด และโมเด็มไร้สาย โดยผู้ให้บริการสามารถกำหนดระดับความเร็วสูงสุดที่ผู้ใช้แต่ละคนจะสามารถใช้ได้ ด้วยระบบ Quality of Service แบบครบวงจร ด้วยโครงสร้างค่าบริการที่ยืดหยุ่นตามปริมาณการใช้งาน ช่วงเวลาที่เข้าใช้งาน และประเภทเนื้อหาที่ใช้งานผ่านสมาร์ทดีไวส์แบบต่างๆ
'ความหลากหลายของสมาร์ทดีไวส์ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนที่ราคาถูกลงจนทำให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ เป็นส่วนที่ช่วยเร่งการเติบโตของโมบายบรอดแบนด์ให้เกิดขึ้นอย่างมหาศาล จึงทำให้โอเปอเรเตอร์จะต้องมองหาโซลูชันที่เข้ามารองรับกับความต้องการของดีไวส์รุ่นใหม่'
ส่วนที่สามจะเป็นส่วนของโซลูชันแอปพลิเคชันสำหรับการให้บริการบรอด์แบนด์ ที่ช่วยโอเปอเรเตอร์ส่งมอบบริการรูปแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฮบริดทีวี หรือเกม โดยผู้ใช้สามารถเลือกรับชมรายการได้ทั้งบนจอคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต ผ่านเทคโนโลยีคลาวด์บนเครือข่ายมือถือ 3G หรือ LTE
Company Related Link :
Huawei
ที่มา: manager.co.th