ซัมซุงเปิดฉากรุกธุรกิจโน้ตบุ๊กในประเทศไทย หลังศึกษาแนวโน้มตลาดและความต้องการลูกค้าเป็นเวลานาน จนเห็นโอกาสทางธุรกิจ ที่กระแสโมบิลิตีมา ความต้องการในตลาดมีสูง จึงส่งโน้ตบุ๊กตระกูล “X-Series” ภายใต้แนวคิด“Lighter Than Air” ลงตลาด ต่อยอดไลน์สินค้าไอทีตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ จุดขายคือเรื่องดีไซน์ที่เป็นดีเอ็นเอของซัมซุง ตั้งเป้ายอดขายภายในปีนี้ 2.5 หมื่นเครื่อง เจาะลูกค้าทุกกลุ่ม
นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจคอมพิวเตอร์พกพาหรือโน้ตบุ๊กในประเทศไทยปีนี้ คาดว่าจะยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีปริมาณตลาดรวมปีนี้กว่า 1 ล้านเครื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มของโน้ตบุ๊กระดับพรีเมียมและมินิโน้ตบุ๊กและเพื่อเป็นการตอบรับกระแสการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของอุตสาหกรรม ซัมซุงจึงได้นำโน้ตบุ๊กและมินิโน้ตบุ๊กเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปีนี้ โดยผลิตภัณฑ์ที่ซัมซุงเปิดตัวในครั้งนี้คือตระกูล X-Series
สิ่งที่ซัมซุงเน้นคือจุดเด่นของการนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและการออกแบบ ซึ่งเปรียบเสมือนดีเอ็นเอที่เป็นจุดขายของซัมซุง เพราะโดดเด่นด้วยความเบาและบางเฉียบ สร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่วงการคอมพิวเตอร์พกพา และมุ่งสร้างสรรค์ความคุ้มค่าสูงสุดสู่ผู้บริโภคจากการผสานนวัตกรรมที่เป็นที่สุดเข้าไว้ในโน้ตบุ๊กซัมซุง เช่น ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูงจากอินเทล
การใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ หรือ Health Technology ด้วยการเคลือบสารซิลเวอร์นาโนเพื่อป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรียบริเวณคีย์บอร์ดและที่วางมือของโน้ตบุ๊กทุกรุ่นได้ถึง 99.9% รวมถึงการใช้เทคโนโลยีของทางซัมซุงเองในฐานะผู้นำด้านการผลิตแบตเตอรี่ทำให้ได้แบตเตอรี่พิเศษที่สามารถใช้งานต่อเนื่องสูงสุดกว่า 10 ชั่วโมง
การใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือแบบชีวภาพเพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดในการเข้าสู่ข้อมูล และอื่นๆ
ซัมซุงเรียกได้ว่าเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์และจอภาพแอลซีดีรายใหญ่ของโลก รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ไม่ว่าจะกล้องดิจิตอล โปรเจกเตอร์ พรินเตอร์ เป็นต้น การประกาศเดินหน้าธุรกิจคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและมินิโน้ตบุ๊กในประเทศไทยอย่างเป็นทางการครั้งนี้ นอกจากจะเห็นแนวโน้มมา เวลาเหมาะแล้ว ยังเป็นการส่งทัพสินค้าใหม่ครบไลน์อัปตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์อย่างครอบคลุมด้วยแนวคิดสุดยอดด้านเทคโนโลยีการดีไซน์ “Lighter Than Air” ที่จะตอบโจทย์การเป็นตัวเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้าด้วยความบางเฉียบและเบา ผสานนวัตกรรมที่เป็นที่สุดแห่งความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสำหรับคอมพิวเตอร์พกพาในยุคปัจจุบัน
ผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ ได้แก่ โน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงจาก X-Series ประกอบด้วย ซัมซุง X460 และ ซัมซุง X360 รวมถึง มินิโน้ตบุ๊กน้ำหนักเบา ซัมซุง NC10 และภายในปีนี้ซัมซุงจะเปิดตัวสินค้ารวมทั้งสิ้น 4 ซีรีส์ ครอบคลุมความต้องการในทุกด้านของผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่การใช้งานด้านธุรกิจ (SMB) ไปจนถึงระดับผู้ใช้งานตามบ้าน (Home User) โดยตั้งเป้ายอดขายรวมสิ้นปีไว้ที่ 25,000 เครื่อง
สำหรับการทำตลาดในช่วงเริ่มต้นในประเทศไทย ซัมซุงใช้กลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ เพื่อการใช้งานของผู้บริโภค ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการดีไซน์ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ อย่างครอบคลุม
โดยในปีนี้จะเน้นหนักในการสร้างกระแสรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ซัมซุงโน้ตบุ๊กภายในประเทศด้วยการร่วมมือกับคู่ค้าธุรกิจเพื่อจัดกิจกรรมการตลาดและเสนอแคมเปญพิเศษต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์และความประทับใจแรกให้แก่ผู้บริโภค โดยซัมซุงจะมีการปรับดิสเพลย์หน้าร้านให้น่าดึงดูดใจ และมีผลิตภัณฑ์สาธิตที่สามารถทดสอบการใช้งานจริง โดยจะใช้งบสำหรับส่วนนี้ 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ ซัมซุงเชื่อว่าผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เมื่อบวกกับความแข็งแกร่งทางด้านช่องทางการจัดจำหน่ายที่ซัมซุงมีอยู่แล้วสำหรับผลิตภัณฑ์ในหมวดไอที
“เราจึงมีความพร้อมในการขยายธุรกิจต่อยอดความสำเร็จของซัมซุงสู่ตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเพื่อเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของตลาดไอทีในภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันซัมซุงเป็นผู้นำอันดับ 1 ของผลิตภัณฑ์มอนิเตอร์ในตลาดโลกและประเทศไทย และยังรั้งอันดับ 2 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เลเซอร์พรินเตอร์ขนาด A4ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียด้วย”
ที่มา: manager.co.th