เอ็นเอ็กซ์พี (NXP) ผู้ผลิตเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ของโลก มั่นใจสายการผลิตในประเทศไทย ช่วยผลักดันให้สามารถขึ้นเป็นผู้นำในตลาด หลังทุ่มงบสร้างศูนย์สำหรับทดสอบผลิตภัณฑ์ในไทยปีที่ผ่านมา พร้อมเน้นเพิ่มบุคลากรบุกตลาดชิ้นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมรถยนต์และบัตรระบุตัวตน
ทีโอ เจ เอ็ม ฮัลเดอร์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอ็นเอ็กซ์พี เซมิคอนดัคเตอร์ จำกัด กล่าวว่า จากปัจจัยการเติบโตของตลาดในอุตสาหกรรมรถยนต์ (Automotive) และบัตรระบุตัวตน (Identification) ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในตลาด ทำให้บริษัทมีการลงทุนสร้างศูนย์ 'ควอลิตี เซ็นเตอร์' เพื่อเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์
"ในตลาดเซมิคอนดัคเตอร์ ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในสายการผลิตหลักของอุตสาหกรรม จากโรงงานผลิตกว่า 25 ประเทศทั่วโลก ที่มีรายได้รวมในปีที่ผ่านมากว่า 4,400 ล้านเหรียญ จากอัตราการเติบโตกว่า 43%"
ทีโอ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ที่บริษัทย้ายฐานการผลิตหลักจากโซนยุโรป ให้มามีฐานอยู่ในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย ถือเป็นผลดีที่ช่วยเพิ่มองค์ความรู้ให้แก่บุคลากรในประเทศ
"การลงทุนส่วนใหญ่ในปีนี้จะเป็นเชิงลึก เนื่องจากปัจจุบันกำลังการผลิตในแต่ละสายงานอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว จะมีเพียงบางไลน์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเพิ่มขึ้นได้ เน้นการเพิ่มคุณภาพให้แก่ผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยให้สร้างมูลค่ารวมได้มากที่สุด"
การเปิดศูนย์ ควอลิตี เซ็นเตอร์ ในประเทศไทย เกิดขึ้นจาก การผลิตหลักที่สร้างรายได้ให้แก่เอ็นเอ็กซ์พีในปัจจุบันคือกลุ่มชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมรถยนต์ และบัตรระบุตัวตน การทำเทคโนโลยีจากยุโรปมาไว้ในประเทศ พร้อมมีบุคลากรจากต่างประเทศมาให้ความรู้ วิศวะกรที่ประเทศไทย
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจของเอ็นเอ็กซ์พี ที่อยู่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ประกอบไปด้วย ชิ้นส่วนอุปกรณ์นำทาง (จีพีเอส) อุปกรณ์สื่อสารภายในรถยนต์ ระบบรักษาความปลอดภัย เซ็นเซอร์เบรก พวงมาลัย อุณหภูมิ ระบบไฟ รวมถึงผลิตภัณฑ์ในอนาคต อย่างระบบนำทางและการจัดการจราจรอัจฉริยะ ที่ช่วยให้รถยนต์สามารถสื่อสารกันได้ในอีก 4-5 ปีข้างหน้า
ส่วนการผลิตในตลาดบัตรระบุตัวตน คือเป็นชิปที่ใช้ในบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์ หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต บัตรรถโดยสารสาธารณะ บัตรผ่านเข้าออก หรือในอุตสาหกรรมอาร์เอฟไอดี ก็มีการนำไปใช้ด้วยเช่นกัน
"อย่างที่ทราบกันว่าในอนาคต จะมีมาตรฐานการชำระสินค้าผ่านสมาร์ทโฟนอย่าง NFC ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านการสแกนจากโทรศัพท์ หรือช่วยให้สามารถจ่ายค่าสินค้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น"
ปัจจุบันเอ็นเอ็กซ์พี มีกำลังการผลิตชิ้นส่วนราว 20 ล้านชิ้นต่อวัน จากปีที่ผ่านมามียอดรวมทั้งสิ้น 5,000 ล้านชิ้น หรือตกสัปดาห์ละ 100 ล้านชิ้นแม้จะมีผลกระทบจากเหตุการณ์ทางการเมืองเข้ามาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ส่วนในอนาคตมีแนวคิดที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมจากการเปลี่ยนอุปกรณ์ให้ใช้พื้นที่น้อยลง กำลังการผลิตมากขึ้น แต่ยังไม่มีนโยบายในการขยายฐานการผลิตไปยังนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ
Company Relate Link :
NXP
ที่มา: manager.co.th