หน้าเว็บเพจสะอาดตาของ Panguso.com
กลายเป็นเรื่องฮือฮาไปทั่วโลกเมื่อรัฐบาลจีนเปิดให้บริการค้นหาข้อมูลออนไลน์หรือเสิร์ชเอนจิ้นของตัวเองในนาม "ผานกู่โซว (Panguso)" บางคนมองว่านี่คือการเปิดศักราชการแข่งขันครั้งใหม่ในตลาดเสิร์ชเอนจิ้นแดนมังกร แต่อีกหลายคนมั่นใจว่านี่คือเครื่องมือชิ้นใหม่ที่ทำให้รัฐบาลจีนสามารถเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมให้ชาวออนไลน์แดนมังกรรับทราบแต่"ข่าวสารที่มีความปลอดภัย"เท่านั้น
Panguso.com หรือ ผานกู่โซวถูกประกาศว่าเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างสำนักข่าวซินหวา (Xinhua) ของรัฐบาลจีน และไชน่า โมบาย (China Mobile) โอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีนเช่นกัน โดยจะเป็นบริการที่เปิดให้ผู้ใช้ชาวจีนเข้าสืบค้นข้อมูลออนไลน์เช่น ข่าว เว็บไซต์ รูปภาพ วีดีโอ และเพลง ซึ่งบริการคอนเทนต์ข่าวของซินหวาจะถูกผสมเข้ากับเทคโนโลยีสื่อใหม่ของไชน่า โมบาย
คู่แข่งใหม่ของไป่ตู้
ทั้งช่วงก่อนและหลังจากการลาแผ่นดินจีนของยักษ์ใหญ่กูเกิล (Google) ไป่ตู้หรือ Baidu.com สามารถครองตำแหน่งเสิร์ชเอนจิ้นในดวงใจของชาวจีนแผ่นดินใหญ่มาตลอด แน่นอนว่าการเปิดตัวผานกู่โซวทำให้ไป่ตู้ถูกมองว่ากำลังมีคู่แข่งรายใหญ่เกิดขึ้น เพราะคู่แข่งรายนี้เป็นผลผลิตขององค์กรที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาล สะท้อนความมีอิทธิพลน่าเกรงขามอย่างปฏิเสธไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลย่อมแสดงถึงการควบคุมที่เข้มงวด นี่เองที่เป็นปัญหาหลักที่ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าผานกู่โซวจะไม่สามารถเจาะตลาดที่ไป่ตู้สร้างไว้ได้ โดยข้อมูลชี้ว่า ผานกู่โซวนั้นเพิ่งถูกพัฒนาขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2010 ที่ผ่านมาเท่านั้น ขณะที่ไป่ตู้นั้นก่อร่างสร้างตัวมาตั้งแต่ปี 2000
ที่น่าสนใจคือ การทดลองพบว่าเว็บไซต์ผานกู่โซวนี้มีระบบคัดกรองข้อมูลที่เข้มงวดกว่าไป่ตู้ โดยการทดสอบบริการของผานกู่โซวพบว่า ระบบไม่แสดงข้อมูลของ"หลิวเสี่ยวปัว" นักเคลื่อนไหวเพื่อการปฏิรูปการปกครองจีน ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2010 แต่ในเว็บไซต์ไป่ตู้ ผู้ใช้ยังสามารถพบข้อมูลและการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ต่อประเด็นของหลิว เสี่ยวปัวบ้างเล็กน้อย
หน้าผลการค้นหาของ Panguso.com
ดาบเล่มใหม่ของรัฐบาลมังกร
รัฐบาลจีนนั้นขึ้นชื่อเรื่องความพยายามในการปิดกั้นข่าวสารเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนมีแนวคิดเอนเอียงจากระบอบคอมมิวนิสต์ที่ปกครองจีนแผ่นดินใหญ่ในขณะนี้ การเกิดขึ้นของผานกู่โซวถือเป็นการตอกย้ำว่า รัฐบาลจีนต้องการควบคุมการใช้สื่อออนไลน์ของประชากรจีนให้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงการวิจารณ์ที่ทางการจีนไม่ยอมรับ โดยการันตีว่าข้อมูลที่ชาวจีนจะได้รับจากผานกู่โซว จะเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้มากที่สุด
ตรงกันข้าม นักวิเคราะห์ในประเทศจีนกลับมองว่าผานกู่โซวอาจไม่ได้รับความเชื่อถือจากผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้เว็บสืบค้นหรือเสิร์ชเอนจิ้นส่วนใหญ่ในประเทศจีนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สื่อมวลชน พนักงานเอกชน นักศึกษา และนายทหารปลดประจำการ เนื่องจากข้อมูลในผานกู่โซวล้วนเป็นข้อมูลที่มาจากแหล่งข่าวของรัฐบาลฝ่ายเดียว
นอกจากเสนอข้อมูลฝ่ายเดียว ผานกู่โซวยังทำให้รัฐบาลจีนได้รับข้อมูลพฤติกรรมการค้นหาของประชาชนทั้งหมด ซึ่งสะท้อนแนวโน้มความสนใจ ความคิด รวมถึงค่านิยมของชาวออนไลน์ในจีนขณะนั้นได้ด้วย
เบื้องต้น ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาดชี้ว่า ส่วนแบ่งตลาดสืบค้นข้อมูลไตรมาส 4 ปี 2010 ของไป่ตู้ เพิ่มขึ้นสูงเป็น 83.6% เทียบกับกูเกิลที่ลดลงเหลือ 11.1% หลังจากย้ายฐานทัพไปอยู่ที่ฮ่องกง โดยสถิติผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมดในจีนล่าสุดคือ 450 ล้านคน 80% ของจำนวนนี้คือผู้ใช้บริการเว็บไซต์สืบค้นข้อมูลเป็นประจำ
Company Related Link :
Panguso.com
ที่มา: manager.co.th