หลังจากที่ได้รับรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในงานแกรมมีอวอร์ดส์ ชื่อของ "เอสเพอแรนซา สแปลดิง" ก็เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นว่าม้ามืดผู้เอาชนะ"จัสติน บีเบอร์"หนุ่มน้อยชื่อดังได้เป็นใครมาจากไหนกันแน่
ในงานแกรมมีอวอร์ดส์ ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เอสเพอแรนซา สแปลดิง ได้ทิ้งให้แฟนคลับนับพันคนที่แห่มาให้กำลังใจจัสติน บีเบอร์ เพื่อลุ้นรางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมต้องร้องไห้ผิดหวังไปตามๆกัน หลังเธอคว้ารางวัลนี้ไปครองซึ่งพลิกความคาดหมายของใครหลายคนรวมถึงบรรดาแฟนคลับตัวยงของจัสติน
และด้วยความโกรธของแฟนคลับเหล่านี้พวกเขาถึงขั้นเริ่มค้นหาข้อมูลของนักร้องสาวรายนี้ผ่านทาง Wikipedia เว็บไซต์ที่รวบรวมประวัติและข้อมูลมากมาย พร้อมตัดสินใจแก้ไขประวัติและระบายความโกรธลงในนั้นว่าเธอเป็นใครมาจากไหนถึงได้คว้ารางวัลนี้ไปครอง
"จัสติน บีเบอร์ สมควรได้รับรางวัลนี้...ไปตายซะ นางนี่เป็นใครกัน?" นี่คือข้อความส่วนหนึ่งของแฟนคลับจัสติน บีเบอร์ ที่เขียนทิ้งไว้ก่อนจะถูกลบออกไปในไม่กี่ชม.ต่อมา
นอกจากจะถูกเกลียดแล้วนักร้องสาวม้ามืดรายนี้ยังได้รับการขู่ฆ่าจากเหล่าบรรดาแฟนคลับของจัสตินด้วย ซึ่งไม่ต่างจากสาว คิม คาร์เดเชียน และ เซเลนา โกเมซ ที่เคยได้รับการขู่ฆ่ามาก่อนเนื่องจากเป็นสาวผู้ใกล้ชิดและตกเป็นข่าวกับไอดอลหนุ่มน้อยรายนี้
การที่ศิลปินสาวโนเนมเอาชนะหนุ่มน้อยที่กระแสแรงที่สุดแห่งยุคไปได้นั้น ทางจัสตินเองก็กล่าวยอมรับอย่างตรงไปตรงมาหลังเวทีเช่นกันว่าเขาก็รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้รางวัลนี้กลับบ้าน "หลายปีมานี้ผมทำงานอย่างหนักและคุณรู้ไหม ผมไม่โกหกหรอกนะว่าผมก็รู้สึกผิดหวังเหมือนกัน"
แม้ว่าจะเสียใจที่พลาดรางวัล จัสติน บีเบอร์ ก็ยังคงพยายามที่จะแสดงสปิริตความเป็นสุภาพบุรุษด้านหลังเวทีด้วยการโอบกอดแสดงความยินดีกับสาวผู้ชนะรางวัลตัวจริง
ทางด้าน เอสเพอแรนซา เองก็ไม่ได้รู้สึกแย่หรือเสียใจกับความพ่ายแพ้ของคู่แข่งมาแรงรายนี้ของเธอแต่อย่างใด โดยพยายามให้กำลังใจหนุ่มน้อยให้สู้ต่อไปในปีหน้า "เขายังมีเวลาอีกหลายปีและสามารถเข้าชิงได้อีกหลายครั้ง เพื่อสักวันรางวัลนี้จะตกเป็นของเขาเอง"
อย่างไรก็ตามชื่อของเอสเพอแรนซา ก็ยังคงถูกตั้งคำถามจากสื่อหลายสำนักรวมทั้งคอเพลงอีกหลายๆคนว่าสาวผมฟูรายนี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่?
แม้จะได้รับรางวัลในฐานะศิลปินหน้าใหม่แห่งปี แต่เธอก็เคยออกผลงาน Junjo อัลบั้มแรกมาตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งผลงานชิ้นนี้ได้รับการวิจารณ์ไปในทางที่ดีในเรื่องของเสียงอันเป็นเอกลักษณ์และดนตรีที่พิถีพิถันในเนื้องาน
และการได้รับรางวัลใหญ่ในครั้งนี้ ทำให้เอสเพอแรนซา ได้มีปากมีเสียงในการเรียกร้องพื้นที่ให้กับเพลงแจ๊ซ หลังจากที่วงการเพลงต่างให้ความสำคัญไปที่กระแสเพลงป็อปและอาร์แอนด์บีจนเกินจำเป็น
"หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้คนจะเริ่มตระหนักว่ายังมีศิลปินในโลกของเพลงแจ๊ซอีกมากที่พวกเขายังไม่รู้จัก มีเพลงอีกมากมายที่ถูกคิดค้นและสร้างสรรค์ขึ้นจากทั่วโลก ถ้าพวกคุณมีความต้องการอยากค้นพบศิลปินแจ๊ซให้มากขึ้น น่าจะเป็นเรื่องที่ดีมากทีเดียว"
สาวผมฟูจากพอร์ทแลนด์ โอเรกอน สามารถคว้ารางวัลนี้ไปได้โดยเอาชนะจัสติน บีเบอร์, เดรก, Mumford and Sons และ Florence and the Machine คว้ารางวัลทรงเกียรตินี้ไปครองและส่งให้เครือข่ายสังคมทั้งหลายเริ่มปั่นป่วนมีการพูดถึงเธอกันอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะกับแฟนเพลงของจัสติน
เอสเพอแรนซา สาววัย 26 ปีรายนี้เติบโตมาในส่วนที่เธอเรียกว่าค่อนข้างน่ากลัวของพอร์ทแลนด์ โอเรกอน ซึ่งเธอเติบโตมาพร้อมกับน้องชายในบ้านของพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว
เธอได้อธิบายว่าตัวเธอนั้นมีเชื้อสายผสมผสานกันทั้ง แอฟริกัน-อเมริกัน, อินเดียนแดง, เวล์ช และสเปน โดยเธอเริ่มสนใจดนตรีและจับเครื่องดนตรีชิ้นแรกคือไวโอลินตั้งแต่มีอายุเพียง 5 ขวบ และใช้เวลาอีก 10 ปีต่อมาไปกับการเล่นใน Chamber Music Society of Oregon ซึ่งเธอออกมาจากที่นั่นในฐานะหัวหน้าวง
นอกจากไวโอลินแล้วเธอยังมีความสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้อีกหลากหลายชนิดทั้งกีตาร์, ปี่โอโบ และ คลาริเน็ต แต่เธอก็มาตกหลุมรักเอากับดัมเบิลเบสซึ่งทำให้เธอมีชื่อเสียงจากฝีไม้ลายมือจนประสบความสำเร็จทางด้านดนตรี
นักร้องสาวเริ่มเข้าเรียนที่ Berklee School of Music หลังได้รับทุนการศึกษา ซึ่งเพื่อนๆของเธอต่างก็ทำหน้าที่ช่วยกันหาเงินเพื่อส่งเสียให้เธอใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้จนจบ และการศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านดนตรีนี้เองที่ทำให้เธอได้กลายเป็นอาจาร์ยในมหาวิทยาลัยดังกล่าวหลังจบการศึกษาขณะมีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น
และจากการเพาะบ่มประสบการณ์ด้านดนตรีมานานหลายสิบปีในส่วนผลงานเพลงของเธอนั้น กลิ่นไอดนตรีของเธอจึงเป็นการผสมผสานกันหลากหลายรูปแบบทั้ง แจ๊ซ, โซล, บีทแบบบราซิลเลียนและเครื่องดนตรีทำมืออีกหลายชนิด
นอกจากเธอจะมากความสามารถทางด้านดนตรีแล้ว สำนึกของการเป็นศิลปินตัวจริงนั้นยังคงเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบหลักที่เธอได้ฝากเอาไว้ให้ศิลปินหญิงในวงการเพลงทั่วโลกพึงระลึกถึงไว้เช่นกันว่าควรมุ่งเน้นที่ดนตรีไม่ใช่เรื่องทางเพศ "นักดนตรีหญิงทั้งหลายควรจะมีสำนึกความรับผิดชอบว่าไม่ควรพาตนเองแสดงออกในเรื่องทางเพศมากจนเกินไป" นักร้องสาวมากฝีมือฝากข้อความเตือนใจ
และจากฝีไม้ลายมือที่ไม่ธรรมดาส่งให้ก่อนหน้านี้ เอสเพอแรนซา ถึงขั้นเคยได้รับเชิญให้เป็นส่วนหนึ่งในงานทรงเกียรติ Bet Awards ปี 2010 ที่มีการจัดแสดงส่วนหนึ่งเพื่อยกย่อง Prince โดยเธอได้แสดงร่วมกับศิลปินดังทั้ง แพทตี ลาเบลล์, อลิเชีย คียส์ และ จาเนลล์ โมเน ด้วย
นอกจากนั้นเธอยังเคยแสดงที่ทำเนียบขาวและเธอยังเคยได้รับคำชื่นชมจากศิลปินระดับตำนานทั้ง สตีวี วันเดอร์ และ เฮอร์บี แฮนค็อก รวมทั้งเธอยังเคยแสดงในงานสำคัญที่ Oslo City Hall เมื่อครั้ง โอบามา ได้รับรางวัล โนเบลสาขาสันติภาพ เมื่อปี 2009 ด้วย
ที่มา: manager.co.th