พระเอกแบทแมน "คริสเตียน เบล" และ กับนักแสดงสาวชาวจีนหน้าใหม่หลายคน จะได้ร่วมงานกับผู้กำกับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการภาพยนตร์จีน "จางอี้โหมว" ในหนังย้อนยุค ที่จะเล่าเรื่องของสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในหนานจิง
คริสเตียน เบล นักแสดงชื่อดังจาก Batman Begin และ The Dark Knight จะรับบทเป็นมิชชันนารีสอนศาสนา ที่ทำงานในหนานจิงซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของจีน ก่อนจะเกิดเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ขึ้นช่วงยุค 1930s ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 150,000 คน
โดยในภาพยนตร์ที่ขณะนี้ใช้ชื่อชั่วคราวว่า The 13 Women of Nanjing จะเล่าเรื่องการเอาชีวิตรอดของคนจีนกลุ่มหนึ่งในช่วงเวลาแห่งสงคราม เมื่อกลุ่มหญิงโสเภณี 13 คน และทหารบาดเจ็บ หวังใช้โบสถ์แห่งหนึ่งเป็นที่หลบภัย จนกลายเป็นปัญหาสำหรับเหล่าคนทำงานในโบสถ์ และนักเรียนหญิงจากโรงเรียนกินนอน
หนังเรื่องดังกล่าวจะสร้างโดยอิงจากนิยายของ เหยียนเกอหลิง นักเขียนหญิงชื่อดังซึ่งผลงานในอดีตของเธอ อาทิ Xiu Xiu: The Sent-Down Girl และ Siao Yu เคยถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์มาแล้ว
โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ผู้อำนวยการสร้างหนังได้ติดต่อทาบทามให้นักแสดงฮอลลีวูดอย่าง ทอม ครุซ หรือ ลีโอนาร์โด ดิคราปริโอ มารับบทนำในหนังเรื่องนี้ แต่สุดท้ายก็มาลงตัวเอาที่ คริสเตียน เบล ที่มีความสามารถทางการแสดงอยู่แถวหน้า และยังแสดงออกถึงการอุทิศตัวต่อหนังแต่ละเรื่องของตนเองอย่างจริงจังมาโดยตลอด
ฝ่าย จางอี้โหมว กล่าวถึงความกระตือรือร้นต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ ของนักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษว่า "ผมได้ให้รายชื่อหนังสือบางเล่มกับเขาไป ว่าเป็นงานที่ควรอ่านสำหรับการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ เหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่หนานจิง หลังจากนั้นเมื่อเราได้พบกัน ผมเห็นหนังสือเหล่านั้นเปิดอยู่บนโต๊ะของเขา มันเป็นเรื่องน่าประทับใจมาก ๆ ครับ"
โดยนอกจากนักแสดงหนุ่มชาวอังกฤษแล้ว จางอี้โหมว ยังได้คัดเลือกนักแสดงหญิงกลุ่มใหญ่ เพื่อรับบทเป็นหญิงโสเภณี 13 คน ตัวละครสำคัญของเรื่อง ที่เขายืนยันว่าจะเลือกใช้นักแสดงหน้าใหม่เป็นหลัก ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมีภาพของนักแสดงสาวหน้าใหม่ ในหนังเรื่องนี้มาให้เห็นกันบ้างแล้ว และหลายฝ่ายก็คาดเดาว่าพวกเธอมีสิทธิ์แจ้งเกิดโด่งดังตามรอย 'สาวของโหมว' รุ่นพี่ ๆ อย่าง กงลี่, จางจื่ออี๋ หรือ ตงเจีย ได้เหมือนกัน
หนังทุนสร้าง 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดกล้องต้นปีหน้า และวางโปรแกรมไว้ที่เดือน ธ.ค. 2011 โดยจะเป็นหนังที่ผสมกันระหว่างบทพูดภาษาอังกฤษและจีน เพราะผู้สร้างต้องการให้ความสำคัญกับตลาดหนังในจีน และต่างประเทศเท่า ๆ กัน
เหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่หนานจิงโดยกองทัพญี่ปุ่น ถูกนำกลับมาสร้างเป็นภาพยนตร์ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา John Rabe ผลงานของผู้กำกับชาวเยอรมัน ฟลอเรียน กัลเลนแบร์เกอร์ โฟกัสไปที่การเล่าเรื่องของ จอห์น ราเบ้ นักธุรกิจชาวเยอรมันผู้พยายามใช้เส้นสายของพรรคนาซี ช่วยเหลือชาวจีนที่กำลังตกอยู่ในอันตรายในช่วงเวลานั้น
ขณะที่ City of Life and Death ของผู้กำกับชาวจีน ลู่ชวน เลือกที่จะเล่าเรื่องหนานกิงในหลาย ๆ มุมมองทั้งประชาชนชาวจีน, ชาวต่างชาติ, ทหารแห่งกองทัพจีน และฝ่ายญี่ปุ่น จนเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จมากมาย แต่ก็ถูกวิจารณ์จากเพื่อนร่วมชาติว่า 'อ่อนข้อ' ให้กับญี่ปุ่นมากเกินไป
ฝ่าย จางอี้โหมว หวังว่าผลงานของเขาจะสามารถมอบมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์เศร้าสลดในประวัติศาสตร์ครั้งนี้ให้กับผู้ชมได้ โดยเฉพาะการเล่าเรื่องจากมุมมองของสตรี และการมีนักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง คริสเตียน เบล อยู่ในเรื่อง ก็น่าจะทำให้หนังได้รับความสนใจจากทั้งต่างชาติ และคนรุ่นใหม่มากขึ้น
"เราสร้างหนังเกี่ยวกับหนานจิงออกมาเยอะอยู่เหมือนกันครับ แต่ส่วนใหญ่มันเหมือนกับว่าเราพูดอยู่กับตัวเองเท่านั้น คนรุ่นใหม่ในตะวันตก อาจจะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เลย ผมหวังว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้คนรุ่นใหม่ในต่างแดนอย่างน้อยซัก 100 ถึง 200 ล้านคน ได้ดูมัน และได้รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นที่หนานจิงในปี 1937 กันแน่"
ที่มา: manager.co.th