ทางการสหรัฐฯแสดงท่าทีล้างบาง"เว็บเถื่อน"ที่เกี่ยวข้องกับการโหลดไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์ทุกประเภทอย่างจริงจัง ล่าสุดประกาศยึดโดเมนเนมมากกว่า 77 เว็บไซต์แบบสายฟ้าฟาดโดยไม่มีการเตือนเจ้าของเว็บ หวังฆ่าตัดตอนต้นตอแชร์ไฟล์เถื่อนละเมิดลิขสิทธิ์ให้หมดสิ้นจากสหรัฐฯ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อมาตรการนี้มีโอกาสน้อยที่จะบังคับใช้กับเว็บไซต์เถื่อนในไทย ย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการ"เกาไม่ถูกที่คัน"เนื่องจากหากโดเมนเนมถูกปิดไป เว็บไซต์เถื่อนเหล่านี้ก็สามารถย้ายไปเปิดชื่อโดเมนเนมอื่นได้อยู่ดี
สำนักงานศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง สังกัดกระทรวงความมั่นคงภายในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหน่วยงานที่ออกแถลงการณ์ปิดยึดโดเมนเนมมากกว่า 77 เว็บไซต์เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าตัวเลขนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากสำนักงานสหรัฐฯระบุว่ามีแผนเข้ายึดโดเมนที่เกี่ยวข้องกับการแชร์ไฟล์ผิดกฎหมายทุกประเภท รวมถึงเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องนับจากนี้
สิ่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมากในความเคลื่อนไหวครั้งนี้ คือการใช้วิธีเข้ายึดโดเมนเนมโดยไม่มีการแจ้งเตือนให้เจ้าของเว็บไซต์ได้รู้ตัวก่อน จุดนี้เป็นเพราะร่างกฎหมายใหม่ของสหรัฐฯที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการยึดโดเมนเนมโดยไม่จำเป็นต้องขอหมายศาลใดๆ และไม่ต้องรอให้มีเจ้าทุกข์ดำเนินการฟ้องร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งปิดเว็บไซต์
ร่างกฎหมายนี้เป็นไปตามมติของวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่ได้แสดงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่ารัฐบาลมีสิทธิ์เข้ายึดโดเมนเนมของเว็บที่สร้างมาบนจุดประสงค์เผยแพร่ไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์เพียงอย่างเดียว โดยไม่สามารถแสดงวัตถุประสงค์ เพื่อการค้าอย่างถูกกฎหมายได้ แน่นอนว่าเป้าหมายคือการตัดไม้ข่มนามเว็บไซต์ตระกูล"บิตทอร์เรนต์" ซึ่งเป็นขบวนการดาวน์โหลดไฟล์ผิดกฏหมายที่มีอยู่ทั่วมุมโลก หลายฝ่ายเชื่อว่าเพราะแรงกดดันจากนานาอุตสาหกรรมอเมริกัน ทั้งอุตสาหกรรมการผลิตเกม การผลิตรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และดนตรี ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเว็บไซต์เถื่อนเหล่านี้ ทำให้ร่างกฎหมายนี้สามารถผ่านมติได้อย่างราบรื่น
ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าการสั่งยึดโดเมนเนมเว็บไซต์เถื่อนในสหรัฐฯครั้งนี้มีผลในระดับ ICANN เป็นการสั่งปิดที่มีผลกับเว็บไซต์ที่มีนามสกุล .com .net และ .us ทั้งหมดเป็นการกระทำที่ไม่เข้าข่ายการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน เนื่องจากสหรัฐฯมีกฎหมายต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ออนไลน์ Combating Online Infringements and Counterfeits Act (COICA) และกฎหมายลิขสิทธิ์ดิจิตอล Digital Millenium Coptyright Act (DMCA) คุ้มครองอยู่
แม้การสั่งปิดโดเมนเนมอย่างเด็ดขาด-ชัดเจน-รวดเร็ว จะแสดงถึงความแข็งแรงของกฎหมายซึ่งทำให้ผู้ประกอบการอเมริกันมีความมั่นใจมากขึ้น แต่นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท ที่ปรึกษากฎหมายไพบูลย์ จำกัด ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้ว่าเป็นการแก้ปัญหาดาวน์โหลดไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์ที่ไม่ถูกทาง เนื่องจากหากโดเมนเนม .com ถูกปิดกั้น ผู้สร้างเว็บไซต์โหลดไฟล์ผิดกฎหมายก็สามารถใช้โดเมนเนมอื่นเช่น .info ฯลฯ แล้วจดทะเบียนจากพื้นที่ที่มีช่องว่างทางกฎหมายระหว่างประเทศก็ได้
สำหรับการผ่านร่างกฏหมายที่ให้อำนาจรัฐในการสั่งยึดโดเมนเนมเว็บไซต์ผิดกฎหมายในประเทศไทย ไพบูลย์มองว่าหากทำได้ก็จะมีผลกับโดเมนเนม .th เท่านั้น ซึ่งไม่มีประโยชน์เพราะผู้สร้างเว็บไซต์เถื่อนในประเทศไทยจำนวนมากใช้โดเมนเนมจากต่างประเทศอยู่แล้ว และกฎหมายในประเทศไทยก็ยังไม่สามารถบังคับใช้ข้ามประเทศได้
"ตอนนี้เขาแชร์ไฟล์ผิดกฏหมายกันแบบเพียร์ทูเพียร์ (การส่งข้อมูลระหว่างเครื่องต่อเครื่องโดยไม่ผ่านระบบโดเมนเนม) บางรายมีการสร้างระบบคลาวด์ขึ้นมาเพื่อแชร์ไฟล์ในกลุ่มตัวเอง การแก้ปัญญาที่ควรทำคือการสร้างกลุ่มชาวเน็ตที่จะมาควบคุมดูแลตัวเอง การกระจายตัวเพื่อสอดส่องสังคมออนไลน์จะทำได้เร็วและมีประสิทธิภาพ"
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าความเคลื่อนไหวนี้เป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ดีสำหรับการล้างบางขบวนการแชร์ไฟล์ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะในสังคมนักพัฒนาแอปพลิเคชัน นักผลิตคอนเทนท์ดิจิตอลทั้งหลายซึ่งที่ผ่านมาถูกเบียดบังผลประโยชน์เพราะขบวนการแชร์ไฟล์ผิดกฎหมายเหล่านี้มาตลอด
ที่มา: manager.co.th