"ออย" รักอิสระ เมินเซ็นสัญญาโพลีพลัส

[Nick]

"ออย" ยินดีร่วมงานโพลีพลัสอีก หลัง ระบำดวงดาว ทำกลับมาเปรี้ยง แต่เมินเซ็นสัญญาเพราะชอบอิสระ เผยพับโครงการทำรีสอร์ทที่เชียงใหม่ และย้ำเตรียมของขวัญไว้ให้ลูกของ ลิฟท์ แล้ว หลังถูกอีกฝ่ายทวงผ่านรายการหลายครั้ง
               
                 เรียกว่ากลับมาเปรี้ยงอีกครั้ง เพราะได้อานิสงส์จากละครเรื่อง ระบำดวงดาว ของค่ายโพลีพลัสแท้ๆ สำหรับพระเอกหนุ่ม "ออย ธนา สุทธิกมล" ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่าฟีดแบคที่กลับมานั้นดีมากๆ แต่คงไม่มีภาค 2 พร้อมยืนยันจะไม่เซ็นสัญญาเป็นเด็กในสังกัดโพลีพลัส เพราะชอบเป็นอิสระ
               
                 "ระบำดวงดาวภาค 2 ก็ไม่รู้จะต่อเรื่องยังไงเหมือนกันนะครับ เพราะเรื่องมันก็จบแล้ว ส่วนมากอะไรที่มีภาค 2 จะยาก เพราะว่าต้องมีข้อเปรียบเทียบ มีโน่นมีนี่อีก ก็ให้จบแบบนี้ดีแล้ว และเราเริ่มใหม่ด้วยงานอื่นก็ได้ แต่ฟีดแบคคนก็บอกว่าสนุกดีนะ เราก็บอกว่าดูน้ำหวานใช่ไหม(หัวเราะ) ผมก็ยังเล่นนะ น้อยหน่อยแต่ก็ยังเล่น แต่ความเข้มข้นก็อยู่ที่ตัวของพลอย(เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) แต่ก็สนุกดี ดีใจครับไม่ว่าใครจะอยู่ในตำแหน่งไหน ผมว่าทุกคนมีส่วนร่วมให้มันสำเร็จ"
               
                 "จะเซ็นสัญญาเข้าโพลีพลัสไหม ก็ไม่เห็นเขาคุยนะ(หัวเราะ) เขาคงไม่สนหรอก แต่ถ้าอยากร่วมงานอีกไหม ก็อยาก ก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกันแ ละมีผลงานที่ดีมากๆ ออกมา ถ้าให้เล่นอีกก็จะรีบรับเลยครับ แต่ถ้าจีบให้เซ็นก็คงเอาไว้ก่อนแล้วกัน เพราะว่าเราชินกับการอยู่อย่างนี้มานาน เป็นอิสระมันก็สะดวกดีครับ เขาก็คงไม่อยากดูแลผมเท่าไหร่หรอก ผมดื้อ แต่เรื่องต่อไปยังไม่มีครับ ตอนนี้ก็มีแค่ซิทคอม ระเบิดเถิดเทิงลั่นทุ่ง"
               
                 "ก็มีละครเรื่องอื่นติดต่อมา แต่ว่ายังไม่สรุป บทบาทก็คงต้องรอดูกันครับ เพราะบางเรื่องพอถ่ายทำไปแล้วมันก็บิดๆ ไปเหมือนกัน โอกาสกลับมาเล่นช่อง 7 ก็ยังมีครับ อยากเล่นนะ คือมีติดต่อมาบ้างแต่ยังไม่สรุปเหมือนกัน แต่อย่าเพิ่งบอกดีกว่าว่าค่ายไหน เดี๋ยวไม่ได้เล่น(หัวเราะ)"
               
                 เผยโครงการทำรีสอร์ทที่เชียงใหม่มีอันต้องพับไปก่อน เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ส่วนเรื่องเพื่อนซี้ "ลิฟท์ สุพจน์ จันทร์เจริญ" ทวงของขวัญให้ลูกสาว เจ้าตัวเผยเตรียมไว้แล้วแต่รอให้โตก่อน
               
                 "เรื่องรีสอร์ทที่เชียงใหม่พับโครงการไปแล้วครับ เพราะต้องเข้าใจด้วยว่าเศรษฐกิจประเทศไทยเป็นยังไง เจอปัญหาอะไรบ้าง เกี่ยวกับปัญหาทางสังคมบ้านเราด้วย ผมว่าธุรกิจที่อิงนักท่องเที่ยวมันเบาลงไปเยอะ ผมก็เลยพับไปก่อน ทำงานในสิ่งที่ตัวเองทำได้ไปก่อน ไม่ได้มีปัญหาเรื่องอื่นครับ จะทำอะไรผมว่าควรดูผู้บริโภคอะไรก่อน คือช่วงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะดีขึ้นมา แต่ผมว่าก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าทุกอย่างดีขึ้นก็ค่อยว่ากันว่าจะยังทำอยู่หรือเปล่า เพราะว่าคนทำก็เยอะ คนเจ๊งก็เยอะ คนได้ดีก็เยอะ มีหมดครับ แล้วเราก็เป็นมือใหม่ไม่ได้เก่งมากมาย มืออาชีพเขายังไปไม่รอดเลย"
               
                 "ส่วนลิฟท์ทวงของขวัญทุกรายการครับ จริงๆ ผมไปหาตั้งแต่วันแรกเลย ผมเห็นพร้อมเขาเลยตอนที่ลูกคลอดวันแรก แต่ว่าด้วยงาน แล้วน้องเขาก็ยังเล็กผมก็ไม่รู้จะอุ้มถูกท่าอะไร ก็รอโตอีกหน่อยแล้วค่อยเล่น เดี๋ยวเกิดหมั่นเขี้ยวเล่นแรงๆ ไป แต่เรื่องของขวัญจริงๆ แล้วการให้ของขวัญเด็กก็คือการให้พ่อแม่แหละครับ เพราะตอนนี้เขาก็คงยังไม่รู้เรื่อง เราบอกให้เด็กๆ ให้ก็คงไม่ใช่ ก็เลยรอให้เขาโตขึ้นอีกหน่อย ให้เขาใส่ได้จริงหรือว่าให้เขาใช้ได้ผมก็ค่อยให้ ก็มีจัดไว้ให้เล็กๆ น้อยๆ เป็นสินน้ำใจของเพื่อนรักครับ"
               
                 "แต่ถามว่าผมอยากมีลูกไหม ก็อยากมีครับ อยากมีก่อนเขาอีก คืออยากมีลูกแต่ไม่อยากมีภรรยา(หัวเราะ) คือเลี้ยงลูกนี่ใครก็ได้ครับ ผมยังเคยพูดกับลิฟท์เลยว่าถ้ามีเดี๋ยวจะช่วยเลี้ยง เพราะดูท่าทางผมจะไม่มีลูกเอง"

ลิฟท์ สุพจน์ อุ้มลูกสาวคนแรกโชว์

ที่มา: manager.co.th