Author Topic: ข่าว Facebook แรง!! ในวันที่ 'The Social Network' ใกล้ชนโรง  (Read 2290 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai



ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือเพราะภาพยนตร์เรื่อง The Social Network ตำนานการสร้างเครือข่ายสังคม "เฟสบุ๊ก (Facebook)" ของ Mark Zuckerberg กำลังจะมีกำหนดเข้าฉายในสหรัฐฯวันที่ 1 ตุลาคม 53 ที่ทำให้สำนักข่าวต่างประเทศพากันตีข่าวที่เกี่ยวข้องกับเฟสบุ๊กตลอดทั้งสัปดาห์
       
       ต่อไปนี้คือประมวลข่าวร้อนของซีอีโอเฟสบุ๊ก ซึ่งมีทั้งประเด็นที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนี้ (เบื้องต้นคาดกันว่าจะมีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยกลางเดือนธันวาคม 53)
       
       สำหรับภาพยนตร์ The Social Network นั้นอำนวยการสร้างโดย Columbia Pictures ใช้โครงเรื่องจากหนังสือ The Accidental Billionaires: The Founding Of Facebook, A Tale of Sex, Money, Genius, and Betrayal แต่งโดย Ben Mezrich ในปี 2009 ผลงานการกำกับโดย David Fincher (ผู้กำกับ Fight Club, Panic Room และ The Curious Case of Benjamin Button) นักแสดงที่รับบทซีอีโอผู้ก่อตั้งเฟสบุ๊กคือ Jesse Eisenberg (จาก Zombieland) ที่น่าสนใจคือ นักร้องหนุ่ม Justin Timberlake จะร่วมรับบท Sean Parker ประธานบริษัทเฟสบุ๊กด้วย
       
       ***
       
       วันที่ 24 กันยายน Mark Zuckerberg กลายเป็นข่าวดังเมื่อประกาศกลางรายการทอล์กโชว์ Oprah Winfrey Show ว่าได้บริจาคเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุนการศึกษาแก่โรงเรียนสาธารณะในเมือง Newark รัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยมีผู้ว่าการรัฐ Chris Christie และนายกเทศมนตรี Cory A. Booker ร่วมรับมอบทุนซึ่งจะนำไปพัฒนาการศึกษาในนิวเจอร์ซีย์อีก 5 ปีนับจากนี้
       
       แน่นอนว่าการบริจาคเงิน 100 ล้านเหรียญนั้นไม่ใช่เรื่องหาง่ายในบรรดาพฤติกรรมที่เด็กหนุ่มวัย 26 ปีกระทำ โดยเชื่อว่านี่คือยอดเงินบริจาคที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเงินบริจาคของคนวัยเดียวกัน
       
       ปรากฏว่าสื่อมวลชนอเมริกันบางรายนำการบริจาคนี้ไปโยงกับภาพยนตร์ The Social Network ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างภาพลบแก่ซีอีโอ Zuckerberg โดยเฉพาะในแง่การถกเถียงเรื่องที่ว่าใครคือเจ้าของแนวคิด เฟสบุ๊ก ตัวจริง เนื่องจากในภาพยนตร์นั้นมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ชมเข้าใจว่า Zuckerberg เป็นผู้ขโมยแนวคิดเฟสบุ๊กจากเพื่อนร่วมสถาบัน แล้วกอบโกยประโยชน์ไว้ผู้เดียว
       
       เมื่อสื่อป้อนคำถามแก่ Zuckerberg ว่าเหตุใดจึงประกาศเรื่องการบริจาคในช่วงเวลาก่อนการเปิดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ Zuckerberg ระบุว่าเป็นเพราะความจำเป็นของระบบการศึกษาในเมือง Newark โดยบอกว่าผู้ว่าการรัฐและเทศมนตรีสามารถยืนยันได้ จุดนี้สื่ออเมริกันบางรายได้แต่ตั้งข้อสังเกตในใจ ว่าเหตุใดซีอีโอหนุ่มจึงไม่บริจาคแบบไม่เปิดเผยนาม
       
       แต่ถึงอย่างไร ก็ต้องขอปรบมือให้กับความใจกว้างของ Zuckerberg ซึ่งมีดีกรีความร่ำรวยแซงหน้าสตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอแอปเปิลไปแล้วด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 6.9 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.9 พันล้านเหรียญ ขึ้นเป็นเศรษฐีอันดับ 35 ของสหรัฐฯในขณะนี้
       
       สัปดาห์นี้ Zuckerberg ยังถูกเปิดเผยเกรดความลับโดยสำนักข่าว CNN ซึ่งรายงานว่า Zuckerberg มีอาการตาบอดสีแดง-เขียว โดยสีที่สามารถเห็นชัดที่สุดคือสีน้ำเงิน จึงเป็นที่มาของสัญลักษณ์เฟสบุ๊กที่มีสีฟ้าน้ำเงินสดใส นอกจากนี้ Zuckerberg ยังขึ้นชื่อเรื่องการเป็น"คนที่ไม่สนใจเงินทอง" เพราะเคยตอบปฏิเสธข้อเสนอมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญมาก่อน แต่ไม่มีรายงานว่าเป็นข้อเสนอเรื่องอะไร
       
       นอกจากเรื่องเงินทอง Zuckerberg ถูกตีพิมพ์บทสัมภาษณ์เรื่องการพัฒนาโปรเจ็กต์ Facebook Phone ว่าเป็นการพัฒนา"ระบบการสื่อสารพิเศษ"สำหรับอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ถือเป็นสัญญาณที่น่าใจหายของแอปเปิลเนื่องจาก iPhone ถูกพาดพิงว่า ที่ Zuckerberg ไม่เลือก iPhone นั้นเป็นเพราะสมาร์ทโฟนค่ายแอปเปิลสิ้นเปลืองแบตเตอรี่เกินเหตุและมีปัญหาสัญญาณ
       
       ด้าน Jesse Eisenberg ผู้รับบทเด็กหนุ่มนักศึกษาผู้สร้างเว็บไซต์เฟสบุ๊กในภาพยนตร์ The Social Network ก็เป็นข่าวดังในสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย โดยเปิดใจว่าหลังจากที่ได้อ่านบทภาพยนตร์ของ Aaron Sorkin เขาไม่รู้จักเฟสบุ๊กมาก่อน ไม่เคยใช้งาน ไม่มีประวัติโปรไฟล์ในเฟสบุ๊ก และไม่รู้ว่า Zuckerberg คือใคร ซึ่งหลังจากทดลองบทแล้ว ตัวเขาลงมือพยายามติดต่อเพื่อขอพบซีอีโอตัวจริงในทันที แต่ก็ไม่สามารถทำได้
       
       เรื่องนี้เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ เพราะเฟสบุ๊กออกมาประกาศว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับค่ายผู้สร้างทุกส่วน จึงไม่มีเหตุผลที่ Zuckerberg จะต้องร่วมมือเพื่อให้นักแสดงได้มีโอกาสวิเคราะห์บุคลิกภาพ โดย Zuckerberg เองก็เคยประกาศว่าจะไม่ไปชมภาพยนตร์ ซึ่งเขามองว่าภาพยนตร์นี้เป็นเพียงนิยายเรื่องหนึ่งที่แต่งขึ้นเพื่อความสนุกสนาน
       
       เมื่อไม่สามารถทำได้ Eisenberg จึงเริ่มแผน 2 โดยนำภาพและวิดีโอที่ Zuckerberg ขึ้นกล่าวบนเวทีและให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆมาศึกษาเพื่อให้เข้าถึงวิธีการพูด บุคลิก และการวางตัวของ Zuckerberg ตัวจริง ซึ่งตลอดการถ่ายทำ 72 วัน Eisenberg นั้นตีความว่า Zuckerberg เป็นผู้สันโดษซึ่งไม่ถนัดเรื่องการสื่อสาร ซึ่งความฉลาดปราดเปรื่องนั้นทำให้ Zuckerberg สามารถสร้างอาณาจักรเฟสบุ๊กที่มีชื่อบัญชีผู้ใช้งานมากกว่า 500 ล้านชื่อทั่วโลก
       
       อย่างไรก็ตาม หลายสื่อแสดงความเห็นใจกับ Zuckerberg โดยมองว่าการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมกับซีอีโอเฟสบุ๊ก และขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการชมให้ดี
       
       ...ใครอยากชมยกมือขึ้น...
       
       Company Related Link :
       Facebook

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
2076 Views
Last post November 10, 2009, 09:07:34 AM
by IT
0 Replies
2606 Views
Last post September 30, 2010, 12:51:30 PM
by Nick
0 Replies
2453 Views
Last post November 02, 2010, 04:28:08 PM
by Nick
0 Replies
1620 Views
Last post January 17, 2011, 03:02:31 PM
by Nick
0 Replies
1674 Views
Last post January 26, 2011, 02:58:39 PM
by Nick
0 Replies
7181 Views
Last post September 10, 2011, 05:07:08 PM
by Nick
0 Replies
1107 Views
Last post November 13, 2011, 11:44:58 AM
by Nick
0 Replies
1129 Views
Last post February 07, 2012, 01:45:52 PM
by Nick
0 Replies
805 Views
Last post June 29, 2014, 08:41:45 AM
by Nick
0 Replies
566 Views
Last post January 21, 2015, 01:02:41 PM
by Nick