Author Topic: แอลจีชูประเด็นสิ่งแวดล้อม ผนวก CSR ผ่านสื่อสารการตลาด  (Read 1907 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

ด้วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคจำนวนมาก และเป็นสินค้าสำหรับการใช้สอยในชีวิตประจำวัน ในครัวเรือน บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสัญชาติเกาหลีอย่างแอลจีจึงมีคำมั่นสัญญาในตัว แบรนด์แอลจีกับผู้บริโภคภายใต้สโลแกน "Life"s Good" เพื่อสื่อสารสร้างความผูกพันกับผู้บริโภค หรือที่ "ธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท" ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เรียกว่า "การเชื่อมโยงด้วยความรู้สึก" (emotional connection)

โดยเขาระบุว่า ถ้าสังเกตให้ดี การสื่อสารการตลาดของแอลจีจะไม่ได้มุ่งที่ฟีเจอร์ หรือความสามารถในการใช้งานของสินค้ามากเท่ากับการสร้างความรู้สึกผูกพันในตัวสินค้ากับแบรนด์ของบริษัท และจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจของสินค้าภายใต้แบรนด์แอลจีคือ การสื่อสารการตลาดและทำให้เกิดการต่อยอดความคิดเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรหรือซีเอสอาร์ที่เกิดขึ้นในการทำแคมเปญโทรศัพท์มือถือรุ่น GD510 ที่เปิดตัวมาเมื่อปีก่อน

ด้วยการผลิตและการใช้ง่ายของโทรศัพท์รุ่นนี้ เริ่มตั้งแต่การประหยัดพลังงาน ชาร์จไฟแล้วตัดไฟได้เองอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็มแล้ว แผ่นหลังเป็นแผ่นเซลล์แสงอาทิตย์เก็บและผลิตพลังงานในตัวเอง มีบรรจุภัณฑ์เป็นกล่องกระดาษขนาดพอเหมาะและใช้หมึกจากถั่วเหลืองจัดพิมพ์ เป็นต้น ทำให้แอลจีต่อยอดการสื่อสารแบรนด์และสินค้าตัวนี้เมื่อปีก่อนในโครงการที่ชื่อว่า "one email one tree" โดยใครก็ตามที่ลงทะเบียนกับเว็บไซต์แอลจี 1 อีเมล์ ปลูกต้นไม้ได้ 1 ต้น โดยสามารถเลือกประเภทและจุดปลูกต้นไม้บนหน้าเว็บไซต์ได้ และทีมงานของบริษัทจะนำต้นไม้ไปปลูกจริงในพื้นที่จริง ซึ่งระหว่างทำแคมเปญ ธันยเชษฐ์บอกว่า มีผู้เข้ามาคลิกและปลูก ต้นไม้ผ่านเว็บไซต์กว่า 2 หมื่นต้น

และด้วยกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ซื้อโทรศัพท์รุ่นดังกล่าวเป็นวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ จึงทำให้บริษัทเห็นว่า ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่ในความสนใจของคนกลุ่มนี้ จึงพัฒนาต่อยอดสื่อสารแบรนด์ออกมาเป็นโครงการ "Life"s Green, Life"s Good" ในปีนี้ โดยชักชวนแฟนคลับของพรีเซ็นเตอร์และบุคคลทั่วไปร่วมกันปลูกต้นไม้ที่อุทยานแห่งชาติเขา ชะเมา จ.ระยอง ซึ่งเป็นจังหวัดที่แอลจีมีโรงงานอยู่ อีกทั้งยังได้รับคำแนะนำเรื่องพันธุ์ไม้กับสถานที่ปลูกต้นไม้จากกรมป่าไม้ เพื่อให้กิจกรรมนี้เป็นการทำโดยไม่สูญเปล่า

การทำการตลาดของแอลจีในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอย ๆ หรือทำไปตามกระแสที่ใคร ๆ ก็ต้องเคลมว่า องค์กรตัวเองทำซีเอสอาร์แต่มาจากนโยบายในระดับโลกของบริษัท เพื่อสร้างชีวิตที่ดีผ่านการทำกิจกรรมเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม อาทิ การออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจัดการของเสียอันตรายที่ถูกวิธีตั้งแต่กระบวนการผลิต

หรือแม้แต่การจัดทำโครงการรับซื้อและตั้งโรงงานรีไซเคิล เพื่อให้ผู้ใช้สินค้าของแอลจีได้มีแหล่งคืนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีที่หมดอายุการใช้งานแล้วนำไปรีไซเคิลหรือกำจัดได้อย่างถูกวิธี ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และเมื่อไม่นานมานี้บริษัทแม่ยังได้ประกาศนโยบาย "Life"s Green 2020" ในงานมหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (CES) โดยให้คำมั่นจะร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งจากกระบวนการผลิตและตลอดอายุการใช้งานสินค้าของบริษัท เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสภาพภูมิอากาศของโลก

กระทั่งในกระบวนการผลิต แอลจีในระดับโลกได้ประกาศนโยบาย Eco-Supply Chain หรือห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม โดยกำหนดให้ผู้ขายอุปกรณ์และชิ้นส่วนให้กับบริษัทจะต้องดำเนินตามข้อกำหนดทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ ด้วยการลดหรือละทิ้งการใช้วัสดุที่เป็นพิษและก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

และแม้ขณะนี้บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะยังไม่ได้มีการรณรงค์หรือทำโรงงานรับซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นรูปธรรม แต่ธันยเชษฐ์ก็ยืนยันว่า เรื่องเหล่านี้เป็นนโยบายระดับโลกของบริษัท และในที่สุดบริษัทลูกในต่างประเทศก็ต้องดำเนินการ ในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน

ที่มา: prachachat.net


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)