Author Topic: ปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาหากโรงงานติดตั้งผ้ากันไฟ  (Read 306 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline siritidaporn

  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1103
  • Karma: +0/-0

ปัจจัยหลักสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาหากโรงงานติดตั้งผ้ากันไฟ

การติดตั้งผ้ากันไฟในโรงงานมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพ แต่หากทำไม่ถูกต้องหรือไม่คำนึงถึงปัจจัยสำคัญบางประการ อาจกลับกลายเป็น ปัญหา ที่บั่นทอนประสิทธิภาพ หรือแม้กระทั่งสร้างความเสี่ยงใหม่ๆ ได้ นี่คือปัจจัยหลักที่อาจทำให้เกิดปัญหาหากโรงงานติดตั้งผ้ากันไฟ:

1. การเลือกประเภทผ้ากันไฟที่ไม่เหมาะสม

ไม่ทนอุณหภูมิ: เลือกผ้าที่ทนอุณหภูมิได้ต่ำกว่าอุณหภูมิใช้งานจริงหรืออุณหภูมิสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นในกรณีไฟไหม้ ทำให้ผ้าเสื่อมสภาพเร็ว ไหม้ หรือประสิทธิภาพลดลงเมื่อเจอความร้อนสูง

ไม่ตรงกับลักษณะการใช้งาน:

ใช้ผ้าที่ไม่มีการเคลือบในพื้นที่ที่มีการสัมผัสบ่อย/ต้องการความสะอาด ทำให้เส้นใยฟุ้งกระจาย ระคายเคืองผู้ปฏิบัติงาน

ใช้ผ้าที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทนสารเคมี ในบริเวณที่มีไอระเหยหรือการหกของสารเคมี ทำให้ผ้าเสื่อมสภาพเร็ว

ใช้ผ้าที่ไม่ทน UV กลางแจ้ง ทำให้ผ้าเปราะและเสื่อมสภาพเมื่อโดนแสงแดดนานๆ

ไม่เหมาะสมกับแรงทางกายภาพ: เลือกผ้าที่บางเกินไปหรือมีความทนทานต่อการฉีกขาดต่ำในบริเวณที่มีการเสียดสี ดึงรั้ง หรือเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง ทำให้ผ้าเสียหายง่าย


2. การออกแบบและวางแผนการติดตั้งที่บกพร่อง

ตำแหน่งไม่ถูกต้อง:

ติดตั้งผ้าผิดจุด เช่น ไม่ตรงกับแนวกันไฟ ไม่ครอบคลุมแหล่งกำเนิดประกายไฟอย่างเพียงพอ ทำให้ไฟและควันยังคงลุกลามได้

ติดตั้งในตำแหน่งที่ขัดขวางการทำงานปกติ การเข้าถึงเครื่องจักรเพื่อบำรุงรักษา หรือขวางเส้นทางอพยพ

ไม่มีการเผื่อระยะที่เหมาะสม:

ไม่ได้เผื่อระยะซ้อนทับ (overlap) สำหรับผ้าม่านหรือฉากกั้น ทำให้มีช่องว่างที่ไฟและควันเล็ดลอดได้

ไม่ได้เผื่อระยะสำหรับการหดตัวของผ้าเมื่อได้รับความร้อนสูง (โดยเฉพาะผ้าบางชนิด) ทำให้ผ้าตึงหรือฉีกขาด

ไม่คำนึงถึงช่องว่าง/รอยต่อ: ละเลยการปิดผนึกช่องว่างระหว่างผ้ากับโครงสร้างอาคาร หรือระหว่างผืนผ้าแต่ละผืน ทำให้ประสิทธิภาพการกั้นไฟและควันลดลงอย่างมาก

โครงสร้างรองรับไม่แข็งแรง: ติดตั้งผ้าเข้ากับโครงสร้างที่รับน้ำหนักไม่ได้ หรือไม่แข็งแรงพอที่จะทนทานต่อแรงกระทำต่างๆ (เช่น ลม, แรงสั่นสะเทือน, หรือแรงกระแทก) ทำให้ผ้าหลุดร่วงเสียหาย


3. การติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่เป็นมืออาชีพ
ใช้อุปกรณ์ยึดที่ไม่เหมาะสม: ใช้วัสดุที่ไม่ทนไฟ, สนิมง่าย, หรือไม่แข็งแรงพอ อาจทำให้ผ้าหลุดร่วงเมื่อเกิดเหตุ หรือเสื่อมสภาพเร็ว

การตัดเย็บ/ประกอบไม่ดี: การเย็บตะเข็บที่ไม่แข็งแรง, การทำห่วงตาไก่ที่ไม่ได้มาตรฐาน, หรือการตัดผ้าไม่เข้ารูป ทำให้ผ้าไม่แนบสนิท มีช่องว่าง หรือฉีกขาดง่าย

ไม่มีการปิดผนึกรอยต่อ: การละเลยการใช้ซีลแลนท์กันไฟ (firestop sealant) หรือเทปกาวทนไฟในจุดที่ควรมี ทำให้ไฟและควันสามารถเล็ดลอดผ่านช่องว่างเล็กๆ ได้

ขาดความรู้ด้านความปลอดภัย: ผู้ติดตั้งไม่ได้รับการอบรมด้านความปลอดภัยในการทำงานในโรงงาน อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการติดตั้ง


4. การละเลยการบำรุงรักษา
ไม่ตรวจสอบสภาพผ้าสม่ำเสมอ: ไม่มีการตรวจสอบรอยฉีกขาด, รอยไหม้, การหลุดร่อนของสารเคลือบ, หรือความเสียหายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานปกติ

ไม่ซ่อมแซมทันที: เมื่อพบความเสียหายเล็กน้อยแล้วละเลย ไม่รีบซ่อมแซม ทำให้ความเสียหายลุกลามและลดประสิทธิภาพการป้องกัน

ไม่มีการทำความสะอาด: การสะสมของฝุ่น, คราบน้ำมัน, หรือสิ่งสกปรกบนผิวผ้าบางชนิด อาจลดประสิทธิภาพการทนไฟหรือทำความสะอาดได้ยากในภายหลัง (แต่ผ้าบางชนิดก็ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อย)


5. การไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานและข้อกำหนด
ไม่ใช้ผ้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน: เลือกใช้ผ้าที่ไม่มีใบรับรองหรือผ่านการทดสอบคุณภาพที่น่าเชื่อถือ ทำให้ไม่สามารถมั่นใจในประสิทธิภาพการป้องกันเมื่อเกิดเหตุจริง

ไม่ปฏิบัติตามคู่มือการติดตั้ง: ละเลยคำแนะนำของผู้ผลิตหรือมาตรฐานการติดตั้ง อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพของผ้ากันไฟลดลง

การตระหนักถึงปัจจัยเหล่านี้ และลงทุนในการวางแผน การเลือกวัสดุ และการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างเหมาะสม จะช่วยให้โรงงานสามารถใช้ผ้ากันไฟเป็นเครื่องมือป้องกันอัคคีภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุดครับ


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)