ก่อนทำ 1 วันให้กิน ผักหรือผลไม้ + ดื่มชาเขียวไม่มีน้ำตาล
ก่อนนอน ดื่มน้ำส้มแขกอีกแก้ว แล้ว นอน
ควรนอนเวลา 1ทุ่ม คึ่ง ตื่น ตี 5 ครึ่ง
**** เวลา ทานอาหารที่ดี *****
เช้า เวลา 7.30 - 9.00 น.
กลางวัน เวลา 11.30-12.30น.
เย็น เวลา 15.00-16.30 น.
วันที่ 1 ตื่นมา ถ่ายให้หมด และ ดื่มๆน้ำสะอาดๆ ซะ 1 ลิตร
เช้า ขนมปังปิ้งจนแห้ง + ส้มขนาดกลางหวานไม่มาก + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
กลางวัน ไอติ้มของวอล์ รส วลินา 1ลูก +แครอท น้ำบุรูท ประมาณ 50 กรัม + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
เย็น ปลาทูน่า + มะเขือเทศ สีดา 1 ลูก + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
วันที่ 2
เช้า แก้วมังกร + แฮม 2 แผ่น + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
กลางวัน ไข่ต้มกินไข่ขาว + ถั่วฝักยาว ต้ม + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
เย็น ผักกาดต้ม + แคนตาลูบ ต้ม + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
วันที่ 3
เช้า ปลาทูน่า + ส้มเขียวหวาน ขนาดเล็ก 1 ผล + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
กลางวัน แกงส้ม กินแต่ผัก + กินเปลือกกุ้งนะ + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
เย็น ปังปิ้งจนแห้ง + ลูกพรุนแห้ง 2 ลูก + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
ดื่มชาเขียว จะช่วยกระตุ้นการเรงเผาผาญนะ!
ห้ามปลี่ยนแปลงหรือทดแทนอาหารอื่น
- ห้ามใช้เครื่องปรุงรสอื่นใด นอกจากเกลือและพริกไทยเท่านั้น
- รายการใดไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจนให้ใช้วิจารณญาณตามความเหมาะสม
- อาหารนี้ให้ใช้ติดต่อกันครั้งละ 3 วัน แล้ว ทานอาหารตามปกติ ทีไม่ใช่ ของทอง ของมัน ขนมหวาน
อาหารเสริมวันอื่นๆ
*ยำ(วุ้นเส้นไม่ใส่อาหารทะเลและอาหารจำพวกแป้ง) สุกี้
ทานแต่ผลไม้ทุกมื้อ ผลไม้อะไรก็ได้ แต่ถ้าคนที่อยากให้ได้ผลดีหน่อยก็เลือกผลไม้ที่น้ำตาลน้อยละ
(ฝรั่งก็ดีมากเลยแตงโม แต่อย่าพวกทุเรียน มะม่วง ที่มันแป้งเยอะ)
*แกงจืดใส่คนอร์ก้อนนึงแล้วก็เอาผักอะไรก็ได้ จะเป็นกล่ำปลี ผักกาดขาว ตำลึง กวางตุ้ง ใส่ซีอิ๊วนิดนึง กินกับข้าวหนึ่งทัพพี หรือไม่กินข้าวก็ได้
*ต้มจืดผักกาดขาว เห็ดฟาง ใส่เต้าหู้เพื่อเพิ่มโปรตีนสัก ครึ่งหลอด ใส่คนอร์1 ก้อน กินตอนเย็น หรือไม่ก็เครื่องปรุงมากขึ้นหน่อย ผักกาดขาว ผักบุ้ง เห็ดฟาง เห็ดหอม ใส่น้ำจิ้มสุกี้กินก็ได้ ผักต้มจิ้มน้ำพริกก็เวิร์ค
*ยำผัก ใช้ผักสลัด แตงกวา มะเขือเทศ หอม และทำน้ำยำ ใช้ น้ำปลา 2ช้อน มะนาว 3 ช้อน น้ำตาลแบบไม่มีแคลลอลี่ นิดหน่อยใส่พริกแล้วแต่ชอบ คลุกเคล้าทั้งหมดเข้ากัน กินแบบนี้ทุกวัน วันละ 3 มื้อ ถ้าเบื่อที่จะกินทุกวัน ทำต้มยำผัก
ถ้าเบื่อผลไม้ ให้นำมายำ โดยทำน้ำยำดังนี้ ผสมน้ำผึ้ง 1ช้อนโต๊ะ กับมะนาว และพริกป่น แล้วคลุกกับผลไม้ให้ทั่ว ใช้แอปเปิ้ล เขียวแดง ชมพู่ มันแกว ส้มโอ ส้มเขียวหวาน หรือองุ่น
*ทานผลไม้เช่นส้ม แคนตาลูป แตงโม ฝรั่ง เพียง 2-3 ชิ้นก่อนอาหารแต่ละมื้อ จะทานอาหารได้น้อยลง และผลไม้ที่คุณกินเข้าไปก็จะช่วยย่อย และไม่เกิดการสะสมในร่างกายด้วย
บางสูตรให้งดกล้วยน้ำว้าหรือกล้วยหอม แต่ถ้าหากคุณหิวในมื้อกลางวันหรือเย็นจะทานกล้วยสักผลก็ได้
ถ้าติดขนมจุบจิบ ให้ใช้แตงกวา หรือแครอท หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า หรือน้ำแข็งป่นมาวางใกล้ๆ มือ ทานแทนขนมขบเคี้ยว
หั่นเป็นชิ้นๆ พอคำ แช่ไว้ในตู้เย็น พอเกิดอยากอาหารขึ้นมาก็ทานผักผลไม้พวกนี้แทน
*ลดปริมาณอาหารเนื้อสัตว์ประเภทหมู เป็ด ไก่และเนื้อวัวลง ควรกินแค่สัปดาห์ละครั้งเท่านั้นและควรนำมาลวก ย่าง นึ่งหรือต้ม และอย่ากินส่วนที่เป็นหนังและเป็นมันนะคะ
ถ้าหิวบ่อยให้แบ่งมื้ออาหารเป็น 4-5 มื้อเล็กๆ เพื่อให้ร่างกายมีการเผาผลาญอาหาร
*พยายามตักอาหารทุกอย่างที่อยากกินมาใส่จาน เพื่อจะได้มองเห็นปริมาณทั้งหมดในมื้อนั้น เพราะถ้ากินจากจานอื่น เราจะกินไปได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่ากินไปมากขนาดไหนแล้ว
สลัดผักควรราดด้วยสลัดน้ำใสหรือน้ำมันมะกอก จะเป็นเมนูลดน้ำหนักที่ดีเยี่ยม
*เปลี่ยนเมนูอยู่เสมอ การกินอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ กันเกือบทุกวันจะเป็นผลเสียต่อการเผาผลาญอาหาร เพราะร่างกายจะเผาผลาญแคลอรี่ได้เท่าเดิม จึงแทบจะไม่มีผลต่อการลดน้ำหนักตัว
ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์ให้กินแฮมต้ม ปลานึ่ง ทูน่ากระป๋อง ไก่ต้มไม่เอาหนัง กินอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงเล็กน้อยใน 1 มื้อ ควรกินคู่กับผักต้ม
*ลดคาร์โบไฮเดรต ลดเนื้อสัตว์ กินแต่ผักผลไม้เป็นหลัก งดการทอด หรือการปรุงอาหารที่ต้องใช้น้ำมันมากๆ หรือการปรุงด้วยน้ำตาล เนย และกะทิ
ให้ดื่มชาร้อนๆ เพราะเครื่องดื่มร้อนๆ จะช่วยให้ความรู้สึกหิวหายไป
*กินกระเทียมสดและพริกไทยทุกวัน เพราะจะช่วยลดคลอเลสเตอรอลและลดน้ำหนักได้
*วางแผนการกินล่วงหน้าแต่ละมื้อ การกินโดยไม่คิดก่อนจะทำให้เผลอไปกินอาหารที่ไขมันสูง
ลดหน้าท้อง
1. โยเกิต ครึ่งถ้วย (รสชาติตามใจชอบ แต่ถ้าใช้ รสผลไม้รวมจะอร่อยมาก)
2. นมสด 1 กล่อง (รสจืด หรือหวานก็ได้ แต่เราใช้สูตรรสหวาน อร่อยมาก)
3. น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
4. มะนาว 1 ลูก (ใส่ทีหลังสุด)
เอาส่วนผสมนี้เทใส่แก้วใหญ่ ๆ แล้วคนให้เข้าใจ แล้วดื่มตอนเช้าก่อนอาหารเท่านั้น(ทานมื้ออื่นไม่เห็นผล) ดื่มให้หมดแก้ว แล้วดื่มน้ำตาม 1-2 แก้ว จะทำให้เห็นผลชัดขึ้น สูตรนี้ทำเพื่อลดหน้าท้อง ปรับธาตุ ล้างพิษในลำไส้ล้างไขมัน
กินวันแรกๆ จะเห็นเลยว่าอุจจาระจะเป็นสีดำ และไล่ลมในกระเพาะดีมาก
ระยะต่อมาเมื่อลำไส้และกระเพาะอาหารในร่างกายปรับตัวได้กับอาหารที่กินแล้ว จะเข้าสู่ภาวะปกติ
แต่ต่อมาจะมีความรู้สึกว่าหน้าท้องยุบลงไปเรื่อยๆๆ ควรกินทุกเช้าติดต่อกันทุกวัน
กินมื้ออื่น(หลังบ่ายสามโมงขึ้นไปจะทำให้อ้วน)
ไขมันที่เกาะในผนังลำไส้ กระเพาะอาหาร ตับม้าม ทำให้ดูดซึมบกพร่อง เป็นเหตุให้เกิดโรคต่างๆ ดังนี้
1. ถุงน้ำดีข้น ทำให้นอนไม่หลับ อารมณ์ฉุนเฉียว นิ่วในไต สายตาเสื่อม ปวดเมื่อยตามร่างกาย
2. เลือดเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้มึนศีรษะ
3. ไตเสื่อม ทำไห้ความความจำลดลงและเป็นคนขี้หนาว
4. ม้ามชื้นทำให้อาหารที่กินเข้าไปแปรสภาพเป็นไขมันเป็นผลทำ ให้อ้วนง่าย
5. ม้ามโต ทำให้เหนื่อยง่ายเพราะม้ามไปเบียดปอด
6. ถ้าไขมันเกาะลำไส้เล็กมากๆจะทำให้ลำไส้เล็กไม่สามารถดูดซึมวิตามินซีได้ เป็นผลให้เป็นหวัดในตอนเช้า หรือหวัดเรื้อรัง กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เกิดโรคภูมิแพ้
7. ถ้าไขมันในตับสูง การสร้างเม็ดเลือดจะลำบาก
ฉะนั้นการดื่มตาม สูตรนี้ นอกจากช่วยลดหน้าท้อง ยังส่งผลให้อาการป่วยทั้ง 7 ประการนี้หายไปด้วย
การนวดก็สามารถลดไขมันได้ เพราะเวลาที่นวดนั้น จะมีการบีบเนื้อส่วนที่มีไขมันส่วนเกิน โดยจะต้องบีบๆ นวดๆ ให้เต็มมือ ไม่ใช่แค่กดๆ คลึงๆ นะคะ การนวดๆ บีบๆ แรงๆ จะทำให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงลดการบวมเพราะเลือดมาคั่งอยู่ที่บริเวณขา ทำให้สามารถกำจัดของเสียและไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการก็คือ นวดบริเวณต้นแขนและต้นขาบ่อยๆ วันละ 1 ครั้งทุกวัน ใช้เวลา 40 นาที หรือครั้งละ 20 นาที 2 ครั้งต่อวัน
(เก็บมาฝากเหมือนเดิม)