Author Topic: Wat Phra Phiren วัดพระพิเรนทร์  (Read 269 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline siamwebsite

  • Sr. Member
  • ****
  • Posts: 419
  • Karma: +0/-0
    • http://www.facebook.com/siamwebsite
    • http://instagram.com//siamwebsite
    • http://www.twitter.com/siamwebsite

วัดพระพิเรนทร์ ตั้งอยู่เลขที่ 326 ถนนวรจักร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีตอนปลาย ราวปี พ.ศ. 2300 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ราวปี พ.ศ. 2379 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระพิเรนทรเทพ (ขำ อินทรกำแหง ณ ราชสีมา) เจ้ากรมพระตำรวจหลวง บุตรชายเจ้าพระนครราชสีมา (ทองอินทร์ อินทรกำแหง ณ ราชสีมา) ให้มาบูรณปฏิสังขรณ์วัด เจ้าศรัทธาจึงตั้งนามวัดว่า “วัดขำเขมการาม” ครั้นถึงปี พ.ศ. 2411 รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงแปลงนามวัดให้ใหม่ว่า “วัดขำโคราช” ใช้มาถึงปี พ.ศ. 2430 จึงได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดพระพิเรนทร์” ตามชื่อบรรดาศักดิ์ของเจ้าศรัทธา ผู้บูรณปฏิสังขรณ์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2480 (พระเทพคุณาธาร ผล ชินปุตโต หรือปู่ขุ่น แซ่เล็ก) ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น ได้ประกอบพิธียกป้ายวัดขึ้นสู่ซุ้มประตูด้านติดกับถนนวรจักร วัดแห่งนึ้จึงกลายเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ในช่วงที่พระเทพคุณาธารเป็นเจ้าอาวาส (พ.ศ. 24762-512) เป็นช่วงรุ่งรืองสูงสุด ของวัดพระพิเรนทร์ มีพระสงฆ์สามเณรในวัดประมาณ 50-60 รูป ศิษย์วัดนับจำนวนเป็นสิบขึ้นไป กิจนิมนต์นอกวัดในวันเสาร์อาทิตย์นั้น มีหลายสายจนรับไม่ไหว ส่วนในวัดที่มี 45 ศาลา ก็มีพิธีสงฆ์เกือบทุกศาลา ต้องนิมนต์พระวัดอื่นๆ มาสวดมนต์เสริมด้วยเป็นประจำ ความที่มีกิจกรรมมาก เสียงปี่พาทย์ในวัดพระพิเรนทร์ไม่เคยขาดหาย จะได้ยินตั้งแต่ 9 โมงเช้าเป็นต้นไป ถึง 5 ทุ่ม เพราะวัดพระพิเรนทร์มีชื่อเสียงด้านจัดการเมรุและฌาปนกิจศพ ทั้งนี้เพราะพระเทพคุณาธาร ท่านมีเมตตาจัดงานศพให้ทุกคนทั้งที่มีทุนทรัพย์มาก จนกระทั่งไม่มีเลย (ไม่มีทรัพย์ฌาปนกิจให้ฟรี ซึ่งในปัจจุบันก็ยังปฏิบัติอยู่) พระภิกษุสามเณรวัดพระพิเรนทร์ ที่มีนับสิบนั้น ส่วนมากเป็นพระนักเรียนนักศึกษา บางท่านมีผลงานจนเป็นที่ยอมรับของมหาชนทั่วโลก คือพระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ที่อยู่ที่วัดพระพิเรนทร์ตั้งแต่เป็นเด็ก เมื่อบรรพชาเป็นสามเณรก็เรียนเก่ง จนกระทั่งสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ขณะที่เป็นสามเณร เมื่อปี พ.ศ. 2504 อุปสมบทที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยเป็นนาคหลวง พระศิษย์เก่าวัดนี้ที่มีชื่อเสียงด้านนวกรรมการก่อสร้าง และสาธารณูปการในปัจจุบันได้แก่ พระเทพสิทธิโกศล (ใหญ่) เจ้าอาวาสวัดพลับพลาชัย เจ้าคณะเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย นอกจากนั้นก็มีพระศิษย์ของวัดไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสในภูมิภาคอีกหลายวัด หลายรูป เช่นพระมหาวิเชียร กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เป็นต้น ผู้ที่เคยเป็นสมณะอยู่ที่วัดนี้แล้วลาสิกขาได้ดีมีชื่อเช่น (เฉพาะที่ทราบและจำได้ และอยู่ในช่วงเดียวกับผู้เขียน) พล.ต.ทองขาว พ่วงรอดพันธ์ หรือเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เช่น อาจารย์ธวัช แย้มพงษ์ แห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ส่วนผู้ที่เป็นศิษย์วัดรับราชการได้ดีเป็นถึงผู้ว่าราชการจังหวัดก็มี เช่น สุวัฒน์ ตันติพัฒน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น ส่วนปูชนียวัตถุที่ควรกล่าวถึงในวัดนี้ ได้แก่อุโบสถ ที่มีสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก และตะวันออก กล่าวคือตัวอุโบสถยกพื้นสูง โครงสร้างอาคารจัดแบ่งเป็นพื้นที่ชั้นในและชั้นนอก ชั้นในมีกำแพงหน้าต่าง และประตู และใบพัทธสีมาโดยรอบ ส่วนพื้นที่ชั้นนอก เป็นระเบียงรอบตัวอาคาร แปลว่าที่อุโบสถนี้มีระเบียงและที่รับรองทั้งด้านหน้าและด้านหลัง คล้ายกับพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ผิดกันที่ความวิจิตร และอลังการเท่านั้น โครงสร้างรอบนอก โบสถ์ที่วัดอื่นตั้งเสาหาร คันทวยรับกับพาไล ที่วัดนี้ไม่มีเสาหาร คันทวย แต่ดัดแปลงเป็นซุ้ม แบบศิลปะตะวันตก หรือแบบโกธิก รับพาไล ซึ่งจะเห็นตามโบสถ์ฝรั่งทั่วไป เมื่อดูส่วนหลังคา ก็เห็นความแตกต่างของอุโบสถหลังนี้กับอุโบสถวัดทั่วไป กล่าวคือในส่วนที่เป็นช่อฟ้าของอุโบสถทั่วไปจะเป็นหางพญานาคชูขึ้นเป็นช่อฟ้า แต่ตำแหน่งเดียวกันนี้ที่อุโบสถวัดพระพิเรนทร์ เป็นหัวพญานาคอ้าปากเห็นเขี้ยว ในพระอุโบสถมีพระประธานปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 1 เมตร มีพระพุทธรูปยืน ปางห้ามญาติ 2 องค์ ปางห้ามสมุทร 2 องค์ ปางประทานพร 1 องค์ ปางอุ้มบาตร 1 องค์ พระพุทธรูปนั่งปางสมาธิ 5 องค์ ซุ้มด้านหน้าพระอุโบสถ มีพระพุทธรูปปางลีลา 1 องค์ ซุ้มด้านหลังมีพระพุทธรูปปางรำพึง นอกจากนั้น ที่ผนังกำแพงด้านตะวันออกในอุโบสถมีเครื่องประดับ 1 ชิ้น ได้แก่พระรูปหล่อส่วนพระพักตร์ รัชกาลที่ 8 ในแผ่นโลหะขนาดเท่าฆ้องขนาดเล็กติดอยู่ที่ผนังด้านทิศตะวันออก ส่วนประตูหน้าต่างนั้น เป็นประตูไม้แกะสลักลายใบเทศ ที่ช่างจีนมานั่งแกะแทนของเก่า เมื่อปี พ.ศ. 2505-2506 ระหว่างอุโบสถกับวิหารเป็นที่ตั้งมณฑป ประดิษฐาน รูปหล่อพระเทพคุณาธาร (ผล ชินปุตโต) และรูปอดีตเจ้าอาวาส หลายรูป ในบริเวณเดียวกันนี้มีหอระฆัง สร้างโดยภิกษุฟ้อน พรหมโชติ เมื่อปี พ.ศ. 2481 มีรูปแพะเป็นเครื่องหมายที่หน้ามุข อีกด้านหนึ่งเป็นวิหารจีนประดิษฐานพระสังกัจจายน์ 1 องค์ ด้านหน้าวิหารจีน นั้นเป็นศาลาคอนกรีต สร้างในสมัยพระเทพวิสุทธิโมลี (อุทัย) โดยธนาคารกรุงเทพ สาขาวรจักร เป็นผู้บริจาครายใหญ่ ถัดจากวิหารจีน เป็นวิหารไทย ยกช่อฟ้า ใบระกา มุงกระเบื้องเคลือบ ด้านในของวิหารมีพระพุทธรูป “หลวงพ่อดำ” ปางมารวิชัย 1 องค์ (องค์ล่าง) และ หลวงพ่อเพชร อีก 1 องค์ (องค์บน) ถัดจากวิหารไปทางทิศใต้เป็นพระเจดีย์ทรงลังกา แต่เดิมเป็นเจดีย์ฉาบปูน ทาสีขาว รอบๆ ฐานพระเจดีย์ เป็นที่บรรจุอัฐิ ต่อมาพระเทพวิสุทธิโมลี ได้ปรับปรุงใหม่ ย้ายอัฐิไปเก็บตามช่องต่างๆ ของกำแพง ส่วนเจดีย์ทาสีทองสวยงามดังที่เห็น ติดกับเจดีย์ทรงลังกาคือศาลาประชาอุทิศ ที่พระเทพวิสุทธิโมลี ดัดแปลงส่วนที่เป็นเพดานให้เป็นพื้นที่ใช้สอย เคยเป็นที่อบรมและปฏิบัติธรรมของสำนักสหปฏิบัติระยะหนึ่ง ย้อนไปเมื่อ 5060 ปีที่แล้ว บริเวณโดยรอบวิหาร และพระเจดีย์เป็นป่าช้า หรือที่เก็บศพ ซึ่งเป็นที่มาของการฌาปกิจศพพระไม่มีญาติที่มรณภาพที่โรงพยาบาลสงฆ์ เอาศพมาเก็บไว้ 1 ปี ไม่มีญาติมารับ ถึงวันสงกรานต์ทางวัดจึงฌาปนกิจ ทำติดต่อมานานประมาณ 60 ปี จนกลายเป็นประเพณีของวัดพระพิเรนทร์ ถึงทุกวันนี้ หชื่อพระพิเรนทร์ มีแต่คนสำคัญ อย่างไรก็ตาม คำว่า พิเรนทร์ ที่คนเข้าใจความหมายผิดไป ทั้งๆ ที่ในอดีตผู้ที่มีบรรดาศักดิ์นี้เป็นเจ้าขุนมูลนายที่มีความสำคัญเป็นถึงพระมหากษัตริย์ ครองกรุงศรีอยุธยา เช่น สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช (พระบรมชนก สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระนางสุพรรณกัลยา) เดิมมีบรรดาศักดิ์ที่ขุนพิเรนทรเทพ ช่วยปราบขุนวรวงษาธิราชและท้าวศรีสุดาจันทร์ จนกรุงศรีอยุธยากลับเข้าสู่สภาพปกติ สมัยรัตนโกสินทร์ พระพิเรนทรเทพ เดิมชื่อ ขำ ณ ราชสีมา เป็นขุนนางคนสนิทในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 เป็นบุตรชายของเจ้าพระยานครราชสีมา (ขำ ณ ราชสีมา) ผู้สำเร็จราชการเมืองนครราชสีมา เป็นผู้บูรณะและสร้างวัดจนนำบรรดาศักดิ์ที่เป็นราชทินนามมาเป็นชื่อของวัด 2 แห่ง คือวัดพระพิเรนทร์ และวัดใหม่พิเรนทร์ ดังกล่าวแล้ว



Read More >> https://www.wreath-delivery.com/blog_detail.php?id=671

--

--------------------
ช่องทางการติดต่อ
โทร : 061-1986-533
Line : @wreathdelivery
ที่อยู่ : 305 ถนน พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 บางพรม ตลิ่งชัน กทม 10170
--------------------
พวงหรีดหรู
พวงหรีดดอกไม้สด
พวงหรีดพัดลม
พวงหรีดต้นไม้
ดอกไม้หน้าหีบ
พวงหรีดดอกไม้ประดิษฐ์

บริการพวงหรีด
ส่งพวงหรีด
ขายพวงหรีด
ร้านพวงหรีด
พวงหรีดหรู ราคาถูก จัดส่งฟรี
wreath delivery
บริการส่งพวงหรีดฟรีทั่วกรุงเทพฯ และนนทบุรี



รับทำเว็บไซต์
รับทำเว็บไซต์ ราคาถูก
เว็บไซต์ขยายสายงาน
สยามเว็บไซต์ SIAMWEBSITE
--------------------


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)