Author Topic: เลอโนโวเพิ่มน้ำหนักบุกไทย-อาเซียน  (Read 935 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

"เลอโนโว" ปรับทัพใหญ่โฟกัสตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ชูกลุ่มประเทศ "HARI" เน้นการร่วมมือเป็นกลุ่มประเทศ สร้าง"อีโคโนมีออฟสเกล"เดินหน้าเจาะกลุ่มคอนซูเมอร์-เอสเอ็มอี ปรับปรุงระบบซัพพลายเชน ตั้งโรงงานเม็กซิโก โปแลนด์รองรับตลาดสหรัฐ ยุโรป ขณะที่ตลาดไทยเบนเข็มเจาะโปรเจ็กต์ภาครัฐและการศึกษา หลังอุตสาหกรรมการผลิตชะลอตัว


นายฮาววี่ ลอว์ ผู้จัดการทั่วไปและผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร เลอโนโว อาเซียน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เลอโนโวได้ปรับโครงสร้างการบริหารใน ตลาดประเทศเกิดใหม่ที่มีอัตราการเติบโตสูง เช่น ไทยและประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์หลักของเลอโนโวในปีนี้ โดยเลอโนโวแบ่งโครงสร้างใหม่เป็นจีน, ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์, ญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศ "HARI" ประกอบด้วย ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี (H) อาเซียน (A) รัสเซีย (R) และอินเดีย (I) จากเดิมที่แบ่งเป็นประเทศในเขตเอเชีย-แปซิฟิกกับประเทศจีนเท่านั้น โดยจะให้แต่ละกลุ่มประเทศมีผู้จัดการดูแลแต่ละกลุ่มและรายงานตรงถึงสำนักงานใหญ่

การรวมตลาดที่คล้ายคลึงกันไว้ด้วยกัน เช่น กลุ่มประเทศ HARI จะทำให้สามารถเสนอสินค้าและการทำตลาดไปในทิศทางเดียวกันได้ สามารถโฟกัสได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเรื่องของ "อีโคโนมีออฟสเกล" นำไปสู่การลดต้นทุน ช่วยด้านการเจรจาต่อรอง มีประสิทธิภาพในการทำงานและคล่องตัวมากขึ้น

โดยเฉพาะกลุ่ม HARI เลอโนโวจะมีการลงทุนหรือให้การสนับสนุนตลาดกลุ่มนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นตลาดที่มีอัตราการการเติบโตสูง โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นการสรุปแผนงาน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนต้นเดือน เม.ย.

"ประโยชน์คือช่วยลดค่าใช้จ่าย เพราะในช่วงเศรษฐกิจขาลง เราต้องเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน ขณะเดียวกันยังสามารถแชร์ประสบการณ์ทำตลาดในแต่ละประเทศร่วมกัน อาจจะมีโปรโมชั่นแคมเปญที่มีเหมือนกันในกลุ่มประเทศ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้"

สำหรับในเขตอาเซียนจะเน้นทำตลาดกลุ่มเอสเอ็มอีและคอนซูเมอร์เป็นหลัก เพราะมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก การใช้พีซีมีความจำเป็นมากขึ้น และไลฟ์สไตล์ของ ผู้ใช้งานปลี่ยนไป คนเริ่มซื้อโน้ตบุ๊กเพื่อใช้อินเทอร์เน็ต ทำให้ตลาดคอนซูเมอร์มีศักยภาพที่จะเติบโต

นอกจากนี้อาเซียนมีธุรกิจเอสเอ็มอีอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่เทคโนโลยีและราคาลดลง ความซับซ้อนของระบบน้อยลง การใช้งานเข้าใจง่ายขึ้น ทำให้ลูกค้าเอสเอ็มอีสามารถหาซื้อสินค้าได้ ตลาดจึงมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยเลอโนโวจะเน้นหาสินค้าที่ตรงกับความต้องการของแต่ละตลาด และการเพิ่มพาร์ตเนอร์ช่องทางการจำหน่ายที่เหมาะสมแต่ละตลาดด้วย แต่ก็ไม่ทิ้งการทำตลาดกลุ่มคอร์ปอเรตและภาครัฐ โดยปีที่ผ่านมาเลอโนโวมีส่วนแบ่งตลาดในเอเชีย-แปซิฟิกเป็นอันดับหนึ่ง 18.3% รองลงมาคือเอชพีและเดลล์

"ตลาดคอนซูเมอร์และเอสเอ็มอีในไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนามมีการเติบโตสูงมาก รวมถึงตลาดในเอเชีย-แปซิฟิกที่มีประชากรรวมกว่า 50.9% ของประชากรโลก แต่ยังมีอัตราการใช้คอมพิวเตอร์ต่อประชากรในสัดส่วนที่ต่ำอยู่ ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก"

นอกจากนี้บริษัทจะโฟกัสด้านซัพพลายเชนเพื่อให้เกิดความรวดเร็วด้วยต้นทุนที่ต่ำลง โดยเน้นการปรับปรุงระบบหลังบ้านให้ดีขึ้น ล่าสุดได้เพิ่มโรงงานผลิตพีซีใหม่ที่เม็กซิโกเพื่อรองรับตลาดอเมริกาและโรงงานที่โปแลนด์เพื่อรองรับตลาดยุโรปซึ่งจะช่วยให้ระบบซัพพลายดีขึ้น ช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าได้ จากเดิมมีเฉพาะโรงงานที่จีนเพียงแห่งเดียว พร้อมกับการสร้าง แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในคอนซูเมอร์มากขึ้น

นายฮาววี่ ลอว์ กล่าวอีกว่า ตลาดไอทีไทยยังมีกำลังซื้อ แต่จะใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ขณะที่ตลาดคอร์ปอเรต แม้บริษัทจะมีงบประมาณที่จำกัด แต่ยังมีการลงทุนอยู่ โดยจะมองค่าใช้จ่ายโดยรวมมากขึ้น

ด้านนายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับองค์กร บริษัท เลอโนโว ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับการทำตลาดคอร์ปอเรตพบว่ากำลังซื้อลดลง โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและส่งออก ทำให้บริษัทต้องเน้นจับกลุ่มการศึกษาและภาครัฐ โดยหาโซลูชั่นที่เหมาะสมมาเจาะตลาด

ขณะที่กลุ่มธนาคารและโทรคมนาคมมีการลดค่าใช่จ่ายด้านไอทีประมาณ 20% โดยจะลดสเป็กของสินค้าพร้อมกับขยายการบริการเพิ่มขึ้นจากเดิม 3 ปี ปัจจุบันพบว่าลูกค้าต้องการขยายเวลาการรับบริการสินค้าต่อๆ ไปอีก 4-5 ปี นอกจากนั้น เลอโนโวยังยืดเวลาเครดิตเพิ่มขึ้นจาก 30 วัน เป็น 45 และ 60 วันด้วย


ที่มา: pantip.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)