Author Topic: จัดทัพรุกตลาดแบบ 360 องศา เกมเอาคืนของยักษ์ "โนเกีย"  (Read 1388 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่



ปลายปีต่อต้นปี 16 ม.ค.2552 เดือนแรกของปี "ทรูมูฟ" จัดแจงจุดพลุสร้างสีสันให้ตลาดมือถือ ด้วย "ไอโฟน 3G"

ถัดมาไม่กี่วันเป็นเทรดโชว์กระตุกยอดขายงานแรก "โมบาย เอ็กซ์โป 2009" ซึ่งเจ้าของสินค้าทั้งอินเตอร์แบรนด์และเฮาส์แบรนด์ขนสินค้าไปขายกันอย่างคึกคัก

"เอ็มวิชั่น" ผู้จัดงานเปิดเผยว่า ยอดขายรวมทั้ง 4 วัน ทำได้ทะลุเป้า 1,200 ล้านบาท ที่ตั้งไว้

ต่อด้วยการเปิดตัวโปรดักต์ฮีโร่ตัวแรกของปีของยักษ์มือถือ "โนเกีย" กับรุ่น 5800 มิวสิกโฟน หน้าจอทัชสกรีนตัวแรก ซึ่งฮอตฮิตติดลมบนตามคาด แค่เดือนเดียวยอดทะลุ 1.5 หมื่นเครื่องไปแล้ว แต่จะร้อนแรงไปได้ไกลถึงไหนน่าติดตาม

รูปลักษณ์และคุณสมบัติของ 5800 โดดเด้งโดนใจคนที่อยากซื้อเครื่องใหม่ก็จริง แต่ด้วยราคา 13,520 บาท ไม่ใช่ถูกๆ เลย

ทั้งระดับราคาขนาดนี้ ไม่ใช่กลุ่มสินค้า ที่ทำวอลุ่มได้เยอะอยู่แล้ว ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อดิ่งลงเหวแบบนี้ ด้วยแล้ว

สำหรับ "โนเกีย" การเปิดเกมแรกของปีด้วย 5800 ถือว่าทำได้ดีมาก อาจไม่ดังระดับ Talk of the town แต่สร้างความ ตื่นเต้นให้ตลาดได้ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาวกโนเกีย บรรดาร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายก็พลอยคึกคักไปด้วย

เป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ได้อย่างเหมาะเจาะพอดี หลังมีการประกาศปรับโครงสร้างการจัดจำหน่ายใหม่ไปหมาดๆ มีผล 1 ก.พ.2552 ที่ผ่านมา

เรียกว่าทิ้งทวนเก้าอี้ "จีเอ็ม" โนเกีย (ประเทศไทย) ของ "วิภู ซาวาบาล" ก็น่าจะได้ เพราะเจ้าตัวจะย้ายกลับไปนั่งคุมการขายที่ประเทศอินเดียในเดือน เม.ย.นี้
 


ไม่ใช่แต่ปรับโครงสร้างการจัดจำหน่ายแบ่งโซนการกระจายสินค้าให้ "ดิสทริบิวเตอร์" ใหม่เท่านั้น "โนเกีย" ยังเดินเกมลึกโดยลงไปคลุกวงในกับบรรดาเชนสโตร์และตัวแทนจำหน่ายมากขึ้นกว่าเดิมมาก ตั้งแต่ร่วมประชุมวางแผนการทำตลาด การคาดการณ์สินค้าเพื่อปรับโมเดลสินค้าร่วมกันแบบรายเดือนและรายไตรมาส จากเดิม ที่เน้นทำงานใกล้ชิดเฉพาะกับ"ดิสทริบิวเตอร์" เป็นหลัก

และไม่ใช่แต่เปลี่ยนแปลงภายนอกกับโครงสร้างการจัดจำหน่ายเท่านั้น ภายในองค์กรก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยรวมทีมการตลาดที่เคยแยกเป็น 2 ทีม ระหว่าง "มือถือกับมัลติมีเดีย" เป็นทีมเดียว พร้อมกับดึงผู้บริหารจากสิงคโปร์มาคุมภาพรวมการทำงานด้านการตลาดอีกที

นัยว่าเพื่อให้การทำงานครอบคลุมทุก ขั้นตอน ตั้งแต่การจัดการสินค้าเข้าสู่ตลาด การดูแลพาร์ตเนอร์ รวมถึงการลงไปทำงานร่วมกับช่องทางขายอย่างใกล้ชิด

จัดทัพทั้งภายในภายนอกและเก็บรายละเอียดกันทุกเม็ดเลยทีเดียว ถือเป็นการ ส่งสัญญาณเปิดเกมรุกเพื่อ "เอาคืน" อย่างเต็มรูปแบบของยักษ์ใหญ่ "โนเกีย"

หลังจากในช่วงที่ผ่านมาเพลี่ยงพล้ำไปไม่น้อย ทั้งกับเฮาส์แบรนด์และอินเตอร์แบรนด์ ที่โดนคู่แข่งรุมตีกินส่วนแบ่งตลาด

จากการสำรวจของบริษัทวิจัยตลาดชื่อดัง "จีเอฟเค" ระบุว่า ในปี 2550 โนเกียมีมาร์เก็ตแชร์มากถึง 64% อันดับถัดมาเป็นไอ-โมบาย, ซัมซุง, โมโตโรล่า, โซนี่ อีริคสัน และแอลจี ที่ 10%, 9%, 7%, 5% และ 3% ตามลำดับ

แต่ในปี 2551 มาร์เก็ตแชร์"โนเกีย" ลดลงเหลือ 55% เท่านั้น ขณะที่ "ซัมซุง" ขยับขึ้นมาเป็นที่ 2 แซงหน้าไอ-โมบาย (11%) ด้วยส่วนแบ่งตลาด 14%

ที่น่าสนใจก็คือมีเฮาส์แบรนด์ยี่ห้อใหม่แจ้งเกิดสำเร็จหลายแบรนด์ด้วยกัน บาง แบรนด์ มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่าอินเตอร์ แบรนด์ด้วยซ้ำไป

ไม่ว่าจะเป็นจีเน็ต, โฟนวัน, หรือเวลคอม จากเดิมที่มีแต่ "ไอ-โมบาย" แทรกตัวขึ้นมา

จริงอยู่ ที่เกมรุกของคู่แข่งไม่ได้ทำให้สถานะเจ้าตลาดของ "โนเกีย" เปลี่ยน แปลงไป แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีไหลข้ามเขตของสินค้าจนเกิดปัญหาตัดราคากันอุตลุดถือเป็นปัญหาที่ไม่แก้ไม่ได้

เพราะ "สินค้า" ดีอย่างเดียวไม่พอถ้าร้านค้าไม่ "กล้า" ขายก็ไม่สามารถผลักดันให้ไปถึงมือ "ผู้บริโภค" ได้อย่างทั่วถึง แน่นอนว่า ยอมมีผลต่อยอดขาย

กับกรณี "เฮาส์แบรนด์" ต้องยอมรับว่า นอกจาก "ราคาถูก" สำหรับผู้บริโภค-กำไรดีสำหรับร้านค้าแล้ว อีกสาเหตุที่ทำให้ "เฮาส์แบรนด์" ประสบความสำเร็จมาจากคุณสมบัติของสินค้าล้วนๆ

เป็นคุณสมบัติที่ "อินเตอร์แบรนด์" มองข้าม แต่โดนใจ "ผู้บริโภค" ไม่ว่าเป็น "ดูทีวีได้ หรือการใช้ 2 ซิมในเครื่องเดียว" ดังนั้น กรณีของ "เฮาส์แบรนด์" จึงไม่ได้เป็นปัญหาของ "โนเกีย" เจ้าเดียว แต่หมายรวมถึงอินเตอร์แบรนด์ทุกยี่ห้อ

การหันมาจัดการโครงสร้างการจัดจำหน่ายและทำให้ "ราคา" สินค้านิ่งขึ้น ร้านค้ามีกำไรมากขึ้น ยินดีกลับมาขาย "โนเกีย" เหมือนเดิม ก็น่าจะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ของโนเกียดีขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมามาก แต่จะถึงกับขยับมาร์เก็ตแชร์กลับไปที่ 60% เหมือนเดิมคงไม่ง่ายนัก

จริงอยู่ที่คู่แข่งขันสนามอินเตอร์แบรนด์ลดลง เพราะ "โมโตโรล่า" ตัดสินใจปิดสำนักงานสาขาในไทย แต่บิ๊กเนมอย่าง "ซัมซุง" กลับแข็งแกร่งขึ้นมาก หลังหันมาขายสินค้าไปยังช่องทางขายโดยตรง โดยไม่ผ่าน "ดิสทริบิวเตอร์" ทำให้ "ซัมซุง" เปิดเกมรุกในฐานะขาลุยในสนาม "ราคา" ได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้บรรลุเป้าหมายใน การสร้างวอลุ่มการขายและมาร์เก็ตแชร์สำเร็จ

แถมในปีนี้ยังประกาศเดินหน้าต่อด้วยการตั้งเป้าว่าจะขยับมาร์เก็ตแชร์เดือน ธ.ค. แตะ 35% อีกต่างหาก เชื่อว่าการแข่งขัน ในฝั่งฟากของ "ผู้ผลิต" จะดุเดือดเลือดพล่านเป็นอย่างยิ่ง แต่ในฝั่งของ "ผู้ค้า"สถานการณ์ตลาดรวมย่ำแย่มาก

"ตลาดซึมๆ บอกไม่ถูก ในแง่ยอดขายโดยรวมเชื่อว่า ก.พ. เทียบกับ ม.ค. ยอดน่าจะตก 15-20% อย่างของ WDS เทียบระหว่าง ก.พ. กับ ม.ค. ตกลงประมาณ 10%" กุลดิษฐ์ สมุทรโคจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวร์เลส ดีไวซ์ ซัพพลาย จำกัด (WDS) กล่าวและวิเคราะห์ต่อว่า

"น่าจะเกิดจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงมาก เพราะความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ เศรษฐกิจทำให้มู้ดจับจ่ายของผู้บริโภค หายไป"

ถ้าจริงดังว่า ก็ยังดี กำลังซื้อมี แต่ไม่อยากใช้เงิน เพราะหวั่นไหวกับข่าวร้ายรายวันต่างกันลิบลับกับอยากซื้อ แต่ "เงิน" ไม่มี

เกมนี้ โนเกียก็โนเกียเถอะ แก้ไขลำบาก ถึงนาทีนี้คงต้องบาลานซ์ให้ดีระหว่างเงิน (กำไร) และกล่อง (มาร์เก็ตแชร์)

ถือเป็นโจทย์ที่หินไม่น้อย สำหรับจีเอ็มใหม่ โนเกีย (ประเทศไทย) ที่ชื่อ "ชูมิท คาพูร์" ที่จะมารับไม้ต่อตั้งแต่ 1มี.ค.ที่ผˆานมา

น่าติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน !!!

ที่มา: matichon.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
2164 Views
Last post February 13, 2009, 08:34:35 PM
by Webmaster
0 Replies
7436 Views
Last post February 14, 2009, 12:00:18 AM
by Webmaster
0 Replies
2938 Views
Last post February 18, 2009, 02:12:37 PM
by Webmaster
0 Replies
3227 Views
Last post February 18, 2009, 02:13:21 PM
by Webmaster
0 Replies
3364 Views
Last post February 21, 2009, 09:50:39 AM
by Nick
0 Replies
4178 Views
Last post March 03, 2009, 06:03:22 PM
by Reporter
0 Replies
6162 Views
Last post March 03, 2009, 06:05:12 PM
by Reporter
0 Replies
4555 Views
Last post March 03, 2009, 06:06:33 PM
by Reporter
0 Replies
2753 Views
Last post March 06, 2009, 11:17:31 PM
by Reporter
0 Replies
2667 Views
Last post March 10, 2009, 08:43:28 AM
by Reporter