ผมเกลียดอ่านคอลัมน์วิจารณ์หนังออนไลนหรือหนังออนไลนสือครับ
ไม่ชอบเลย ไม่ว่าจะตำหนิหรือชม
ผมว่า หนังออนไลนหรือหนังออนไลนสือแต่ละเรื่อง แต่ละเล่มเนี่ย เขาก็มีสิทธิพิเศษของนักเขียน เป็นเขาจะได้รับแรงจูงใจจากอะไร มีเค้าเรื่องแบบตามสูตร หรือใดๆก็ตามเนี่ย มันก็เป็นสิทธิของผู้แต่ง
ตั้งแต่เกิดขึ้นมาผมไม่เคยดูหนังออนไลนหรืออ่านหนังออนไลนสือแล้วไม่สนุกเลยสักเรื่อง ด้วยเหตุว่าผมว่าหนังออนไลน+หนังออนไลนสือเนี่ย มันไม่ใช่อะไรที่จะเอามาเปรียบเทียบกัน เพราะว่าแต่ละเรื่องมันก็จะมีวิธีการแบบของมัน ไม่ว่าจะเล่าอย่างไร เรียบเรียงแบบไหน รายละเอียดเป็นอย่างไร ต่อให้คล้ายคลึงกันจนถึงราวกับก็อปอย่างไรผมว่ามันก็ไม่สมควรที่จะนำเอามาเปรียบเทียบกัน เนื่องจากว่ามันเป็นสิทธิส่วนหนึ่งของผู้เขียนที่จะได้รับแรงดลใจจากอะไรก็ได้ แล้วเอามาเขียน ด้วยเหมือนกันกับแนวทางเล่าเรื่อง มันก็เป็นสิทธิของผู้แต่งเหมือนกันที่จะเล่าเรื่องหรือใส่รายละเอียดหรือยืด เยื้อยังไงก็ตาม แม้กระนั้นหากอ่านแล้วผิดจิตใจ ไม่ชอบเนี่ยก็ไม่ใช่เรื่องที่จะโทษคนเขียนว่าเขียนไม่สนุก เนื่องจากนักเขียนเขาก็มีสิทธิชอบธรรมของเขาที่จะเล่าแบบนี้ ที่จะกินเวลาอย่างนี้
จริงๆเรื่องนี้ไม่มีผู้ใดผิด เพราะเหตุว่าคนอ่านคนนั้นบางทีอาจไม่ได้เกิดมาเพื่ออ่านหนังออนไลนสือของนักเขียนคนนี้
แม้กระนั้นพวกที่ชอบวิจารณ์เนี่ย ถูกใจพูดว่ามันคล้ายกับอันนั้น คล้ายกับอันนี้ อย่างกับอันนั้น ราวกับอันนี้ มีสูตรแบบนั้น มีสูตรแบบงี้ พล๊อตเก่าแบบงั้น พล๊อตแบบนี่้ อะไรแนวๆนี้แหละ คือพวกที่ทำลายอรรถรสสำหรับเพื่อการอ่านจริงๆ
เนื่องจากว่าการมาชี้แนะให้ผู้อ่านเห็นว่ามันดีหรือเปล่าดีเนี่ย ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ การอ่านแล้วรู้สึกยังไงๆแล้วมาบอกผู้อื่นเนี่ย มันก็เสมือนสั่งเปลี่ยนๆให้เขาอ่านแล้วรู้สึกแบบพวกเรา เนื่องจากว่าอิทธิพลคำกล่าวของเราเนี่ย บางเวลาก็มีผลเช่นเดียวกันนะ ระรานจะมีผลให้ผู้อื่นมองเห็นแบบเราไปหมด
พวกคอลัมน์วิจารณ์งานเนี่ย ผมว่ามันไม่จำเป็นที่ต้องมี ไม่สมควรจะมีด้วย เพราะเหตุว่ามันเป็นสิทธิของนักอ่านที่เขาจะอ่านแล้วรู้สึกตามแบบที่เขาได้
กับอีกพวก คือพวกอคติ
คนบางคนที่อย่างไรยังไง๊อย่างไรก็อ่านหนังออนไลนสือบางแนวไม่สนุกเนี่ย พวกที่ชอบพูดว่า"แนวนี้เจอมาเยอะแยะ อ่านสองหน้าก็เดาตอนสุดท้ายได้แล้ว"อะไรพวกเนี้ย ผมว่าพวกนี้ไม่สมควรเป็นคนอ่าน ผู้อ่านมีสิทธิที่จะอ่านแล้วเกลียดชังก็จริงอยู่ แต่ว่าไอ้พวกที่อ่านยังไม่จบแล้วรังเกียจเนี่ย ไม่ใช่ที่เลย
ผมว่าไอ้พวกที่อ่านสองหน้าเกลียดชังแล้ววางเนี่ยคือพวกที่อ่านเอารู้เรื่อง อ่านเอาตอนจบมากกว่า เพราะหากอ่านหนังออนไลนสือหรือมองหนังออนไลนเนี่ย มันไม่ได้มีแค่เนื้อเรื่องหรอก เนื้อหามากมายก่ายกองที่อยู่ระหว่างนั้น ผู้ที่อคติก็จะไม่ได้อะไรเลย
แถมในความเป็นจริงแล้ว ผู้เขียนเขาอยากสื่อเนื้อหาระหว่างทางมากยิ่งกว่าเนื้อเรื่องนะ เรื่องราวมันก็แค่การจับให้คนอ่านอยู่ แม้กระนั้นรายละเอียดนี่แหละ เป็นสิ่งที่นักเขียนเขา
หนังออนไลน