Author Topic: เรียนรู้เกี่ยวกับเพลงชาติไทย ร้องเพลงไทยให้ก้องไกลทั่วแผ่นดิน  (Read 358 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline penguin4

  • Newbie
  • *
  • Posts: 17
  • Karma: +0/-0

เรียนรู้เกี่ยวกับเพลงชาติไทย ร้องเพลงไทยให้ก้องไกลทั่วแผ่นดิน

แนะนำเว็บเพลงชาติไทย โปรดยืนตรงเคารพธงชาติด้วยความเป็นไทย มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเพลงชาติไทยสามารถอ่านข้อมูลและรายละเอียดต่างๆจากส่วนนี้
เพลงชาติไทย

ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย

เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกส่วน

อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล

ด้วยไทยล้วนหมาย รักสามัคคี

ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด

เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่

สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี

เถลิงประเทศชาติไทยทวี มีชัย ชโย


คนไทยควรร้องเพลงชาติไทยด้วยความภาคภูมิใจในเอกราชอธิปไตยของไทย

    ชาวไทยทุกคนควรร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี อย่างอิ่มอกอิ่มใจ สมกับบรรพบุรุษที่ดูแลเอาใจใส่เอกราชอธิปไตยมาจนถึงทุกวันนี้
    ประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้าหากทุกท่านหันมาสามัคคี ปรองดอง เป็นหนึ่งอันเดียวกัน
    การพัฒนาประเทศไทยจะรอใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ชาวไทยทุกคนต้องร่วมมือกัน
    ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือ ศูนย์รวมของความเป็นไทย ปวงชนชาวไทยควรปฏิบัติตนให้สมกับเป็นคนไทย
    ไม่มีเพลงชาติใดในโลกจะร้องได้ไพเราะเท่ากับเพลงชาติไทย
    ชาวไทยควรร้องเพลงชาติไทยทุกวัน เพราะเข้าใจในความเป็นไทย ให้มีความสามัคคีกันเฉกเช่นที่บรรพบุรุษได้ทำมา
    คนที่ไม่เคยร้องเพลงชาติไทย หรือร้องเพลงชาติไทยไม่เป็น ไม่ใช่คนไทย
    ประเทศไทยเป็นเมืองสงบ น่าอยู่ ดั่งเพลงชาติไทย ที่กล่าวว่าไทยรักสงบ
    ประเทศไทยจะก้าวไปข้างหน้า หากคนไทยทุกคนสามัคคีกันเหมือนที่ร้องเพลงชาติไทย
    การไม่เห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนร่วม จะนำพาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง
    ชาวไทยทุกคนควรร้องเพลงชาติไทยด้วยความสำนึกในความเป็นไทย ที่บรรพบุรุษเสียสละเลือดเนื้อ เพื่อเอกราชของชาติไทย

รักประเทศไทยรู้จักประเทศไทย

    ประเทศไทยมีทั้งหมด 77 จังหวัด
    ประเทศไทยมีพื้นที่ประมาณ 513,115  Table กิโลเมตร
    ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติของไทย
    ดอกไม้ประจำชาติ คือ ดอกราชพฤกษ์
    คาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติไทย

การบรรเลงเพลงชาติไทย

จากการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการบรรเลงเพลงชาติไทย ความว่า (ตามรายละเอียดด้านล่างนี้)

ในข้อบังคับของทหารว่าด้วยการเคารพ มาตรา 3 การบรรเลงเพลงเคารพ ได้ระบุถึงการบรรเลงเพลงเคารพในส่วนของเพลงชาติไว้ดังนี้ เพลงชาติจัดเป็นเพลงเคารพด้วยแตรวง ใช้บรรเลงแสดงความเคารพต่อธงประจำกองทหาร ธงประจำกองยุวชนทหาร ธงชาติประจำ Office ของรัฐบาล ในขณะขึ้นลง และธงราชนาวีประจำเรือใหญ่ในขณะทำพิธีธงขึ้นลง

แนวการปฏิบัติสำหรับธงชาติไทยโดยทั่วไป โดยสั่งการใช้อยู่ในปัจจุบันตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศ ในราชอาณาจักร พ.ศ. 2529 ได้ระบุกระจ่างแจ้งไว้เช่นกันว่า เพลงชาตินับเนื่องเป็นหนึ่งอาณัติสัญญาณในการเคารพธงชาติ กล่าวคือ

1. เมื่อมีการชักธงชาติขึ้นและลง ให้แสดงความเคารพโดยการยืนตรง หันไปทางเสาธง อาคาร หรือสถานที่ที่มีการชักธงชาติขึ้นและลง จนกว่าจะเสร็จการ

2. ในกรณีที่ได้ยินเพลงชาติหรือสัญญาณการชักธงชาติ จะเห็นหรือไม่เห็นการชักธงชาติก็ตาม ให้แสดงความเคารพโดยหยุดนิ่งในอาการสำรวม จนกว่าการชักธงชาติหรือเสียงเพลงชาติ หรือสัญญาณการชักธงชาติจะสิ้นสุดลง

แนวการปฏิบัติดังกล่าวนี้ ได้ริเริ่มให้มีขึ้นครั้งเริ่มต้น จากการบรรเลงเพลงชาติ ตามสัญญาณจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ใน Time  08.00 น. โดยบัญชาของจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2485 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ในยุคปัจจุบัน นอกจากการบรรเลงเพลงชาติ ช่วงวันเวลา 08.00 น. และ 18.00 น. ผ่านทางวิทยุกระจายเสียงเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์แล้ว ยังมีการแพร่ภาพวีดิทัศน์ประกอบเพลงชาติ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยตามช่องต่างๆ อีกด้วย ซึ่งเดิมแต่ละสถานีจะเป็นผู้จัดทำวีดิทัศน์ประกอบขึ้นเอง ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 รัฐบาลไทยมี Policy ให้สำนักงานนอกเวลาสร้างความโดดเด่นของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดทำวีดิทัศน์กลางขึ้น เพื่อเผยแพร่โดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ไทยทุกแห่ง ในรูปแบบเดียวกันทั่วประเทศ โดยเริ่มใช้วีดิทัศน์ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป แต่ในยุคปัจจุบันการบันทึกสื่อโทรทัศน์สามารถนำเสนอได้อย่างมากมายมากกว่าเดิม โดยทางสถานนี้ของแต่ละช่องสามารถดีไซน์การนำเสนอไม่ว่าจะเป็นสื่อประกอบเพลงชาติ แต่ยังคงทำนองและคำรองตามแบบฉบับของทางการที่กำหนดไว้

ตามประกาศคณะการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการ สำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2556 กำหนดให้ผู้ที่รับใบ Approve ที่ใช้คลื่น Frequency ให้บริการทั่วไปและต้องจัดให้ออกอากาศเพลงชาติไทยทุกวันในเวลา 08.00 น. และ 18.00 น.
วีดิทัศน์ประกอบเพลงชาติไทย

  วันที่ 22 เดือนกันยายน พ.ศ. 2554 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานได้แถลงข่าว เกี่ยวกับโครงการจัดทำวีดิทัศน์ประกอบเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะอนุกรรมการปลูกฝังความรักชาติและจิตสำนึกความเป็นไทย ในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ เล็งเห็นว่าภาพประกอบเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมีที่เผยแพร่ตั้งแต่ยุคก่อน
จนถึงยุคปัจจุบันมีความมากมายมากเกินไปไม่เป็นเอกภาพ จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจขึ้นเพื่อจัดทำดีวีดีภาพประกอบเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งมีนายวิรัช อยู่ถาวร นักดนตรีและนักประพันธ์เพลง เป็นประธานโครงการ จัดทำวีดิทัศน์ประกอบเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมีที่เป็นกระบวนการเดียวกัน โดยสร้างภาพประกอบให้สมควรกับบทความของเพลงชาติไทยและสาระของเนื้อเพลง พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า โดยทั้ง 2 เพลงนี้ได้ใช้เนื้อร้องและทำนองเดิมทุกประการ และจัดทำปริมาณ 4 แบบ รวมทั้งสิ้น 2,000 ชุด คือ วีซีดีเพลงชาติไทย 2 รูปแบบ แบบที่ 1 ชื่อชุด ทุกเชื้อชาติร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ เป็นการเสนอแนวความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นคนภาคใดก็ตาม หรือนับถือศาสนาใด ทุกท่านพร้อมร่วมใจเคารพธงชาติร่วมกันด้วยความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แบบที่ 2 ชื่อชุด ร่วมใจเพื่อชาติไทยของเรา เป็นการเสนอแนวความคิด คนไทยทุกงานการ ทุกเพศทุกวัย ร่วมใจระบายสีธงชาติ ซึ่งแต่ละสีสื่อถึงความหมาย สีแดงคือชาติ สีขาวคือทุกศาสนาและสีน้ำเงินคือพระมหากษัตริย์ สำหรับวีซีดีเพลงสรรเสริญพระบารมี 2 รูปแบบ แบบที่ 1 นำเสนอแนวความคิดสมุดจัดเก็บพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกในการสร้างภาพที่งดงามสมพระเกียรติ และแบบที่ 2 นำเสนอแนวความคิด รูปที่คนไทยทุกคนต้องมีทุกบ้าน โดยนำเสนอว่าไม่ว่าที่ใด พระองค์ท่านทรงอยู่เคียงข้างกับพสกนิกรและทำเพื่อปวงชนชาวไทยทุกท่าน ซึ่งเป็นการนำเสนอภาพพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ที่ทรงพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศไทย
วัถตุประสงค์ของการสร้างเว็บ เพลงชาติไทย.com

    เพื่อสร้างเว็บสำหรับวิจัยเกี่ยวกับเพลงชาติไทย และประวัติศาตร์ไทย ให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ เกี่ยวกับความเป็นมาของชนชาติไทย
    เพื่อให้เด็กและเยาวชนใช้ประกอบการเรียน การศึกษา และเป็นแหล่งวิจัยเกี่ยวกับประเทศไทย
    เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดี ให้กับเด็ก เยาวชน และคนไทยทุกคน เกี่ยวกับการรักประเทศ รักแผ่นดิน สำนึกในความเสียสละของบรรพบุรุษของไทย
    เพื่อเผยแพร่ Knowledge เกี่ยวกับชาติไทย โดยนำเสนอให้เข้าใจง่าย โดยการ Present ด้วยเนื้อหาที่กระทัดรัด และเข้าใจเรื่องราวของชาติไทยได้เป็นอย่างดี
    เพื่อให้คนไทยหันมารักกันให้มากๆ กว่าจะได้เอกราช บรรพบุรุษต้องแลกด้วยความเหนื่อยยาก และความเสียสละ คนไทยจึงควรมองให้ความสำคัญของประเทศชาติ
    เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับสถาบันหลักของแผ่นดีมากกว่าประโยชน์ของตัวเอง
    เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทยให้ชนรุ่นหลังได้เข้าใจ โดยรวมเนื้อหาที่สอดคล้องกับประวัติศาสตร์ในหลายแง่มุม รวมทั้งเพลงชาติไทย และเพลงที่ใช้ในพิธีสำคัญต่างๆ
    เพื่อเป็นสารานุกรมออนไลน์ให้เด็ก นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่ชอบ สามารถวิจัยประวัติศาตร์ของชาติไทย เพื่อปลูกจิตสำนึกรักแผ่นดินเกิดของตัวเอง
    เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝัง เด็ก เยาวชน ให้เข้าใจในหน้าที่ของตัวเอง และช่วยกันรักษาชาติตั้งแต่เยาว์วัย และปลูกฝังไม่ให้เด็กโตขึ้นเห็นประโยชน์ตัวเองมากกว่าประโยชน์ของชาติ
    เพื่อเผยแพร่เพลงชาติไทยให้กับคนไทยในประเทศ และคนไทยที่อยู่ในต่างแดน ให้หันมาสนใจรากเง่าของความเป็นไทย
    เพื่อเป็น Manual การเรียนสำหรับเด็กๆ เยาวชน  Student   Scholar  ที่อยากทำ Report ส่งครู อาจารย์ หรือผู้ที่ชอบเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย

Data เกี่ยวกับเพลงขาติไทย

พลงชาติไทย เป็นชื่อเพลงชาติของสยามและประเทศไทย ประพันธ์ทำนองโดย พระเจนดุริยางค์

เพลงชาติไทยประพันธ์ เมื่อปี พ.ศ. 2475 คำร้องฉบับแรกสุดโดยขุนวิจิตรมาตรา

เพลงชาติแบบไทย

คณะกรรมการได้วิเคราะห์เพลงชาติโดยตัดสินให้ผลงานเพลง "มหานิมิตร" ซึ่งได้ประพันธ์โดย จางวางทั่ว พาทยโกศล เป็นผลงานที่ชนะเลิศ เพลงมหานิมิตรนี้จางวางทั่วได้ประพันธ์และดัดแปลงมาจากเพลงหน้าพาทย์สำคัญของไทยที่มีชื่อว่า "ตระนิมิตร" ซึ่งให้สามารถบรรเลงเป็นทางสากล เพลงตระนิมิตรนี้ เป็นเพลงที่ถือว่าเป็นเพลงบรมครู นักดนตรีจะใช้บรรเลงในพิธีสำคัญต่างๆ อาทิเช่น พิธีไหว้ครู บรรเลงเป็นการอัญเชิญ ครูบาอาจารย์ เทวดาทั้งหลาย มาประชุมกันเพื่อความเป็นสิริมงคล ดังนั้นจึงมีความหมาย ควรแก่การเคารพนับถือเป็นสิริมงคล สมควรที่จะใช้เป็นเพลงชาติไทยได้

รัฐบาลได้ทดลองบรรเลงเพลงชาติไทยออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ต่อมาเมื่อคณะกรรมการไตร่ตรองแล้วว่า เพลงชาติจะเสนอผลการประกวดให้คณะรัฐมนตรีประกาศรับประกันผลนั้น คณะกรรมการ ได้ประชุมและมีความเห็นว่า เพลงชาติไทยมีลักษณะที่บ่งบอกถึงความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถ้ามีการใช้อยู่ 2 เพลง จะส่งเสริมให้คลายความศักดิ์สิทธิ์ลง จึงได้ตัดสินใจไม่เสนอเพลงชาติแบบไทยซึ่งได้คัดกรองไว้ให้คณะรัฐมนตรีประกาศการันตีเป็นเพลงชาติในที่สุด

เพลงชาติแบบสากล

คณะกรรมการได้พิจารณาเพลงชาติโดยมีความเห็นให้ใช้ทำนองเพลง ซึ่งประพันธ์โดยพระเจนดุริยางค์เป็นทำนองเพลงชาติไทยแบบสากล สำหรับบทร้องนั้นได้คัดกรองบทร้องของท่านขุนวิจิตรมาตราซึ่งได้ปรับปรุงเพิ่มมากขึ้นเป็นบทร้องชนะเลิศ และได้ทำการเพิ่มบทร้องของนายฉันท์ ขำวิไล ซึ่งเป็นบทร้องที่ได้รับการเชิดชูรองชนะเลิศ คณะรัฐมนตรีได้ประชาสัมพันธ์ยืนยันผลให้เป็นบทร้องเพลงชาติฉบับราชการเมื่อวันที่ 20  August  พ.ศ. 2477 เป็นต้นมา บทร้องเพลงชาติไทยทั้งของขุนวิจิตรมาตราและนายฉันท์ ประพันธ์ในรูปฉันทลักษณ์แบบกลอนสุภาพ กลอนแปด ความยาว 4 บท แต่ละบทมี 4 วรรค ผลงานของแต่ละท่านจึงมีความยาวของบทร้องเป็น 16 วรรค เมื่อนำมารวมกันแล้วจึงทำให้บทร้องเพลงชาติทั้งหมดมีความยาวมากถึง 32 วรรค ซึ่งกล่าวได้ว่ายาวมาก หากจะร้องเพลงชาติให้ครบทั้งสี่บทจะต้องอาศัยเวลาร้องถึง 3 นาที 52 วินาที ในยุคสมัยนั้นคนไทยโดยส่วนมากจึงนิยมร้องเพลงขาติไทยแต่เฉพาะบทร้องของขุนวิจิตรมาตรา และต่อมาภายหลังจึงไม่มีการขับร้อง คงเหลือแค่เพียงทำนองเพลงบรรเลงไว้เท่านั้น

เพลงชาติฉบับแกรมมี่ พ.ศ. 2548

ในปี พ.ศ. 2548 กระทรวงวัฒนธรรมได้ทำการเปิดเผยเพลงชาติไทยฉบับใหม่ ซึ่งกระทรวงกลาโหมมอบหมายให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้เรียบเรียง และจัดทำใหม่ ให้มีความหลากหลายมากขึ้น สำหรับใช้ในหลายความเป็นไปได้ ตามไอเดียของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ที่อยากส่งเสริมความเป็นชาติโปรดปรานในหมู่คนไทย ซึ่งเพลงชาติฉบับดังกล่าว มีการจัดทำออกมาถึง 6 รูปแบบ ดังนี้

1.แบบเป็นทางการ เสียงร้องหนักแน่นฮึกเหิม เหมาะสำหรับเปิดในสถานที่ราชการ ในงานราชการ งานทหาร หรือกิจกรรมที่ผู้จัดอยากปลุกเร้าพลังรักชาติ

2.แบบไม่เป็นทางการ เสียงร้องนุ่มนวลขึ้นกว่าฉบับแรก เหมาะสำหรับเปิดในงานทางการของภาคเอกชน งานมหรสพ หรืองานกึ่งทางการกึ่งลำลอง

3.แบบแกรมมี่ซาวด์ เอาใจวัยรุ่น ขับร้องโดยนักร้องรุ่นเก่า ช่วงท้ายสร้างคีย์และเมโลดี้ใหม่

4.แบบแกรมมี่ซาวด์ เอาใจวัยรุ่น ขับร้องโดยนักร้องรุ่นใหม่ ช่วงท้ายสร้างคีย์และเมโลดี้ใหม่

5.แบบเอาใจเด็กเล็ก ใช้คณะเยาวชนร้องประสานเสียง เหมาะสำหรับเปิดในสถานศึกษาอนุบาลและประถม

6.แบบเอาใจผู้สูงอายุ ใช้เครื่องดนตรีไทยบรรเลง

เพลงชาติไทยโครงการภาครัฐ พ.ศ. 2552

ในช่วงปี พ.ศ. 2552 รัฐบาลไทยสมัยนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีความคิดที่จะสร้างหลักการในการรวมพลังสร้างความสมานสามัคคีของปวงชนชาวไทยทั้งชาติ จึงจัดตั้งโครงการ ไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็ง ขึ้น โดยร่วมมือกับ หน่วยบริหารราชการส่วนท้องถิ่นทุกจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องโครงการนี้ บริหารแสดงเพื่อนึกถึงถึงเอกลักษณ์ของชาติไทย เสนอประวัติศาสตร์ไทยในแต่ละจังหวัดโดยสังเขป จากนั้นจึงประกอบพิธีเคารพธงชาติไทย พร้อมบรรเลงและขับร้องเพลงชาติใน Time  18:00 น. แลกเปลี่ยนหมุนเวียนไปยังแต่ละจังหวัด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 18  September  - 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ซึ่งนับว่าเป็นโครงการที่ภาคประชาชนให้ความสนใจและเข้าร่วมจำนวนมาก

สำหรับการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนนั้น มีการถ่ายทอดเสียงสดทางสถานีวิทยุกระจายเสียงทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเป็นแม่ข่ายในการกระจายเสียง และถ่ายทอดสด ทางสถานีโทรทัศน์แบบไม่มี ค่าใช้จ่ายทุกแห่ง และสถานีโทรทัศน์เคเบิลหรือสถานีโทรทัศน์ผ่านระบบดาวเทียม ซึ่งมีสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในนามโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เป็นแม่ข่ายในการแพร่ภาพออกอากาศ เผยแพร่ทั่วราชอาณาจักรไทย
ร้องเพลงชาติไทยดีอย่างไร

    การร้องเพลงชาติไทยช่วยสนับสนุนให้คนไทยหันมารักกันมากกว่าเดิม มีความสมานสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
    การร้องเพลงชาติไทยทำให้คนไทยรับทราบแ
รูปที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องเรียนรู้เกี่ยวกับเพลงชาติไทย ร้องเพลงไทยให้ก้องไกลทั่วแผ่นดิน
สาระน่ารู้เพลงชาติไทย เพลงที่คนไทยควรร้องด้วยความภาคภูมิใจ
อ้างอิงจาก: เพลงชาติไทย
แท็ก: เพลงชาติไทย
Quote from: เพลงชาติไทย
เรียนรู้เกี่ยวกับเพลงชาติไทย ร้องเพลงไทยให้ก้องไกลทั่วแผ่นดิน
หมวดหมู่: เพลงชาติไทย
หน้าหลัก: http://www.เพลงชาติไทย.com
รายละเอียดสินค้า:
ติดต่อเรา: ]]
ติดต่อเรา:
ชื่อ: เพลงชาติไทย.com
ที่อยู่: ประเทศไทย
เบอร์โทรติดต่อ: ไม่ระบุ
อีเมล์: ไม่ระบุ


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)