บล็อกที่เขียนบทความวิธีเลือกบริการ seo cm group ติดอันดับกูเกิล อย่างปลอดภัย สนับสนุน google penguin

[penguin4]

วิธีเลือกบริการ seo cm group ติดอันดับกูเกิล อย่างปลอดภัย สนับสนุน google penguin 4.0 ล่าสุด

สินค้าแบรนด์เนมวิธีเลือกบริการ seo cm group ติดอันดับ google อย่างปลอดภัย รองรับ google algorithm ล่าสุด เชิญติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับบริการ SEO CM Groupอ่านรายละเอียดดังกล่าวได้จากบทความนี้ครับ
ทำความรู้จักดับ Private Blog Network (PBN)

ไม่ว่าการทำ SEO จะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ตัวแปรหลักสำหรับสร้าง Links คุณภาพ สามารถควบคุมคุณภาพของเว็บทุกจุด ต้องยกให้ระบบ Network ส่วนตัว ที่ยังคงสร้างแบ็คลิงค์สำหรับทำอันดับ SEO อย่างมีประสิทธิภาพ

  ถ้าคุณเข้าใจว่า Network ส่วนตัว คือ สายดำ แสดงว่าคุณไม่เข้าใจคำว่าคุณภาพในมุมมองของ Google ถ้าคุณเหมารวมว่าการสร้าง Network ส่วนตัวไม่ถูก Google เว็บทั่วไปที่มีลักษณะการเชื่อมโยงข้อมูลที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายก็จะผิดตามไปด้วย จริงๆ แล้ว ให้เราโฟกัสในสิ่งที่ Google ดำเนินการกับเว็บไม่มีคุณภาพทั้งหลาย ซึ่งแน่นอนว่ากูเกิลไม่ได้ลำเอียง หรือเลือกปฏิบัติกับเว็บใดเว็บหนึ่ง แต่ใช้มาตรฐานเดียวกันหมด สาเหตุที่ Network ส่วนตัวโดน Google แบนซ้ำซาก เหตุผลหลักไม่มีอะไร นอกไปจากคำว่าเว็บขยะ ที่มีการสร้าง Spam Content และ Spam Link เพื่อหวังผลทางอันดับ Google ในทางกลับกันคุณลองพินิจพิจารณาภาพเว็บคุณภาพที่มีความสนใจนำเสนอ Data ที่มีประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม และในขณะเดียวกันเว็บเหล่านั้นก็อยากอันดับ Google ที่ดีด้วย โดยมีการปรับ On Page , Off Page รวมไปถึงการปรับให้ตอบสนองต่อ User  เพื่อให้เว็บมีคุณภาพในวิสัยทัศน์กูเกิล โดยมุ่งเน้นไปที่ User Experience เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าคุณตั้งใจสร้าง PBN คุณภาพสำหรับผู้อ่านจริงๆ คุณไม่ต้องใช้ศาสตร์การบริการ SEO CM Group ชั้นสูงอะไรเลย แค่ทำให้คนอ่านชอบ แค่นั้นพอ และถ้ามองให้ดีแล้วการสร้าง Blog Network มันไม่ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคอะไร แค่ตั้งใจเขียนเนื้อหาคุณภาพแล้วสร้างลิงค์กลับไปเว็บหลักก็เท่านั้น
การสร้าง Network ส่วนตัว สายดำ หรือ สายขาว คุณเป็นผู้กำหนด

  คุณคิดว่า Network ส่วนตัวในความนึกคิดของคุณคืออะไร อะไรเป็นตัวชี้วัดว่าสายดำ หรือสายขาว ง่ายๆ เลย หากคุณสร้าง Network ส่วนตัวขึ้นมาสักชุดหนึ่ง อาจจะ 30 - 50 IPs หรือ 100 IPs แล้วแต่กำลังทรัพย์ของคุณว่ามีเท่าไหร่ คือ ถ้าคุณสร้าง Blog Network ขึ้นมา และมีการเพิ่มบทความใหม่ แต่ละเว็บในเน็ตเวิร์คมีการ  Index  เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญเมื่อ Time ผ่านไปสักระยะหนึ่ง Network ของคุณไม่โดนเตือนจาก Google ส่วนของ Manual Action ใน Google Webmaster Tools แสดงว่า Network ที่คุณสร้างกำลังไปได้สวย ปกติแล้วถ้าคุณเพิ่มบทความราวๆ 100 หน้าขึ้นไป หลังจากนั้นถ้าหากผ่านไป 15 - 30 วัน ไม่มีการแจ้งเตือนจากระบบ Auto ของกูเกิล รวมทั้งระบบการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่แสดงว่าคุณเริ่ม Optimize Netwrok ไปในทางที่ถูกต้องแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่สามารถ Confirm ว่า Network ส่วนตัวของคุณจะแรงอย่างที่คุณต้องการ สิ่งที่จะส่งเสริมให้ Links ที่คุณสร้างจาก Network ส่วนตัวแรงหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของบทความที่คุณเขียน Google สามารถเข้าใจเกี่ยวกับเนื้อหาที่คุณเขียนว่ามีความลึกซึ้งมากเท่าใด โดยการนำไปเปรียบเทียบกับ Data ที่กูเกิลมีอยู่ และสิ่งที่อยากจะบอกผู้ติดตาม คือ การสร้างบทความ
ให้อ่านรู้เรื่อง อ่านออก ไม่ได้หมายความว่าเนื้อหามีคุณภาพ กล่าวคือ ถ้าคนเข้ามาอ่านแล้วไม่ได้รับความรู้หรือข้อมูลเชิงลึก  Data ที่คุณสร้างจะมีพลังในการทำให้ Links ที่สร้างขึ้นน้อยมาก การเขียนบทความ
แบบเจาะลึก จึงทำให้ลิงค์มีคุณค่าเพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อเว็บหลักอย่างเห็นได้ชัด

  Network ส่วนตัวคุณภาพ ไม่ใช่อะไรที่ง่ายๆ กระบวนการการทำ Blog Network  อาจคล้ายๆ กัน คือ มีการเช่า SEO Hosting ตามปริมาณ IPs ที่อยาก มีการจดโดเนมเนม ชื่อเว็บ Register ในชื่อเว็บที่ไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน มีการติดตั้ง CMS เช่น Wordrpess หรือแม้แต่เว็บที่คุณเป็นคนพัฒนาขึ้นเอง ซึ่งมันก็มีอะไรที่คล้ายๆ กัน ในด้านการดำเนินงาน แต่ความแตกต่างจะไปวัดกันที่บทความ ใช่ครับ Content นี่แหละ บ่งบอกถึง Class ของการทำ PBN ที่ไม่เหมือนกันอย่างแม่นยำ อันที่จริงแล้วคุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับ Search Engine Optimization มากมายดุจดั่งเทพเลย แค่มีความอดทนที่จะนำเสนอ Content คุณภาพที่ไม่เหมือนและไม่เหมือนกับเว็บไซต์อื่นๆ ส่วนความรู้ทางเทคนิคที่คุณไปอ่านเจอเว็บในไทยบ้าง เมืองนอกบ้าง ส่วนใหญ่แล้วสร้างศัพท์วิธีการขึ้นมาลอยๆ อ้างอิงให้แนวความคิดหรือ Theory ของตัวเองถูกต้อง น่าเชื่อถือ ซึ่งกูเกิลไม่เคยไปร่วมแสดงความเห็นกับศัพท์พิศดาลอะไรทีนักทำ SEO ตั้งกันขึ้นมา ต่อให้คุณมีศัพท์หลักสูตรการ คำพูดหรูดูมีคลาส เยอะแยะ ถ้าไม่ปฏิบัติตามกฎของ Google ผลสุดท้าย Game Over และ Network ส่วนตัวคุณจะโดนแบน คุณไม่ต้องไปแสวงหาความรู้เกี่ยวกับ SEO ให้เยอะแยะ เพราะแก่นแท้ของการทำ SEO คือการสร้าง Quality Content ให้กับผู้อ่าน และยึดผู้ติดตามเป็นสำคัญ เข้าใจแค่นี้ คุณสามารถทำ SEO เหนือเทพ SEO ที่ทำมาเป็นสิบๆ ปี ได้อย่างไม่ยากเย็น ความยุ่งยากมันอยู่ที่ความขยันในการสร้างบทความคุณภาพซะมากกว่า ส่วนอย่างอื่นเป็นเรื่องรองหมด ด้วยเหตุนี้ Network ส่วนตัวของคุณจะเป็นสายดำ สายขาว คุณเป็นผู้กำหนดเอง คำตอบของการทำ Network สายขาว คือ เว็บไม่โดน Google Penalty และไม่โดน Google Ban อีกทั้ง Links ที่สร้างสามารถดันอันดับเว็บหลักได้ ตรงกันข้ามกับสายดำ เว็บภายในเน็ตเวิร์คโดนกูเกิลทำโทษและแบน รวมทั้งเว็บหลักถูกกูเกิลมองว่าใช้วิธีการไม่ถูกต้อง ถูกลดอันดับไปแสดงในหน้าท้ายๆ หรือโดนกูเกิลแช่แข็งเป็นปีๆ
สร้าง Network ส่วนตัวด้วย Wordpress ดีไหม

  ตอบเลยว่าดี ถ้าคุณสร้างบทความคุณภาพเป็นมิตรกับผู้ติดตามและบทความแตกต่างกับเว็บอื่น ไม่ดี ถ้าคุณไม่เข้าใจหลักการปรับเว็บให้สนับสนุนกฎ Google เพราะภายใน Wordpress มีหลายฟังก์ชั่นที่มีลักษณะเป็น Black Hat อยู่ด้วย เช่น Cateogry , Tags หรือแม้แต่ Blogroll Link เอาง่ายๆ ว่า Wordpress จะดึง Database ชุดเดียวกัน แถวเดียวกัน Database Row แล้วนำไปแสดงในหน้าที่มี URL ไม่เหมือนกัน แต่บทความยังคงใช้ตัวเดียวกัน นั่นมีความหมายว่าภายใน Wordpress จะมีการ Duplicate Content เกิดขึ้นแน่นอน แม้ว่ามันไม่ร้ายแรงเท่าการไป Copy Cotent จากเว็บไซต์อื่นมาโพส แต่มันก็ยังเป็นบทความซ้ำอยู่ดี แน่นอนทาง Google ออกมาการันตีว่ากูเกิลจะไม่ทำโทษเว็บที่มี Dupliate Content แต่จะแค่ลดความสำคัญของเว็บไซต์นั้นลง แน่นอนว่าย่อมส่งผลเสียต่อการทำ SEO อย่างแท้จริง ยิ่งเป็น Network ส่วนตัวด้วยแล้ว ความแรงของ Links จะลดลงอย่างมาก ถ้าคุณเก่ง PHP และ Optimize แก้ปัญหาเหล่านี้ ก็ OK อยู่ แต่ยูสเซอร์ส่วนมาก หรือนักทำ SEO โดยส่วนใหญ่แล้ว จะไม่ปรับเพราะเข้าใจว่า Wordpress มันสนับสนุน SEO ได้ดีอยู่แล้ว และมักจะเน้นไปปรับในส่วนของ Title และ Description ของ Website  รวมทั้ง WP Themes ซะมากกว่า และยิ่งสมัยนี้ Google พัฒนาระบบ Algorithm โดยลดความสำคัญของลิงค์ลงไป บวกกับ Wordpress ที่กูเกิลเข้าใจว่ายังมีหลายจุดที่ไม่มีคุณภาพตามหลักของกูเกิล Links ที่สร้างจากเวิร์ดเพลสจึงมีพลังลดลงจากแต่ก่อนอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจอะไร ยังไงก็ตามเราสามารถปรับให้ Wordpress กลับมาแรงได้อีกครั้ง แต่คุณอาจต้องมีทักษะการ Customize ในส่วนของ Source Code นิดหน่อย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน อย่างแรกเลย ถ้าหากคุณมีความจำเป็นต้องใช้ Wordpress Category หรือ Wordpress Tags ให้คนสร้าง Table ใน MySQL เพิ่มขึ้นมา จากนั้นเขียนโค๊ดให้ดูข้อมูลเข้าไปแสดงเพิ่มต่อจากข้อมูลที่ Wordpress ดึงมาแสดงซ้ำๆ กัน อาจจะเพิ่มบทความต่อท้าย หรือแทรก Head Line ของบทความ พูดง่ายๆ ทำอะไรก็ได้ไม่ให้ข้อมูลซ้ำกัน ยิ่งถ้าคุณสามารถเขียนให้ Category และ Tags ของเวิร์ดเพลส ไม่ไปดึง Data ของ Content เดียวกันมาแสดงซ้ำๆ ยิ่งเดีเลย และในส่วนของ Blogroll Link คุณก็ควรสร้าง Column เพิ่มใน Table ให้มี Title และ Description ก่อนจะแสดง Links เพื่อไม่ให้เป็นการจงใจติดลิงค์เพื่อหวังผล SEO มากจนเกินพอดี อย่างไรก็ตามถ้าคุณใช้ Wordpress ทำเป็นเว็บหลัก คุณไม่ต้องปรับอะไรเพิ่มเติม ไม่โดนกูเกิลจับตาดูหรือโดนแบนอย่างแท้จริง เพราะจุดเด่นของเว็บหลักจะแตกต่างจาก Network ตรงที่ มี Links ออกน้อย บทความจะจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน ไม่สะเปะสะปะเหมือนอย่างเว็บที่ทำเป็นเน็ตเวิร์คที่ยำรวม Content ที่มีบทความแตกต่างกัน
เพราะเหตุใดต้องใช้ Network ส่วนตัว

1. สามารถควบคุมคุณภาพของเนื้อหาได้ และบริหารเว็บได้อย่างเบ็ดเสร็จ จะแก้ตรงไหน ปรับตรงไหน ให้พึงพอใจ Google ทำได้หมด

2. ปลอดภัยจากการสร้าง Dupliate Content ถ้าหากท่านใช้ Network ส่วนตัวทำ SEO เชื่อมั่นได้ว่าลิงค์ของคุณจะไม่มีบทความขยะแสดงอยู่ภายในเว็บ ซึ่งถ้าเป็น เว็บบอร์ด เว็บประกาศ เว็บไดเรคทอรี มีคนใช้งานร่วมกันจำนวนมาก แต่ละคนก็จะโพสบทความคุณภาพในแบบของตัวเอง หลายๆ คน จะโพสเนื้อหา Duplicate Content โพสเนื้อหาซ้ำๆ ยิ่งกว่านั้น บางรายอาจสร้าง Content ที่ด้อยคุณภาพเลย อาศัยแต่จะสร้าง Backlink ถ้าคุณสร้างแบ็คลิงค์ร่วมกับคนอื่น ความเป็นไปได้สูงมากที่คุณจะโดน Google ทำโทษ แม้ว่าจะดันเว็บให้ขยับขึ้นได้ แต่ไม่คงทน และไม่นาน คุณจะได้รับ Message จากทีมเวิร์ค Google ว่าสิ่งที่คุณทำเป็น Spam Link และเป็นสิ่งที่ผิด

3. ง่ายต่อการบริหาร Links บางกรณีที่ลิงค์บางลิงค์ของคุณด้อยคุณภาพในมุมมองของ Google แน่นอนว่าเรื่องจริงเราจะต้องทำเว็บไม่ให้โดนเตือนผ่าน Manual Action แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ เราสามารถดำเนินงานลบลิงค์ที่ไม่ได้คุณภาพในมุมมอง Google ได้อย่างรวดเร็ว แล้วส่งลิงค์ที่ได้ปรับปรุงแล้วผ่านทาง Dissavow Tool จริงๆ แล้วเครื่องมือตัวนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์ ตราบใดที่หน้าเว็บที่ต้องการลบ ยังไม่หายไปจากการ  Index  บน Google Search ง่ายและได้ผลเร็วที่สุด คือ การลบหน้าที่ไม่ได้คุณภาพแล้วทำการ Update Sitemap เข้า Google Webmaster Tools จะสุดยอดกว่า

4. Links จาก Network ส่วนตัว มีพลังมากกว่า แน่นอนว่าความไม่เหมือนระหว่างเว็บทั่วไป กับ Network ส่วนตัว คือ ลิงค์ที่ได้จาก Blog Network ย่อมให้คะแนนของลิงค์ได้ดีกว่า เพราะสามารถ Optimize Content ได้เจ๋งกว่า รองรับ SEO มากกว่า อีกทั้ง SEO Friendly มากกว่าเว็บทั่วไป ถ้าหากทำ Network ส่วนตัว คุณภาพจริงๆ ลิงค์ที่สร้างแทบไม่มีสกอร์ด้านลบที่จะไปหัด Clean กับลิงค์คุณภาพอื่นๆ ของคุณเลย อีกทั้งคุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการสร้าง Network ส่วนตัว ด้วย IP คลาสอะไร เพื่อเพิ่มความแรงให้กับลิงค์ขึ้นไปอีก

5. ไม่ได้รับผลกระทบเวลา Google Update Algorithm หากคุณโพสบทความและสร้างแบ็คลิงค์จากเว็บของคนอื่นที่ไม่ใช่เว็บคุณ อาทิเช่น เว็บบอร์ด เว็บประกาศ เว็บไดเรคทอรี คุณอาจยังไม่โดน Google ทำโทษ และยังสามารถทำอันดับได้ แต่ทุกทีที่มีการอัพเดทระบบอัลกอริทึม การสร้างแบ็คลิงค์จากหน้าเว็บที่มีคนใช้กันมากๆ มีการโพสบทความซ้ำๆ หรือโพส Spam Content และ Spam Link แม้ว่าเนื้อหาคุณจะมีคุณภาพเท่าใด ก็จะโดนทำโทษ เพราะสร้างลิงค์จากหน้าเว็บไม่มีคุณภาพ เว็บหลักของคุณจะถูก Google Penalty ทันที แต่ถ้าคุณสร้างลิงค์จาก Network ส่วนตัวคุณภาพ เว็บหลักของคุณจะไมได้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
เริ่มต้นการสร้าง Network ส่วนตัวทำยังไง

1. สำรวจความสามารถของตัวเองก่อน ว่าคุณมีความสามารถในการปรับปรับปรุง Code ขั้นไหน ถ้าคุณไม่มีความรู้ด้านการเขียนเว็บด้วยภาษา PHP เลย บอกให้ใช้ Wordpress ในการทำเป็น Network ส่วนตัว เพราะสามารถใช้งานง่าย โดยไม่ต้องเขียนเว็บเป็น อีกทั้ง Wordpress ยังรองรับการใช้งานเป็นภาษาไทยอีกด้วย การใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก แบ่งฟังก์ชั่นการดำเนินงานแจ่มแจ้ง เข้าใจง่าย แต่ถ้าคุณมีความสามารถในการเขียนเว็บได้เป็นอย่างดี นำเสนอให้ปรับปรุงระบบขึ้นมา และ Customize ให้สุดยอดกว่าเวิร์ดเพลส รับรองว่าความแรงของลิงค์แรงกว่าเวิร์ดเพลสแน่นอน แต่จะต้องอาศัย Knowledge  ประสบการณ์ ในการพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพ

2. มี Knowledge  Basic เกี่ยวกับการจัดการ Hosting และ  Domain Name  ในการทำ SEO Network  User ต้องมีพื้นฐานเกี่ยวกับการตั้งค่าโฮสติ้ง ที่เราเรียกว่า SEO Hosting ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายก็จะใช้ Host Control Panel ที่แตกต่างกัน แต่ที่พอใจมากที่สุด ถ้าเป็นโฮสในประเทศไทย ต้องยกให้ DirectAdmin ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าเราเช่าโฮสต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็น CPanel และ WHM เป็นหลัก เพราะว่า CPanel กับ WHM เป็นระบบบริหารโฮสที่ดีที่สุดก็ว่าได้ ต้นเหตุที่ในไทยไม่โปรดปรานใช้เพราะค่า License สำหรับติดตั้ง แพง ผู้ให้บริการจึงไม่ชื่นชอบ อีกทั้งการใช้งานค่อนข้างจะมีฟังก์ชั่นการดำเนินงานมาก เหมาะกับมืออาชีพมากกว่า

3. สามารถติดตั้ง Wordpress หรือ CMS ที่จะนำมาสร้าง Network ส่วนตัว การติดตั้งเวิร์ดเพลสทำได้ง่ายๆ การติดตั้งไม่ซับซ้อน โดยการสร้าง MySQL Database ในส่วนของการบริหารโฮส และนำ Database Name , User Name , Database Password ไปกรอกในไฟล์ Config.php ของ Wordpress จากนั้น Upload ไฟล์เวิร์ดเพลสทั้งหมดขึ้นโฮส แล้วทำการติดตั้งตามขั้นตอนจนเสร็จ
การเลือกใช้บริการ SEO Hosting

  ในการทำ SEO ด้วย Network ส่วนตัว คุณจะต้องบริหารจัดการเกี่ยวกับงบประมาณในการเช่า SEO Hosting และค่าจดชื่อเว็บไซต์ให้ดีๆ ต้องคิดเลขค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ให้เกินต้นทุนที่วางไว้ การสร้าง Network ส่วนตัวใช้ต้นทุนสูงกว่าการสร้าง Backlink จากเว็บบอร์ด เว็บประกาศฟรี บล็อกฟรี แต่ในแง่ของความแพงก็ยังมีข้อดีไม่จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างยิ่งความแรงของลิงค์ที่จะได้รับ และหากปรับเน็ตเวิร์คให้มีคุณภาพ จะสามารถใช้ดันอันดับ SEO ได้ยาวเลย แต่ถ้าสร้างเน็ตเวิร์คส่วนตัวด้อยคุณภาพและโดน Google แบน โดนทีเสียหายหลายแสนเลย เพราะ Network ที่มีประสิทธิภาพ อย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้ปริมาณ 100 IPs ขึ้นไป ค่าเช่า SEO Hosting รายเดือนแต่ละเจ้าแตกต่างกันไป ถ้าดีๆ หน่อย เดือนๆ หนึ่งก็ต้องจ่าย 1 - 2 หมื่นบาทเฉพาะค่าเช่าโฮสคุณภาพสูง ยังไม่รวมค่าจดโดเนมเนม ลองพินิจพิจารณาเล่นๆ ว่าถ้าคุณต้องการใช้ 300 IPs และแน่นอนว่าต้องจดโดเนมเนม 300 Domains ราคาโดเมนละ 300 บาทขึ้นไป จะเห็นว่าการสร้าง Blog Network ต้องใช้ต้นทุนสูง คุณจึงต้องบริหารจัดการต้นทุนให้ดี และพากเพียรใช้ Network ส่วนตัวให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ถ้าหากคุณยังไม่คล่องหรือยังมีประสบการณ์น้อย ให้ลองสร้างเน็ตเวิร์คขนาดเล็กๆ สัก 20 - 30 IPs ก่อน เพื่อทดสอบคุณภาพระบบของคุณ ว่าจะสนับสนุน Google Algorithm ได้มากน้อยขนาดไหน

  SEO Hosting ในไทยมีไอพีไม่มาก เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่จะสร้าง Network ส่วนตัว ต้องบอกกับผู้ติดตามก่อนว่า หากคุณต้องการได้ Network ส่วนตัวที่มีไอพีไทย สัก 100 IPs เป็นเรื่องยาก C Class เป็นเรื่องที่ยาก เพราะผู้ให้บริการส่วนมากมีปริมาณไอพีไม่มากพอ เว้นแต่คุณจะไล่เช่า VPS ของผู้ให้บริการแต่ละเจ้า แล้วนำมาทำเน็ตเวิร์ค แต่ก็ต้องใช้ต้นทุนที่สูง การบริหารบริหารยุ่งยาก เพราะต้องเข้าสู่ระบบ Control Panel สำหรับบริหาร Hosting หลายๆ เว็บ และผู้ให้บริการโฮสแต่ละรายก็มีเงื่อนไขแตกต่างกัน นักทำ SEO โดยส่วนใหญ่จึงหันไปเช่า SEO Hosting จากเมืองนอก และเว็บที่ได้รับความนิยมในการใช้งานอันดับต้นๆ คือ seohosting.com และ seohost.com ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเอสอีโอ Hosting ชั้นนำของโลกก็ว่าได้ มีการ Support ที่รวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระบบ Server ที่สนับสนุนการปฏิบัติงานทางด้าน SEO Network เป็นอย่างดี
ชำระค่าบริการ SEO Hosting ด้วยบัญชี Paypal

  คุณสามารถจ่ายค่าบริการ SEO Hosting และค่าจด Domain Name  ชื่อเว็บไซต์ Register ด้วยบัญชี Paypal ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว อันที่จริงเราสามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้ แต่ผมอธิบายให้ชำระเงินผ่านระบบ Paypal จะเลิศกว่า การเชื่อมบัญชีของคุณให้สามารถชำระเงินผ่านระบบ Paypal ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่สมัครทำบัตร ATM ที่เป็นเดบิตการ์ด หรือ วีซ่าการ์ด พร้อมทั้งขึ้นทะเบียนใช้งานแบบ Online Shopping เราก็สามารถเอาบัตร ATM ของเราไปสมัครกับ Paypal เพื่อให้บัญชีของ Bank ที่คุณใช้บริการอยู่เชื่อมต่อกับระบบ Paypal โดยคุณสามารถกำหนด Email และ Password สำหรับเข้าจัดการบัญชี Paypal ของคุณได้ สมัยนี้การโอนเงินผ่านระบบ Paypal เป็นระบบที่มีความปลอดภัยสูง ง่ายต่อการใช้งาน และผู้ให้บริการ SEO Hosting ดังๆ มีระบบโอนเงินผ่าน Paypal อยู่แล้ว อีกทั้งเมื่อท่านชำระค่าบริการเสร็จเรียบร้อย เพียงไม่กี่นาที คุณก็สามารถ Log In เข้าใช้งานระบบ Search Engine Optimize โฮสติ้งได้ทันที เนื่องจากโฮสเมืองนอกส่วนมากมีระบบส่งข้อมูลบริการแบบอัตโนมัติ คุณไม่ต้องรอนาน จ่ายปุ๊บใช้งานได้ปั๊บ สะดวก รวดเร็ว ถ้าไม่เข้าใจส่วนไหนก็ติดต่อผ่านทาง Chat Support ได้ทุกเวลา
สร้าง Network ส่วนตัว ต้องใช้ IP Class C

  อันที่จริงแล้ว IP Class C ไม่ได้เป็นคลาสของไอพีที่ดีที่สุดในการนำมาทำ Network ส่วนตัว แต่เพราะว่าว่า C Class หาซื้อได้ง่าย ผู้ให้บริการโฮสติ้งสำหรับทำ SEO มีไอพีคลาสซีเป็นตัวเริ่มต้นอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณสามารถเลือก IP Class B หรือ A ได้ยิ่งดี แต่ราคาจะแพงกว่า Class C พอสมควร และไม่บอกให้ใช้ไอพีคลาส D ในการทำ SEO Network แน่นอนว่าแม้ไอพีจะซ้ำคลาสกัน แต่ก็ยังสามารถดันอันดับเว็บหลักได้ แต่มันไม่แรงเมื่อเทียบกับการใช้คลาสของไอพีที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง ตัวอย่างเช่น 192.168.254.100 ตัวเลข 192 คือคลาส A , 168 คือคลาส B , 254 คือคลาส C และ 100 คือคลาส D เราจะต้องทำให้ Number ของ IP Address สถานะของ C Class ไม่ซ้ำกัน จึงจะส่งผลดีต่อการทำ SEO ให้มีประสิทธิผล สาเหตุที่เราต้องใช้ไอพีที่มีคลาสแตกต่างกัน เพื่อต้องการให้ Google คิดว่าแต่ละเว็บไม่ได้มาจากเจ้าของคนเดียวกัน เพื่อทำให้การสร้างลิงค์ดูเป็น Nature  และสมัยนี้การใช้ความต่างของคลาสยังมีความแรงมากกว่าเว็บที่ใช้คลาสของไอพีซ้ำกัน และยิ่งคุณมีเว็บที่มีจำนวน IP Class C มากๆ และคุณสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพไปยังเว็บหลัก อันดับเว็บของคุณจะกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทำความเข้าใจกับ Anchor Text Link , Domain Link และ Image Link

  ในการทำ SEO การเข้าใจรูปแบบของลิงค์ จะช่วยทำให้เราสร้างแบ็คลิงค์คุณภาพที่เป็นธรรมชาติ โดยไม่เน้นสร้างลิงค์ด้วย Keyword ใดคีย์เวิร์ดหนึ่งมากจนเกินพอดี ซึ่งจะทำให้ Links ของเว็บไม่เป็นธรรมชาติ และดูเหมือนเป็นการจงใจทำ SEO มากเกินไป Anchor Text Link หรืออาจเรียกว่า Keyword Link ก็ได้ เป็นการสร้างแบ็คลิงค์กลับไปยังเว็บหลักด้วย Keyword หลักหรือ Keyword รองของเว็บก็ได้ โดยพากเพียรสลับการใช้คีย์เวิร์ดที่ไม่เหมือนกัน ควรกระจายการสร้างแบ็คลิงค์ด้วย Keyword ให้เป็น Nature มากที่สุด ต่อมา Domain Link คือ แบ็คลิงค์ที่เป็นชื่อชื่อเว็บของเรา การสร้างแบ็คลิงค์แบบโดเมนลิงค์มีความสำคัญ เพราะเป็นการกระจายให้เว็บของเรามีรูปแบบของลิงค์ที่ไม่เหมือนกัน และสุดท้ายคือ Image Link หรือลิงค์รูปภาพ ในการสร้างลิงค์กลับไปยังเว็บหลักนั้น ลิงค์รูปภาพมีความสำคัญและสามารถทำอันดับบน Search Engine ได้อย่างมีประสิทธิผล ไม่ได้ด้อยกว่าลิงค์รูปแบบอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ให้แทรกคำบรรยายรูปภาพ หรือแทรกไตเติลให้กับลิงค์ว่าเกี่ยวข้องกับอะไร การสร้างลิงค์จะต้องอาศัยทั้ง 3 รูปแบบ เพื่อให้เว็บหลักมี Links ที่มากมาย
ทำความเข้าใจกับ Direct Link และ Link Wheel

  ใ

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

รูปภาพที่เกี่ยวข้องวิธีเลือกบริการ seo cm group ติดอันดับกูเกิล อย่างปลอดภัย สนับสนุน google penguin 4.0 ล่าสุด

วิธีเลือกบริการ seo cm group ติดอันดับกูเกิล อย่างปลอดภัย รองรับ google penguin 4.0 ล่าสุด
อ้างอิงจาก: บริการ SEO CM Group
แท็ก: บริการ SEO CM Group

วิธีเลือกบริการ seo cm group ติดอันดับกูเกิล อย่างปลอดภัย สนับสนุน google penguin 4.0 ล่าสุด

หมวดหมู่: Search Engine Optimization
หน้าหลัก: http://www.cmseogroup.com
รายละเอียดสินค้า: http://www.cmseogroup.com/SEO-Services
ติดต่อเรา: http://www.cmseogroup.com/Contact-Us
ชื่อ: CM SEO Group (ซีเอ็ม เอสอีโอ กรุ๊ป)
ที่อยู่: เชียงใหม่
เบอร์โทรติดต่อ: 0623639429
อีเมล์: cmseogroup@gmail.com