โดย อ.พญ.ปราณี เกษมศานติ์ ภาควิชาตจวิทยา
ริมฝีปากมีหน้าที่สำคัญไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกิน การมีส่วนช่วยในการออกเสียงและการพูด การเล่นดนตรี นอกจากนี้ริมฝีปากยังมีประสาทสัมผัสรับความรู้สึกที่ดีมากและส่งผลต่อความสวยงามของใบหน้า แต่ถ้าริมฝีปากเกิดอักเสบ จะทำอย่างไร เมื่อมีการอักเสบบริเวณริมฝีปาก จะทำให้ริมฝีปากแห้ง ลอกเป็นขุย บางครั้งอาจแตกเป็นแผล มีอาการคันหรือแสบร้อน ทำให้รบกวนการกินอาหาร การพูด บางรายมีการอักเสบของมุมปากร่วมด้วย
สาเหตุนั้น เกิดได้ทั้งจากภายในและภายนอกร่างกาย ได้แก่
1. ผื่นแพ้สัมผัส จากการแพ้สารที่สัมผัสกับริมฝีปาก เครื่องสำอางค์ เช่น ลิปสติก ซึ่งการแพ้เกิดได้ทั้งจากน้ำหอม สารให้ความชุ่มชื้น สี สารกันเสีย สารกันแดด menthol หรือโลหะผสมในแท่งหรือตลับลิปสติก ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปาก เกิดการแพ้จากสารแต่งรส แต่งกลิ่น menthol ยาทาเล็บ และเล็บ acrylic ในรายที่มีนิสัยชอบกัดเล็บ วัสดุอุดฟัน ครอบฟัน อาหารบางประเภท เช่น มะม่วง แครอท เปลือกส้ม
การตรวจยืนยันการวินิจฉัยภาวะนี้ ทำได้โดยการทำ patch test หรือการตรวจภูมิแพ้ผิวหนังด้วยการปิดแผ่นทดสอบบริเวณหลังหรือต้นแขน ด้วยสารมาตรฐานในชุดทดสอบและเครื่องสำอางค์ของผู้ป่วย
2. ริมฝีปากอักเสบจากการระคายเคือง เช่น จากการเม้ม เลียริมฝีปากบ่อยๆ เนื่องจากในน้ำลายมีเอนไซม์หลายชนิดทำให้ระคายเคืองได้
3. ริมฝีปากอักเสบจากภูมิแพ้ผิวหนัง ในผู้ป่วยที่มีผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ ซึ่งมีอาการคันบริเวณข้อพับเรื้อรัง และผิวแห้ง อาจมีริมฝีปากแห้งลอกร่วมด้วยได้
สำหรับการดูแลรักษา ทำได้โดยหลีกเลี่ยงการเลีย เม้ม หรือแกะลอกริมฝีปาก และหลีกเลี่ยงสารสัมผัสที่แพ้ เช่น ลิปสติก ยาสีฟัน รวมถึงทาสารให้ความชุ่มชื้นกลุ่มขี้ผึ้งวาสลีนบ่อยๆ บางรายอาจต้องใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ลดการอักเสบ แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียงได้ หากใช้ยาไม่ถูกต้อง
ที่มา: manager.co.th