Author Topic: Cisco ชี้ซื้อซอร์สไฟล์ดันยอดเน็ตเวิร์กซีเคียวริตีโตกว่า 11%  (Read 1002 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) กับ สุธี อัศวสุนทรางกูร ผู้จัดการประจำประเทศไทย ซอร์สไฟร์ (ประเทศไทย)

      ซิสโก้ชี้การซื้อซอร์สไฟล์ด้วยเงินกว่า 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐจะช่วยเติมเต็มระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยในประเทศไทยอยู่ระหว่างการควบรวม คาดแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ และจะผลักดันให้ซิสโก้โตมากกว่าการเติบโตของตลาดเน็ตเวิร์กซีเคียวริตีในภาพรวมซึ่งอยู่ที่ปีละ 11% มูลค่าประมาณ 44 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปัจจุบันซิสโก้มีส่วนแบ่งอยู่ 23%
       
       นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ซิสโก้ได้ดำเนินการซื้อกิจการของซอร์สไฟล์ด้วยการจ่ายเงินสดคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้การดำเนินธุรกรรมต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว และพนักงานของซอร์สไฟร์ได้รวมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยของซิสโก้ ซึ่งมาร์ติน เรซ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของซอร์สไฟร์จะเข้าดำรงตำแหน่งรองประธาน และหัวหน้าสถาปนิกของกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยของซิสโก้
       
       สำหรับในประเทศไทย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการถ่ายโอน และการพิจารณาในส่วนของพันธมิตรและช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครบถ้วน ซึ่งคาดว่าน่าจะเสร็จสิ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมอันเป็นช่วงเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ของซิสโก้ โดยการเข้ามาของซอร์สไฟร์จะช่วยให้เป้าหมายในการทำตลาดเน็ตเวิร์กซีเคียวริตีของซิสโก้มีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยซิสโก้หวังที่จะมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าตลาด จากปัจจุบันตลาดดังกล่าวนี้มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 11% ขณะเดียวกันซิสโก้จะสามารถพัฒนาด้านโซลูชันใหม่ๆ เพื่อนำเสนอต่อช่องทางการจัดจำหน่ายได้อีกด้วย
       
       “ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมของเน็ตเวิร์กซีเคียวริตีในประเทศไทย (ไม่นับรวมกลุ่มผลิตภัณฑ์ anti-virus) มีมูลค่าประมาณ 44 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยซิสโก้ครองส่วนแบ่งการตลาดที่อันดับต้นๆ ด้วยสัดส่วน 23% การมีซอร์สไฟร์เข้ามาร่วมด้วยจะช่วยให้เราสามารถตอบโจทย์ให้กับตลาด และตอบสนองความต้องการได้ดีมากขึ้น ซอร์สไฟร์จะช่วยชดเชยตลาดในส่วนที่ยังอาจไม่เคยเข้าถึงมาก่อน และสามารถตอบโจทย์ในเชิงลึกให้กับลูกค้าได้ดีมากขึ้น”
       
       นายวัตสันกล่าวว่า การจับมือครั้งนี้ซิสโก้จะได้โซลูชันที่สามารถป้องกันมัลแวร์ขั้นสูง (AMP) และสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอัจฉริยะด้านการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ที่ครอบคลุมของทั้งซิสโก้และซอร์สไฟร์ ทั้งความเชี่ยวชาญเรื่องการวิเคราะห์ของซอร์สไฟร์เข้ากับโซลูชันรักษาความปลอดภัยเว็บและอีเมลชั้นนำในอุตสาหกรรมของซิสโก้โดยสามารถตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้การวิเคราะห์ได้ทั่วทั้งเครือข่ายภายในและภายนอกได้อย่างครอบคลุมทุกช่วงวงจรของการโจมตี
       
       “นับจากนี้ซิสโก้จะนำเสนอสายผลิตภัณฑ์ด้านการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูงได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงชุดทางเลือกที่ผสานการทำงานร่วมกันได้อย่างครอบคลุม ต่อเนื่อง และเป็นระบบที่เปิดกว้าง นอกจากนี้ ซิสโก้ยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมเรื่องโอเพนซอร์ส และยังคงให้การสนับสนุน Snort (เครื่องมือที่ใช้ตรวจจับการบุกรุกทางเครือข่าย), ClamAV (หนึ่งในผลิตภัณฑ์ป้องกันมัลแวร์และไวรัส) และโครงการโอเพนซอร์สอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง”
       
       ด้านนายสุธี อัศวสุนทรางกูร ผู้จัดการประจำประเทศไทย ซอร์สไฟร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าหลักของการควบรวมในครั้งนี้คือกลุ่มลูกค้าองค์กรที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ เนื่องจากปัจจุบันรูปแบบการใช้งานไอทีมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น องค์กรต่างๆ จึงต้องการโซลูชันที่ให้ประสิทธิภาพการคุ้มกัน และสนองตอบต่อรูปแบบการดำเนินงานและการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการป้องกันเครือข่ายขององค์กรที่ขยายการใช้งานออกไปในวงกว้าง รูปแบบการรักษาความปลอดภัยจำเป็นต้องเปลี่ยนไปโดยมุ่งเน้นไปที่ “ภัยคุกคามเป็นหลัก (Threats-centric)”
       
       โดยการทำตลาดนับจากนี้จะมุ่งเน้นที่โซลูชันที่สามารถดูแลความปลอดภัยของระบบเครือข่ายบนทุกแพลตฟอร์ม ทั้งบนระบบเน็ตเวิร์ก ระบบคลาวด์ โมบายล์ดีไวซ์ และอื่นๆ ซึ่งจะมุ่งการดูแลระบบตั้งแต่ต้นจนถึงปลายทาง และตั้งแต่ก่อนโดนโจมตี จนถึงระหว่างการโดนโจมตี และหลังการโดนโจมตี หรือที่เรียกว่าเป็น Before-During-After ด้วยการผสานรวมความรู้เชิงลึกด้านภัยคุกคามขั้นสูง
       
       นอกจากนี้ ซิสโก้ซีเคียวริตียังเปิดตัวแอปพลิเคชันโอเพนซอร์สด้านการตรวจจับ และควบคุม ความสามารถในการสร้างสรรค์ และการบูรณาการความสามารถในการระบุตัวตนของแอปพลิเคชันโอเพนซอร์สใหม่ไว้ใน สนอร์ต เอนจิน (Snort engine) ผ่านการเปิดตัวของโอเพนแอปไอดี (OpenAppID) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่มีความสามารถในการมองเห็น เร่งการพัฒนาแอปพลิเคชันตรวจจับ และควบคุม พร้อมทั้งช่วยให้คอมมูนิตีสามารถแบ่งปันตัวตรวจจับเพื่อการป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
       
       Company Related Link :
       Cisco

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics