ฟูจิ ซีร็อกซ์ เดินหน้าขยายธุรกิจกระดาษพิมพ์ในเมืองไทยอย่างเป็นทางการหวังช่วยพาร์ตเนอร์มีกำไรเพิ่ม หลังปัจจัยทางการเมืองทำยอดขายในส่วนอื่นหด พร้อมแต่งตั้ง ที.เค.เอส. เทคโนโลยี เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ วางตลาดกระดาษชิมลางก่อน 2 รุ่น มั่นใจ 2 ปีจะมีรายได้แตะ 10% ของรายได้รวม ชี้ตลาดกระดาษพิมพ์มีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเพิ่มทุกปี คาดปีนี้จะยังเติบโตได้ประมาณ 5% ลดลงจากปีก่อนที่เติบโตถึง 15% นายรังสรรค์ นรัจฉริยางกูร ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจพรินเตอร์ บริษัท ฟูจิ ซีร็อกซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฟูจิ ซีร็อกซ์ ประเทศไทยได้ทำการเพิ่มกลุ่มธุรกิจกระดาษพิมพ์ขึ้นอย่างจริงจัง หลังจากได้ทดลองทำตลาดมาตั้งแต่เมื่อกลางปีที่ผ่านมา โดยการทำธุรกิจกระดาษอย่างจริงจังนี้เป็นไปตามเทรนด์ของการเติบโตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ยังคงใช้กระดาษอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงยังจะช่วยให้พาร์ตเนอร์ของฟูจิ ซีร็อกซ์มีผลกำไรที่เพิ่มขึ้นทดแทนรายได้ในส่วนอื่นที่อาจจะหดตัวลงไป
โดยคาดว่าภายหลังทำตลาดไปได้ประมาณ 2 ปี ฟูจิ ซีร็อกซ์จะมีรายได้จากธุรกิจนี้ประมาณ 10% จากยอดขายรวม จากปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ประมาณ 5% ส่วนการวางตำแหน่งทางการตลาดนั้นจะเน้นขายในตลาดระดับพรีเมียมแต่มีราคาสามารถแข่งขันได้ และมีราคาต่ำกว่าเจ้าตลาด โดยจะนำเสนอกระดาษครบทุกเซกเมนต์
“ตลาดรวมของกระดาษพิมพ์ในปีที่ผ่านมามีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2014 นี้คาดว่าน่าจะโตประมาณ 5% ลดลงจากปีที่แล้วที่มีอัตราการเติบโต 15% อันเกิดจากผลกระทบในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลักอย่างพรินเตอร์ให้ซบเซาลงไปด้วย ซึ่งการทำตลาดในครั้งนี้ได้ทำการเปิดตัว 2 รุ่นแรก คือ รุ่น Premium Paper และรุ่น Everyday Paper และเตรียมนำเข้ากระดาษพิมพ์เพิ่มเติมอีก 6 รุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า”
นายรังสรรค์กล่าวว่า ทางด้านช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น ได้ทำการแต่งตั้ง บริษัท ที.เค. เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนจำหน่ายรายแรกในประเทศไทย ซึ่งการเปิดตัวในเวลานี้ ฟูจิ ซีร็อกซ์มองว่าไม่ได้เข้าตลาดช้าเกินไป แต่ได้ทำการศึกษามาก่อนแล้วจากการติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภค และไม่ได้ต้องการขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาด แต่ต้องการให้พาร์ตเนอร์มีผลกำไรมากขึ้น ถือเป็นการเสริมกับธุรกิจหลักให้พรินเตอร์ของฟูจิซีร็อกซ์เข้าใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น
ด้านนางศิริวรรณ สุกัญจนศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กระดาษถ่ายเอกสารมีขนาดตลาดใหญ่และเติบโตขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก รวมไปถึงออฟฟิศในไทยที่ปัจจุบันมีการใช้งานกระดาษ A4 เป็นจำนวนมาก และคนไทยยังคงคิดว่าการเก็บข้อมูลเป็นเอกสารที่เป็นกระดาษยังปลอดภัยที่สุด รวมไปถึงยังมีผลบังคับทางกฎหมาย ทำให้กระดาษยังเป็นทางเลือกในการเก็บข้อมูลที่สำคัญ และคาดว่าใน 5-10 ปี ธุรกิจกระดาษในเมืองไทยก็จะยังคงอยู่
“การเป็นตัวแทนจำหน่ายหลักในผลิตภัณฑ์กระดาษพิมพ์ ฟูจิ ซีร็อกซ์ นั้นได้ตั้งเป้าหมายในปีแรกไว้ที่ 100 ล้านบาท วางกลยุทธ์ทางการตลาดเน้นฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ เช่น ร้านเครื่องเขียน ธนาคารและสถาบันการเงิน หน่วยงานราชการ รวมไปถึงการเข้าร่วมประมูลในโครงการใหญ่ๆ”
ส่วนการวางตำแหน่งทางการตลาดของฟูจิ ซีร็อกซ์นั้นจะเป็นกระดาษพรีเมียมราคากลางๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ต้องการสินค้าคุณภาพดีราคาไม่แพงสามารถเลือกใช้ได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายหลักผ่านบริษัท ซินเน็ค ประเทศไทย ที่มีตัวแทนจำหน่าย และร้านค้า และธุรกิจค้าปลีกที่แข็งแกร่งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีกด้วย
ด้านนายอนุชิต บุญญลักษม์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายงานขายและการตลาด บริษัท ซินเน็ค ประเทศไทย กล่าวว่า การนำเสนอผลิตภัณฑ์กระดาษเข้ามาจะช่วยทำให้ฟูจิ ซีร็อกซ์ มีผลิตภัณฑ์ที่ครบไลน์มากขึ้น และช่วยในด้านการตัดสินใจของลูกค้าในการใช้แบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้าในต่างจังหวัดกว่า 2,000 ราย เป็นลูกค้ากลุ่ม Stationary กว่า 400 ราย และลูกค้าโมเดิร์นเทรด เริ่มที่ลูกค้า Office Mate มีกว่า 50 สาขาทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ที่มา: manager.co.th
