ผู้บริหารการเงินจากค่ายอีเอ ออกมาชี้แจงเปิดประเด็นระบุตลาดเกมมือถือที่กำลังบูมอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีวันเข้ามาทดแทนประสบการณ์เกมบนเครื่องคอนโซล "เบลค จอร์เกนเซ่น" (Blake Jorgensen) ซีเอฟโอของบริษัทอิเล็คโทรนิค อาร์ตส ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อถึงเรื่องที่การเล่นเกมคอนโซลแบบเดิมๆกำลังจะหายไป จากการมาถึงของเกมมือถือบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแทบเล็ต โดยเขาได้ยืนกรานโต้แย้งสวนกระแสระบุว่ามันจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม อ้างอันที่จริงแล้วเกมมือถือจะเข้ามามีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของธุรกิจเกมคอนโซล
"เกมมือถือมันแค่ช่วยชักนำกลุ่มคนหน้าใหม่ๆให้หันเข้าสู่วงการเกมเท่านั้น และผมไม่เห็นว่ามันจะเข้ามาเทคโอเวอร์ประสบการณ์การเล่นเกมบนคอนโซล แต่กลับกันผมคิดว่ามันจะเข้ามาช่วยเสริมขยายประสบการณ์เกมคอนโซลเสียมากกว่า" โดยตัวเขาและทางอีเอ เชื่อว่าระหว่างเกมคอนโซลกับเกมมือถือมันเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
พร้อมชี้ตัวอย่างเกมแบทเทิลฟิลด์ 4 ที่สามารถดึงดูดผู้คนมาสู่คอนโซลได้ เพราะตัวเกมมีฟังก์ชันโหมดออนไลน์ที่ลึกซึ้ง และการเล่นพร้อมกันสูงสุดถึง 64 คนต่อแมตช์ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เกมมือถือไม่สามารถนำเสนอได้ "คุณไม่อาจสัมผัสประสบการณ์เหล่านั้นได้บนมือถือ เนื่องจากเกมมือถือมักเน้นอะไรที่เล่นได้สั้นๆและจบไว" จอร์เกนเซ่น กล่าว
ซึ่งสำหรับอีเอแล้ว ทางจอร์เกนเซ่น ระบุว่าแผนกลยุทธ์ที่บริษัทนำมาใช้คือการสร้างประสบการณ์เกมมือถือที่ส่งเสริมตัวเกมบนเครื่องคอนโซล เนื่องจากหากทำแบบนี้ทุกคนจะสามารถเล่นเกมเวอร์ชันคอนโซลผ่านหน้าจอทีวีขนาดยักษ์ที่บ้านได้ในเวลากลางคืน แล้วค่อยเปลี่ยนย้ายมาเล่นเกมเวอร์ชันมือถือในช่วงกลางวันขณะทำงานหรือนั่งรถประจำทาง
ปัจจุบันธุรกิจเกมมือถือของอีเอนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 31 ธันวาคมปีก่อน ทางบริษัทมีรายได้สุทธิจากการขายเกมดิจิตอลบนมือถือและพกพาถึง 125 ล้านเหรียญ (ประมาณสี่พันล้านบาท) ซึ่งเพิ่มสูงขึ้น 26 เปอร์เซนต์แบบปีต่อปี และหนึ่งในเกมมือถือที่ทำกำไรเข้าบริษัทได้มากที่สุดนั่นคือ The Simpsons: Tapped Out ที่จวบจนถึงตอนนี้สามารถกอบโกยเงินผ่านระบบขายของในเกมไปได้แล้วกว่า 130 ล้านเหรียญ (ประมาณ 4,230 ล้านบาท)
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot
ที่มา: manager.co.th