Author Topic: สำรวจไอซีทีปี 52 ต่ำสุดในรอบ10 ปี ชี้ตลาดฮาร์ดแวร์เจอหนักเติบโต 0%  (Read 990 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

ผลสำรวจไอซีทีไทยปี 51 เติบโตต่ำกว่าเป้า มูลค่ารวม 542,854 ล้าน ส่วนปี 52 ส่งสัญญาณไม่สู้ดี ปัจจัยเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ทำตลาดโต 5.2% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่คาดการณ์ตลาดฮาร์ดแวร์หนักสุด คาดตัวเลขเติบโต 0%


นายจำรัส สว่างสมุทร ที่ปรึกษาโครงการสำรวจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่าผลการสำรวจตลาดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารในประเทศ โดยเกิดจากความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ SIPA ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค และเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย หรือซอฟต์แวร์พาร์ค พบว่าปี 2551 ที่ผ่านมาสถานการณ์ในประเทศมีความผันผวนค่อนข้างมาก


ส่วนหนึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองกับภาวะความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจทำให้เกิดการชะลอการใช้จ่ายภาครัฐ ปรากฏการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบกับตลาดไอซีที ในภาพรวม ซึ่งจากการสำรวจในปี 2551 พบว่าไทยมีการใช้จ่ายในสินค้าและบริการด้านไอซีทีโดยรวมเท่ากับ 542,854 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ประมาณ 8.3% ต่ำกว่าประมาณการที่คาดไว้ 13.1% เพียงเล็กน้อย

ที่มา: thannews.th.com


อย่างไรก็ตามพบว่าแนวโน้มการใช้จ่ายในกลุ่มต่างๆ ยังคงในรูปแบบเดิม คือ การใช้จ่ายส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มตลาดการสื่อสาร คิดเป็นสัดส่วน 69.9% หรือมีมูลค่าสูงถึง 379,216 ล้านบาท รองลงมา คือการใช้จ่ายในตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ คิดเป็นมูลค่า 75,720 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 13.9% , ตลาดซอฟต์แวร์ คิดเป็นมูลค่า 62,937 ล้านบาท หรือ คิดเป็นสัดส่วน 11.6% และตลาดบริการด้านคอมพิวเตอร์ คิดเป็นมูลค่า 24,981 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.6%


ส่วนในปี 2552 ตลาดไอซีที จะเติบโตในอัตราลดลง โดยคิดเป็นการเติบโต 5.2% ถือว่าเป็นมูลค่าต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลกระทบต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นผลจากปัจจัยด้านราคาที่ลดลง ทั้งนี้คาดว่าตลาดที่จะมีการเติบโตมากสุดในปี 2552 คือ ตลาดบริการด้านคอมพิวเตอร์ คาดว่าจะเติบโต 14.2% รองลงมาคือ ตลาดด้านการสื่อสาร เติบโต 5.6% และตลาดซอฟต์แวร์ เติบโต5.1% ขณะที่ตลาดฮาร์ดแวร์ นั้นจะไม่มีตัวเลขการเติบโต


"ตัวเลขประมาณการการเติบโตของตลาดปี 2552 ที่คาดว่าจะเติบโต 5.2% สะท้อนภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี โดยตัวเลขตลาดไอที มีการชะลอมากสุดในปี 2541 หลังวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 หลังจากนั้นก็เติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลาด โดยปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดปีนี้โตขึ้น คือ โครงการลงทุนไอทีภาครัฐ และเอกชน ส่วนคอนซูเมอร์เชื่อว่าจะมีการชะลอการใช้จ่าย "


นายจำรัส กล่าวต่ออีกว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ปี 2552 นั้นปัจจัยด้านบวก คือ รัฐบาลชุดใหม่ที่จัดตั้งขึ้น คาดว่าจะช่วยเรียกความมั่นใจจากภาคเอกชนและภาคประชาชนกลับคืนมา นอกจากนี้เริ่มมีการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐในโครงการขนาดใหญ่(Mega Project) ขณะที่ภาคเอกชนตระหนักถึงความสำคัญของการนำไอทีมาใช้ เพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน นอกจากนี้เทคโนโลยีสื่อสาร เช่น 3จี, WiMax ส่งผลให้มีการใช้สินค้าคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์เพิ่มขึ้น เช่น มินิโน้ตบุ๊ก , โน้ตบุ๊ก แลพีดีเอโฟน ส่วนปัจจัยลบ คือ ผลจากวิกฤติเศรษฐกิจการเงินจากอเมริกาจะเริ่มส่งผลชัดเจนขึ้น และภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในประเทศ


สำหรับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดซอฟต์แวร์ปี 2552 ปัจจัยบวก คือ ความตระหนักรู้ถึงเรื่องการใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์มากขึ้นของคนไทย นอกจากนี้คาดว่า กทช. จะออกใบอนุญาตประกอบกิจการ 3G ทำให้เกิดการพัฒนาเนื้อหา (Content) และ บริการ( Application) ที่ใช้บนโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ขณะเดียวกันผลของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะมาตรการทางภาษีสามารถกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคในภาพรวมได้


ส่วนปัจจัยลบที่สำคัญคือ การชะลอตัวของงบประมาณรายจ่ายด้านการลงทุนภาครัฐประจำปีงบประมาณ 2552 และการที่ภาครัฐไม่มีแผนโครงการไอทีขนาดใหญ่ นอกจากนี้ความไม่สงบทางการเมืองที่มีมาอย่างต่อเนื่องส่งผลต่อนักลงทุนชะลอหรือระงับโครงการขนาดใหญ่ และสุดท้ายคือ ผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลก ส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดบริการด้านคอมพิวเตอร์ ปี 2552 นั้นปัจจัยบวก คือ เทคโนโลยีใหม่ เช่น 3G, WiMAX และการลงทุนจากภาครัฐ ส่วนปัจจัยลบ วิกฤติการเงินโลก


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)