“ไออาร์ซีพี” ระบุทีวีดิจิตอลจะกลายเป็นส่วนสำคัญให้บริษัทเติบโตได้ในยามที่สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่เสถียร แต่เชื่อว่าทั้งปียังสามารถเติบโตได้มากกว่า 20% จากรากฐานที่มั่นคงของบริษัท เผยเตรียมทุ่ม 200 ล้านบาทควบรวมกิจการบริษัทไอทีที่ทำด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เร็วๆ นี้ นายกังวาล กุศลธรรมรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือไออาร์ซีพี (IRCP) กล่าวว่า จากผลประกอบการในช่วงปี 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือเติบโตในเชิงรายได้จากปี 2555 ที่ 50% และแง่กำไรที่ 100% และกำไรสุทธิจากเดิมมีสัดส่วนที่ 3% ขึ้นเป็น 5% ในปี 2556 ซึ่งถือเป็นปีที่บริษัทสามารถสร้างรายได้มากที่สุดตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์
“ในปี 2557 ทางไออาร์ซีพีวางเป้าหมายไว้ว่าจะเติบโตเบื้องต้นราว 20% จากธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ แต่ถ้ารวมถึงโอกาสในแง่ของการทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับทีวีดิจิตอลที่ทางไออาร์ซีพีจะเข้าไปร่วมประมูลโครงการต่างๆ เชื่อว่าจะสามารถเติบโตได้กว่า 50%”
โดยรายได้หลักของไออาร์ซีพีในปีที่ผ่านมาจะมาจาก 2 ส่วนหลักๆ คือ รายได้จากโปรเจกต์ หรือส่วนของการประมูลของราชการ และนอนโปรเจกต์ (กลุ่มการขายที่ไม่ได้มาจากราชการ) ซึ่งสัดส่วนในปี 2556 จะอยู่ที่ 65% ต่อ 35% และคาดว่าในปีนี้หลังจากที่มีการเข้าควบรวมกิจการจะช่วยให้สัดส่วนรายได้จากภาคเอกชนเพิ่มขึ้นกลายเป็น 60% ต่อ 40%
ซึ่งภายในส่วนของรายได้ยังแบ่งเป็นในแง่ของกลุ่มธุรกิจอีก 3 ส่วน คือ กลุ่มธุรกิจไอซีที กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจทีวีดิจิตอล ที่คาดว่าในปีนี้สัดส่วนของทีวีดิจิตอลถ้าประมูลได้ และผ่านเงื่อนไขการจำหน่ายกล่อง Set top Box ของทาง กสทช. จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่บริษัทไม่ต่ำกว่า 30-40%
ก่อนหน้านี้ ทางไออาร์ซีพีวางเป้าหมายไว้ว่าจะเข้าร่วมประมูลในธุรกิจโครงสร้างของทีวีดิจิตอล อย่างการให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอล (MUX) ที่มีผู้ได้รับการอนุญาตจากทางคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) 4 ราย คือ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5, อสมท, ไทยพีบีเอส และกรมประชาสัมพันธ์ โดยคาดว่าจะประมูลหรือเข้าร่วมในกลุ่มนี้ราว 30% จากมูลค่าโครงการรวมไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท
เพียงแต่ว่าในช่วงปีแรกมูลค่าที่แต่ละรายลงทุนในการวางระบบของ MUX อาจจะอยู่ที่ราว 5-6 พันล้านบาท ทำให้คาดว่าไออาร์ซีพีน่าจะสร้างรายได้จากกลุ่มนี้ไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท ถ้าเป็นผู้ชนะการประมูล
นอกจากนี้ ในส่วนของการจำหน่ายกล่อง Set top Box จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านกล่อง แต่ดูจากความต้องการ พื้นที่ให้บริการที่ทาง กสทช.กำหนด และปริมาณครัวเรือน 22 ล้านครัวเรือนนั้น ทำให้เชื่อว่าภายในปีแรกน่าจะมีการเปลี่ยนกล่องราว 5 ล้านเครื่อง โดยทางไออาร์ซีพีคาดว่าจะจำหน่ายกล่องได้ราว 2 ล้านเครื่อง ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับทางผู้ผลิตที่จะทำราคาให้ต่ำลง
นายกังวาลกล่าวต่อว่า ขณะที่ในแง่ของการลงทุน ได้เตรียมงบประมาณไว้ราว 200 ล้านบาทสำหรับการเข้าควบรวมกิจการบริษัทให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ภายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ หลังจากเข้าแจ้งในการประชุมกรรมการใหญ่ พร้อมกับการเพิ่มทุนให้แก่บริษัทลูกเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการ
โดยเชื่อว่าเงินหมุนเวียนภายในบริษัทยังถือว่ามีสภาพคล่องสูง เพราะที่ผ่านมาบริษัทได้คัดเลือกโครงการที่จะเข้าร่วมประมูลที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีคุณภาพ ไม่เลือกโครงการเสี่ยงๆ ที่จะทำให้ต้นทุนบานปลายจากการส่งงานช้า รวมถึงมีวินัยในการใช้จ่ายเงิน และมีธุรกิจเพิ่มขึ้นในส่วนของดิจิตอลทีวีที่มีคู่แข่งน้อย
“ผลกระทบจากปัจจัยทางการเมืองที่ยังขาดเสถียรภาพอาจส่งผลกระทบเล็กน้อย เพราะอาจทำให้ 1 ปีเหลือไม่ถึงปี แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกจากฐานลูกค้า ทีมงาน และรายได้คงค้างจากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีความคล่องตัวในการแข่งขัน”
ทั้งนี้ ไออาร์ซีพียังมีรายได้ที่จะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ต่อเนื่องมาจากปีที่ผ่านมากว่า 500 ล้านบาท ยังไม่นับรวมกับการเข้าประมูลที่ได้งานแล้วจากบริษัท กสท โทรคมนาคม อีกกว่า 100 ล้านบาท ประกอบกับดัชนีชี้วัดภายในตลาดหลักทรัพย์ที่ดี ทำให้เชื่อว่าทางธนาคารจะอนุมัติเงินในแต่ละการประมูลได้อย่างต่อเนื่อง
Company Relate Link :
IRCP
ที่มา: manager.co.th
