วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2013 ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์เรียบร้อยว่าเป็นวันที่ชาวออนไลน์อเมริกันคลิกซื้อสินค้ามากที่สุดในประวัติศาสตร์กราฟแสดงสถิติยอดจำหน่ายสินค้าออนไลน์วันไซเบอร์ มันเดย์ (Cyber Monday) ตลอดหลายปีที่ผ่านมาน่าเสียดายเมื่อการสำรวจพบว่า นักช้อปอเมริกันใช้จ่ายเงินผ่านหน้าร้านค้าปลีกน้อยกว่าแบล็กฟรายเดย์ปีที่แล้วเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2013 ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์เรียบร้อยว่าเป็นวันที่ชาวออนไลน์คลิกซื้อสินค้ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยวันจันทร์หลังเทศกาลขอบคุณพระเจ้าหรือที่เรียกกันว่า "ไซเบอร์ มันเดย์ (Cyber Monday)" ประจำปีนี้คือวันที่ชาวอเมริกันใช้จ่ายเงินกับการคลิกซื้อสินค้าและบริการออนไลน์เป็นเงินมากกว่า 1.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.6 หมื่นล้านบาท ไซเบอร์มันเดย์หรือ Cyber Monday เป็นคำที่หมายถึงวันจันทร์แรกหลังเทศกาลขอบคุณพระเจ้าของชาวอเมริกัน ซึ่งผู้ค้าปลีกออนไลน์ในสหรัฐฯจะรวมตัวกันลดราคาในวันนี้ สำหรับไซเบอร์มันเดย์ปี 2013 สำนักข่าวซีเน็ตรายงานว่ายอดการใช้จ่ายเงินชองชาวออนไลน์อเมริกันนั้นเพิ่มขึ้นจากไซเบอร์มันเดย์ปี 2012 ถึง 18%
หากไม่จำกัดเฉพาะไซเบอร์มันเดย์ การสำรวจจากบริษัทวิจัยคอมสกอร์ (ComScore) พบว่าชาวอเมริกันใช้เงินบนโลกออนไลน์มากกว่า 2.39 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 32 วันตลอดเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาก่อนเทศกาลวันหยุดปลายปีที่คาดว่าจะมีการจับจ่ายอย่างหนักอีกระลอก โดยยอดจำหน่าย 2.39 หมื่นล้านเหรียญหรือประมาณ 7.6 แสนล้านบาทนี้คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 8% จากปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สถิติจากสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐฯ (National Retail Federations) ซึ่งเป็นผู้เริ่มต้นคำเรียกไซเบอร์มันเดย์ พบว่าการเติบโตของยอดจำหน่ายวันไซเบอร์มันเดย์ปีนี้เพิ่มขึ้นในขณะที่ยอดจำหน่ายวัน "แบล็กฟรายเดย์ (Black Friday)" หรือวันศุกร์ก่อนวันเทศกาลขอบคุณพระเจ้าที่หน้าร้านค้าทั่วสหรัฐฯจะพร้อมใจลดราคา จุดนี้ข้อมูลระบุว่านักช้อปใช้จ่ายเงินน้อยกว่าแบล็กฟรายเดย์ปีที่แล้วเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะนักช้อปเริ่มมองข้ามหน้าร้านค้าแล้วหันมารอช้อปปิ้งออนไลน์ในวันไซเบอร์มันเดย์มากขึ้น
หากรวมช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าหรือ Thanksgiving สำนักคอมสกอร์พบว่ามูลค่าเม็ดเงินช้อปปิ้งออนไลน์ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ 30 พฤศจิกายน- 1 ธันวาคมนั้นมีมูลค่าราว 1.549 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 34% จากสุดสัปดาห์ช่วงเทศกาลของุณพระเจ้าปี 2012 โดยหากคำนวณช่วงเวลา 5 วันจากเทศกาลขอบคุณพระเจ้าถึงวันไซเบอร์มันเดย์ พบว่ายอดใช้จ่ายออนไลน์หลั่งไหลมาจากสหรัฐอเมริกามากกว่า 5.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นมากกว่า 22% ในช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน
การสำรวจยังพบด้วยว่า ผู้ค้าออนไลน์ที่โกยส่วนแบ่งจากเม็ดเงินมหาศาลเหล่านี้ได้มากที่สุดคืออเมซอน (Amazon.com) และอีเบย์ (eBay) จุดนี้บริษัทวิจัยชาเนลแอดไวเซอร์ (ChannelAdvisor) พบว่ายอดจำหน่ายของอเมซอนเพิ่มขึ้นเกิน 44.3% เมื่อเทียบกับปี 2012 ขณะที่ยอดจำหน่ายของอีเบย์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 32.1%
ที่มาของวันแบล็กฟรายเดย์และไซเบอร์มันเดย์นั้นเกี่ยวข้องกัน โดยแบล็กฟรายเดย์เริ่มมาจากเมืองฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia) ซึ่งแต่เดิม คำนี้มีความหมายถึงการจราจรหนาแน่นที่จะเกิดขึ้นหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า ก่อนจะถูกเปลี่ยนมาเป็นคำที่ใช้อธิบายถึงวันที่เจ้าของร้านค้าปลีกจะได้กำไร เนื่องจากสีดำนี้สะท้อนถึงตัวอักษรสีดำบนบัญชีของร้านค้าที่แสดงกำไร ไม่ใช่สีแดงของตัวเลขขาดทุน
ในเมื่อโลกออฟไลน์มีแบล็กฟรายเดย์ สมาคมผู้ค้าปลีกแห่งชาติจึงจัดตั้งวันไซเบอร์มันเดย์ขึ้นในฐานะวันแห่งการรวมตัวกันลดราคาของผู้ค้าปลีกออนไลน์ในสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ค้าปลีกออนไลน์สามารถปั๊มยอดขายได้ดีมากเป็นพิเศษในวันจันทร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า ส่วนหนึ่งเพราะชาวอเมริกันที่ต้องทำงานในเช้าวันจันทร์จำนวนมากยังต้องการจับจ่ายซื้อของลดราคาอยู่
ที่มา: manager.co.th