เอปสันหวังทำยอดสวนกระแสเศรษฐกิจ ตั้งเป้าโต 10% หรือราว 2.3 พันล้านบาท ด้วยการผลักดันอิงค์เจ็ตพรินเตอร์เข้าธุรกิจองค์กรแทนที่เลเซอร์ พร้อมชูแคมเปญช่วยผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในงานคอมมาร์ต รวมกับโปรโมชันแจกทองคำติดต่อกัน 20 สัปดาห์ ฉลองครบรอบ 20 ปี
นายเออิจิ คาโตะ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงผลประกอบการในปีงบประมาณ 2552 (เริ่มปีงบประมาณเดือนเมษายน) ที่ผ่านมาว่าอยู่ในระดับคงที่คือเติบโตประมาณ 5% จากปีก่อนหน้านี้ คิดเป็นรายได้รวมประมาณ 2.1 พันล้านบาท ซึ่งสวนทางกับภาวะการหดตัวของตลาดไอทีในประเทศ จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น
"ยอดขายอิงค์เจ็ตพรินเตอร์รวมทุกรุ่นมีอัตราการเติบโตราว 41% โดยเฉพาะมัลติฟังก์ชันพรินเตอร์ที่โตขึ้นถึง 60% ขณะที่ยอดขายโปรเจคเตอร์ก็เพิ่มขึ้นราว 60% เช่นเดียวกัน ส่วนในปีงบประมาณ 2553 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ 10% หรือ 2.3 พันล้านบาท แม้ว่าจะมีความท้าทายจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศก็ตาม"
โดยทิศทางการตลาดในประเทศไทยของเอปสันจะสอดคล้องกับบริษัทแม่ ที่เน้นใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ไมโคร ปิเอสโซ ร่วมกับเทคโนโลยี 3LCD ในโปรเจคเตอร์ ในการทำตลาดซึ่งจะเน้นไปที่ตลาดกลุ่มธุรกจขนาดกลางและองค์กรขนาดใหญ่รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐมากขึ้น ส่วนผู้บริโภคทั่วไปก็ยังคงให้ความสำคัญเช่นเดิม
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป ด้านการขายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เนื่องจากปีนี้เป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีของทางเอปสัน ประเทศไทย จึงมีการจัดโปรโมชันพิเศษแจกทองคำต่อกัน 20 สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการใช้จ่ายมากขึ้น รวมไปถึงจัดแคมเปญพิเศษช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ
"การจัดเคมเปญพิเศษสำหรับผู้ประสบภัยจะมีการจัดขึ้นภายในงานคอมมาร์ตในช่วงวันที่ 24 - 27 มิถุนายนนี้ โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบและได้ลงทะเบียนกับทางหน่วยงานราชการเรียบร้อยแล้ว สามารถนำเอกสารที่เป็นหลักฐานเพื่อมายื่นซื้ออุปกรณ์ต่างๆที่ทางเอปสันจำหน่ายได้ ซึ่งเบื้องต้นทางเอปสันจะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้กับผู้ที่ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือน ในระยะเวลา 3 เดือนแรก หลังจากนั้นผู้ประกอบการผ่อนชำระค่าเครื่องต่อไป จำกัดสิทธิ 200 ท่านแรก"
สำหรับภาพรวมตลาดภายในปีนี้แม้ว่าในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ยอดขายจะหายไปประมาณ 10% จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น แต่หลังจากเหตุการณ์สงบ ยอดจำหน่ายกลับเพิ่มมากขึ้น จนเกือบชดเชยส่วนที่หายไป ดังนั้นจึงเชื่อว่าตลาดคอนซูเมอร์จะค่อนข้างทรงตัว
"ในปี 2553 ทางเอปสันจะเน้นไปที่กลุ่มธุรกิจ เนื่องจากมีมูลค่าค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในกลุ่ม SME ซึ่งอิงค์เจ็ตพรินเตอร์รุ่นระดับกลางในช่วงราคา 3 - 4 พันบาท โปรเจคเตอร์ และพรินเตอร์ขนาดใหญ่ จะเข้ามาช่วยทำตลาดมากขึ้น รวมไปถึงการที่จะผลักดันให้อิงค์เจ็ตพรินเตอร์เข้าไปสู้กับเลเซอร์พรินเตอร์ในกลุ่มธุรกิจองค์กรด้วย"
ในส่วนของแคมเปญแจกทองต่อกัน 20 สัปดาห์ จัดขึ้นในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนไปจนถึงตุลาคม จากการจับรางวัลภายในรายการ 07 โชว์ โดยแบ่งเป็นทองคำหนัก 1 สลึง 15 สัปดาห์แรก 2 สลึง อีก 4 สัปดาห์ และสัปดาห์สุดท้ายแจกทองคำหนัก 20 บาท รวมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆของเอปสัน
Company Related Links :
Epson
ที่มา: manager.co.th