<![CDATA[<a href="https://www.youtube.com/watch?v=9yEWqb6xkAs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=9yEWqb6xkAs</a>]]>
“ออย ธนา” น้ำตาคลอเผยวินาทีขอ “น้องเธอ” แต่งงานที่ญี่ปุ่น บอกปิ๊งตั้งแต่แรกพบแต่ไม่กล้าจีบเพราะฝ่ายหญิงมีแฟนแล้ว ด้านเจ้าสาวเปิดใจตอนแรกก็หวั่นเพราะฝ่ายชายโลกส่วนตัวสูง แต่อีกฝ่ายบอกจะไปพาอยู่ในโลกของเขาจึงไร้ปัญหา เผยสินสอดเป็นทอง 200 กว่าบาท เงินสดหลักล้าน แหวนเพชร 1 กะรัต เจ้าบ่าวอยากมีลูก 4 คน เข้าพิธีวิวาห์ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงเช้าของวันนี้(16 พ.ย.) สำหรับ “ออย ธนา สุทธิกมล” กับ “รวรีย์ ทองคำกูล” อดีตแอร์โฮสเตสการบินไทย โดยพิธีจัดขึ้นที่โพธาวลัย เลเซอร์ ปาร์ค ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา ถือฤกษ์ดีเวลา 06.30 น. ยกขบวนขันหมากล่องเรือไปสู่ขอเจ้าสาว โดยมี “นพพล โกมารชุน” และ “ปรียานุช ปานประดับ” เป็นเฒ่าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าว มีแหวนหมั้น 1 กะรัต สินสอดทั้งเงินสดและทองคำ
ทั้งนี้ในส่วนของงานฉลองวิวาห์ช่วงค่ำคืนวันเดียวกัน บรรยากาศในงานตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวทั่วทั้งงาน มีครอบครัวและเพื่อนในวงการร่วมแสดงความยินดี อาทิ กระแต ศุภษร, บิ๊ก ศรุต, ดวงดาว จารุจินดา, ปาน ธนพร, เบนซ์ ปุณยาพร, สมบัติ เมทะนี ,ตั้ม วิชญะ ฯลฯ ซึ่งก่อนที่พิธีการจะเริ่มขึ้น บ่าว-สาว ได้ควงคู่ออกมาให้สัมภาษณ์ งานนี้ทำเอาหนุ่มออยถึงกับกลั้นน้ำตาลูกผู้ชายเอาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว
ออย: “ก็เป็นพิธีการตั้งแต่เริ่มแห่ขันหมาก แล้วก็รดน้ำสังข์ ไหว้ผู้ใหญ่ และก็พิธีหมั้น ก็ตื่นเต้นครับ แต่จริงๆ ผมเคยแต่งงานในละครหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เหมือนกันครับ เรื่องความรู้สึกต่างๆ เพราะคนรอบข้างที่เชิญมาก็เป็นคนที่เรารัก ก็เป็นเพื่อนๆ เราหมดเลย อย่างเมื่อคืนก็ตื่นเต้นนอนไม่หลับ”
เธอ: “ก็ตื่นเต้นค่ะ”
ออย: “(หัวเราะ)คือเขาเป็นคนขี้อายครับ”
พร้อมเล่าย้อนถึงวันที่เจอกันวันแรกจนได้มาเป็นคู่ชีวิต ว่าเจอกันครั้งแรกบนเครื่องบินเพราะเจ้าสาวเป็นแอร์โฮสเตส แต่ไม่ได้จีบเพราะฝ่ายหญิงมีแฟนอยู่แล้ว กระทั่งผ่านไปครึ่งปีรู้ว่าอีกฝ่ายโสดถึงรุกสานสัมพันธ์
ออย: “เจอกันครั้งแรกบนเครื่องบินครับ เพราะเขาทำงานเป็นแอร์โฮสเตส ซึ่งตอนแรกเราก็รู้ว่าภูมิต้านทานการจีบแอร์โฮสเตสมีเยอะมาก ก็เลยไม่ได้จีบ แต่เรารู้ว่าเราชอบคนนี้นะ ก็ชอบประมาณนึงแต่ว่าไม่ได้ชอบมาก เพราะเวลาผมชอบใครผมจะไม่ค่อยกล้าพูดอะไร ก็แค่มองเฉยๆ กลัวเขาหาว่าเป็นดาราแล้วเจ้าชู้ไปขอเบอร์เขา วันแรกก็ไม่ได้ขอเลย ไม่รู้ว่าจะทำยังไงก็ทำอะไรไม่ถูก ก็คิดว่าขอถ่ายรูปเขาดีกว่า”
“ผมก็เดินไปขอเขาถ่ายรูป แต่ไม่ได้ขอเบอร์เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อต่อไปยังไงเพราะว่าเราก็ไม่กล้า กลัวเขาว่าว่าเราเจ้าชู้ ก็เลยขอถ่ายรูปเขาแล้วก็ลงมาเลย แล้วก็มาถามเพื่อนที่หลังว่าคนนั้นใครเพราะว่ามีเพื่อนๆ ทำงานก็รู้จักกัน เพื่อนก็บอกว่าเขาตอนนั้นไม่ว่าง ผมก็โอเคเขามีแฟนแล้ว เราก็เลยไม่ยุ่ง ไม่เป็นไร ก็หายไปประมานครึ่งปี ก็ไม่ได้เจอกันเลย ก็เลิกคิดเพราะเขามีแฟนแล้ว”
“มาเจออีกทีก็ตอนไปเชียงใหม่ด้วยกัน คือต่างคนต่างไป แต่ได้เจอกัน ตอนแรกผมก็ยังไม่ได้คุยเพราะเรารู้ว่าเขามีแฟนแล้วเราก็ไม่ยุ่งดีกว่า แต่เผอิญว่าเพื่อนกลุ่มเดียวกันไปเที่ยวด้วยกัน เราก็เลยคิดว่าไม่ได้ไปขอเบอร์เขา แต่ขอไปอยู่ใกล้ๆ ดีกว่า เราก็แอบไปอยู่กับเพื่อนในกลุ่ม แต่เราก็ไม่ได้คุยนะ ก็แค่ไปยืนเฉยๆ ไม่คุย ไม่จีบ แต่วันนั้นเป็นวันเกิดเขาพอดี ผมก็เลยแฝงไปในกลุ่มคืออยู่ใกล้ๆ แค่นั้นก็พอแล้ว จนกลับมาถึงกรุงเทพ เพื่อนเขาก็ได้มีโอกาสคุยกับเราว่าจริงๆ แล้วเขาไม่มีใครแล้วนะ เราก็จริงเหรองั้นโอเค”
เธอ: “ก็ตกใจค่ะ ก็งงๆ”
เมื่อถามว่าจีบยากไหมหนุ่ม “ออย” ก็บอกว่า…
ออย: “ก็เริ่มคุยธรรมดาครับไม่ได้คาดหวังอะไรกับอนาคต ก็แว๊บแรกของเรารู้สึกชอบคนนี้นะ ถูกชะตานะ ก็ลองคิดไปในหัวว่าถ้าเขาอยู่กับเรานานๆ เราจะเบื่อเขาไหม อีก 10 ปีเราจะเบื่อเขาไหม เขาเป็นแม่บ้าน แก่แล้วอ้วนเพละเราจะเบื่อเขาไหม ผมก็จินตนาการ แต่เราก็ดูก่อนเพราะว่าเราก็ไม่ได้รักใครง่ายๆ ก็คุยไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าเราทางเดียวกันนะ มีอะไรคล้ายๆ กันเราก็มีบ้างอย่างที่ไม่ไกลกันมาก อย่างบางข้อที่แตกต่างเราก็ยังเข้ากันได้ เพราะจริงๆ เราก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกันมาก แต่เราตั้งใจที่จะคุย มอบสิ่งดีๆ ให้กัน”
“ตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ก็คบมา 2 ปี ครับ จริงๆ แล้วผมค่อนข้างพร้อมที่จะมีครอบครัว ไม่ได้พร้อมที่จะมีแฟนด้วยซ้ำ ตั้งใจว่าอยากจะมีครอบครัวแล้วนะ คนที่คบครั้งนี้คือการตั้งใจมีครอบครัว ถ้าไม่ได้อย่างที่คิดขอเป็นโสดดีกว่า จนกระทั่งปีที่แล้วเราไปเที่ยวญี่ปุ่นครับ วันเกิดเขาพอดีก็ขอเขาแต่งงาน(น้ำตาคลอ)”
เธอ: “พี่ออยพาไปเที่ยว เขาเป็นคนตรงๆ พูดตรงขอแต่งงาน”
ออย: “พูดตรงๆ คือผมเป็นคนไม่ค่อยขายฝัน กลัวว่าพูดอะไรแล้วเกิดทำไม่ได้มันฟุ้ง ดูเองเลย ถามว่าเป็นยังไงดูเองเลย ไม่ชอบก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ดูเองเลย”
เธอ: “ตอนนั้นก็ตกใจค่ะ พี่ออยเขาเป็นคนที่พูดเรื่องแต่งงานอยู่แล้ว แต่แรกที่คบกันคบกัน เขาจริงจังนะ เขาอยากจะแต่งงานเขาก็ปูๆ ไว้บ้าง แล้ววันนั้นก็เซอร์ไพรส์เหมือนกัน แต่จริงๆ เขาเป็นคนไม่ชอบทำอะไรเซอร์ไพรส์”
เผยตั้งใจจะแฟนสาวแต่งงานในวันเกิดอยู่แล้ว
ออย: “ก็ตั้งใจด้วย เหมือนกับช่วงเวลามันพอดีกันกับโอกาสที่ดี ผมกะขอปุ๊ปอีก 3-4 เดือนแต่งเลย แต่ว่าไม่สะดวกด้วย ด้วยอะไรหลายๆ อย่างด้วย ความตั้งใจจัดงานเล็กๆ ไม่ได้คนเยอะขนาดนี้ คือผมค่อนข้างปิดตัวเอง เพื่อนน้อยไม่ถึง 10 คน ญาติผู้ใหญ่ แม่ก็เสียแล้ว กะงานเล็กๆ คิดว่าการจัดงานไม่น่าจะนานมาก ขอปุ๊ปแต่งเลย”
หนุ่ม “ออย” เปิดใจเหตุผลที่เลือก “เธอ” เป็นเจ้าสาว
ออย: “แว๊บแรกผมชอบผู้หญิงทำงาน ผู้หญิงเก่งที่สวยด้วยความสามารถ ผมก็นั่งดูเขาทำงานบนเครื่อง ดูทะมัดทะแมง แต่รูปลักษณ์ภายนอกเราก็เห็นแค่นั้นก่อน แต่ถ้าลองคบกันดูก็น่าจะดีนะ แต่พอคบไปเรื่อยๆ จากที่ดูมั่นใจ การแสดงออกมีความเชื่อมั่นสูง แต่จริงๆ มันไม่มีเลยนะ(หัวเราะ) เขาเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าพูด ขี้เขิน แตกต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกมาก แล้วตอนนั้นก็ผมสั้นมาก”
เธอ: “อย่างที่พี่ออยบอกว่าพี่เขาไม่เคยคาดหวังอะไร เขาทำให้เห็นว่าเขาเป็นอย่างนี้นี่แหละตัวเขา เขาก็เป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรกจนถึงทุกวันนี้แล้วก็มั่นคงมาโดยตลอด แต่แรกๆ เราก็รู้สึกแปลกๆ นะ แต่พี่ออยไม่เคยทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นดาราคืออยู่ด้วยแล้วรู้สึกว่าเขาก็เหมือนแฟนธรรมดา ตอนแรกก็ถามพี่ออยเหมือนกันว่าพี่เป็นคนโลกส่วนตัวสูงแล้วเราจะเข้าไปถึงเหรอ เขาก็บอกว่าถ้าอยู่ด้วยกัน เขาก็จะเอาเธอไปอยู่ในโลกของเขา(เขิน)”
ออย: “จริงๆ แล้วชีวิตคู่ของผมมันน่าจะเริ่มหลังจากนี้มากกว่า อันนี้เป็นแค่การดูทำความรู้จักกัน แต่ว่าต่อจากนี้คือการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมากกว่า แต่หลังจากนี้ก็จะมีแนวทาบที่ชัดเจนขึ้น ทะเลาะกันน้อยลง งอแงกันน้อยลง ก็มีแนวทางในการใช้ชีวิตด้วยกันที่ชัดเจนขึ้น”
สินสอดเป็นทอง 200 กว่าบาท เงินสดหลักล้าน แหวนเพชร 1 กะรัต
ออย : “ก็ไม่เท่าไหร่ครับ ก็มีไม่ค่อยเยอะครับ ทอง 200 กว่าบาท เงินสดอีกนิดหน่อย ก็หลักล้านครับ แหวนเพชร 1 กะรัต”
อยากมีลูกเลย แพลนมี 4 คน
ออย : “จากความมุ่งมั่นของผมก็มีเลยครับ อยากมีเลย เห็นเพื่อนๆ มีแล้วก็กลัวจะโตไม่ทันเล่นกัน สำหรับผมอยากมีสัก 3-4 คน แต่เขาบอกไม่ไหว เรื่องฮันนีมูนที่วางไว้คร่าวๆ ยังไม่มีครับเพราะติดละคร อาจจะแค่เที่ยวในเมืองไทยก่อน เขาก็อยากจะไปเที่ยวไกลๆ ด้วย ไปญี่ปุ่น อเมริกา ส่วนเรือนหอตอนแรกก็อยู่บ้านผม แต่มีแพลนว่าจะต้องสร้างบ้านใหม่”
งานเช้าตอนยกน้ำชา เห็นแซวว่าต้องกลัวภรรยาแน่เลย?
ออย : “จริงๆ แล้วผมว่าคนกลัวภรรยาก็น่ารักดี ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกครับ เราให้เกียรติกันดีกว่า”
เหมือนให้ “เธอ” ออกจากงานแล้วเราเลี้ยงคนเดียวเลยหรือเปล่า?
ออย : “จริงๆ แล้วเขาก็ทำงานอยู่ที่บ้านด้วยครับ อาจจะเป็นข้อตกลงและคุยกับที่บ้านแล้วว่าช่วงรอยต่อนี้เราจะทำอะไรดี ตามความเห็นของผมนะครับ ถ้ามีงานอยู่แล้ว อันนี้ก็เหนื่อยน้อยกว่า อีกอย่างเรายังมีงาน มันก็สะดวกที่เราจะขาดงาน ยังไม่ต้องทำก็ได้ต่อไปค่อยคิดกัน จริงๆ แล้วก็อยากให้เขาทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ ถ้าอยู่บ้านเฉยๆ เดี๋ยวเขาเบื่อ ส่วนงานในวงการผมก็ยังทำเหมือนเดิมนะครับ ถ้ายังมีอยู่”
บอกไม่มีคำมั่นสัญญา แต่จะทำให้เห็น
ออย : “ไม่เคยให้คำมั่นสัญญาอะไรครับ ไม่เคยบอกว่าจะต้องรักไปนานๆ หรือสัญญาว่าจะทำอะไร ผมว่าอยู่ที่เราเป็นอยู่ ณ ตอนนี้ เราเชื่อกันอยู่แล้วว่าคำมั่นสัญญาไม่มีประโยชน์อะไรถ้าเราไม่ทำ ผมก็ทำอยู่ตลอดให้เขารู้ดีกว่า”
เธอ : “ไม่ได้ขออะไรพี่เขา ขอก็ไม่รู้จะได้หรือเปล่า เขาเป็นคนไม่ขายฝัน ให้เขาทำให้เห็นดีกว่ามานั่งขอ”
ออย : “เพื่อนผู้หญิงของผมอาจจะไม่มีมาในงานนี้นะครับ ก็ดูกันเองว่าใครเป็นยังไง”
ที่มา: manager.co.th
