Author Topic: วีเอ็มแวร์ เผยภัยพิบัติทำธุรกิจไทย สนใจลงทุนคลาวด์เพิ่ม 88%  (Read 588 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


วีเอ็มแวร์เผยธุรกิจในเมืองไทยเริ่มสนใจใช้คลาวด์มากขึ้นและใช้ครบทุกโซลูชันที่มีให้บริการ ชี้หลังน้ำท่วมใหญ่ปี 54 ทำให้เกิดการตื่นตัวที่จะสำรองข้อมูล ประกอบกับปัจจุบันคลาวด์เริ่มมีราคาการให้บริการถูกลง ผู้บริหารองค์กรเริ่มมองเห็นความสำคัญ วีเอ็มแวร์เผยดัชนีคลาวด์พบ 88% สนใจลงทุนคลาวด์เพิ่ม ส่วนใหญ่เชื่อว่าบริการคลาวด์จะส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อองค์กรในประเทศไทยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
       
       นายชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน วีเอ็มแวร์ ประเทศไทย กล่าวว่า การใช้งานคลาวด์ในเมืองไทยเริ่มได้รับความแพร่หลายมากขึ้น โดยโซลูชันที่วีเอ็มแวร์เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบันลูกค้าในเมืองไทยได้นำมาใช้งานครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์หรือในกลุ่มผลิตภัณฑ์เวอร์ชวลเดสก์ท็อป นอกจากนี้ยังมีอีกหลายองค์กรที่กำลังใช้งานอยู่ และมีอยู่อีกหลายแห่งที่กำลังดำเนินการวางระบบ ซึ่งผลสำรวจของวีเอ็มแวร์ล่าสุดพบว่า 88% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีการใช้หรือวางแผนที่จะใช้โซลูชันคลาวด์
       
       “ปัจจุบันคลาวด์เริ่มมีราคาการให้บริการถูกลง เนื่องจากเซอร์วิสโพรวายเดอร์ก็มีต้นทุนต่ำลง มีการเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานขององค์กรไปสู่รูปแบบใหม่ใช้งบประมาณการลงทุนไม่ได้เพิ่มขึ้นจากเดิมมากนัก และที่สำคัญผู้บริหารเริ่มมองเห็นถึงประโยชน์ของคลาวด์เพิ่มขึ้น ส่วนแรงผลักดันสำคัญของการเข้าสู่คลาวด์ในเมืองไทยนั้นพบว่า ส่วนใหญ่เกิดจากภัยพิบัติต่างๆ โดยหลังจากน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ทำให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มหันมาบริหารความเสี่ยงด้วยการนำเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้สำหรับการสำรองและกู้คืนข้อมูลจากภัยพิบัติ และมีแผนที่จะตั้งไซต์ที่ 3 จากเดิมที่เคยมีแค่ 2 ไซต์”
       
       ปัจจุบันธุรกิจอย่างเอสเอ็มบีเริ่มหันมาใช้พับลิกคลาวด์มากขึ้น เพราะวันนี้พวกเขาเริ่มเข้าใจในการใช้งานคลาวด์แล้ว ส่วนไพรเวตคลาวด์นั้น องค์กรใหญ่ๆ เริ่มนำไปใช้มากขึ้นเช่นกัน โดยมีปัจจัยมาจากการแข่งขันในตลาดที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับการใช้งานคลาวด์จะช่วยลดระยะเวลา เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ และที่สำคัญพนักงานเริ่มมีความต้องการใช้งานแอปพลิเคชันเพื่อการทำงานมากขึ้น ต้องการทรัพยากรที่ตอบสนองความต้องการได้ ทำให้ต้องมีการนำคลาวด์เข้าไปใช้มากขึ้น
       
       วีเอ็มแวร์ได้ทำดัชนีคลาวด์ประจำปี 2556 เป็นการศึกษาธุรกิจต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นญี่ปุ่น) ดำเนินการโดยฟอร์เรสเตอร์ คอนซัลติ้ง โดยการทำดัชนีในปีนี้ได้มีการเพิ่มการสำรวจเกี่ยวกับ “ศูนย์ข้อมูลในอนาคต (Next Generation Datacenters)” ทั้งในเรื่องความน่าเชื่อถือของการรับรู้ และอิทธิพลของซีไอโอภายในองค์กรต่างๆ ที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ความคาดหวังของธุรกิจที่มีต่อระบบไอที และผลกระทบต่อกลยุทธ์ด้านศูนย์ข้อมูล รวมไปถึงแนวทางและลำดับความสำคัญของการปรับปรุงบริการการจัดเตรียมให้ดีขึ้น
       
       ผลการสำรวจพบว่าองค์กรไทยเริ่มเห็นความสำคัญของคลาวด์มากขึ้น โดย 88% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีการใช้หรือวางแผนที่จะใช้โซลูชันคลาวด์ ในขณะที่ดัชนีในปีที่ผ่านมามีผู้ที่คิดจะวางแผนแค่ 70% เท่านั้น นอกจากนี้ 82% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าระบบคลาวด์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการไอที และเป็นแหล่งเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กรธุรกิจ และ 83% มองว่าจะมีผลต่อความสำคัญของธุรกิจในอีก 12 เดือนข้างหน้า เพื่อเตรียมรับมือกับความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการเพิ่มความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าให้ได้มากที่สุด อันดับรองลงมาคือการปรับปรุงคุณภาพและความสามารถของผลิตภัณฑ์
       
       บริการคลาวด์จะส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อองค์กรในประเทศไทยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ดังนั้น องค์กรจึงต้องพร้อมรับมือและตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น และต้องสร้างความพึงพอใจให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงยังมองว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพและการตอบสนองของระบบไอทีเป็นเรื่องที่มีความสำคัญสูงสุด นอกจากนี้ 78% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อมั่นว่า ด้วยวิธีการจัดการซอฟต์แวร์ (software-defined) ซึ่งถูกนำไปติดตั้งและใช้ในการจัดการทรัพยากรต่างๆ ของศูนย์ข้อมูล (เซิร์ฟเวอร์, หน่วยจัดเก็บข้อมูล, ระบบเครือข่าย) จะมีผลกระทบต่อองค์กรอย่างชัดเจน
       
       74% ของผู้ใช้คลาวด์พบว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ ลดการซับซ้อน และช่วยเพิ่มทรัพยากรด้านไอทีใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับปรับปรุงการดำเนินงานด้านไอที 91% เชื่อว่าการประมวลผลแบบคลาวด์มีความสามารถในการทำให้ระบบไอทีที่มีอยู่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น และ 88% ของผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าการใช้งานคลาวด์ และบริการที่อยู่ในรูปแบบ ‘as-a-Service’ จะมีผลกระทบต่อธุรกิจอย่างชัดเจนในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
       
       “ผลจากการสำรวจดังกล่าวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของวีเอ็มแวร์ ซึ่งเน้นไปที่การเป็นศูนย์กลางในการเสริมสร้างศักยภาพด้านไอทีไปช่วยให้องค์กรต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับผลกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยการใช้ประโยชน์ของคลาวด์ในการสร้างให้ระบบไอทีมีโครงสร้างพื้นฐานที่เรียบง่าย ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน และลดต้นทุนด้านค่าใช้จ่ายขององค์กรได้เป็นอย่างดี” นายชวพลกล่าว
       
       ดัชนีคลาวด์ของวีเอ็มแวร์จัดทำขึ้น โดยทำการสำรวจผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอที และธุรกิจจำนวน 2,785 รายจาก 10 ประเทศในภูมิภาคนี้ ซึ่งประกอบด้วย ออสเตรเลีย, จีน, ฮ่องกง, อินเดีย, อินโดนีเซีย, เกาหลี, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ไต้หวัน, ไทย และเวียดนาม โดยฟิลิปปินส์ และเวียดนามเพิ่งเริ่มสำรวจในปีนี้
       
       Company Related Link :
       VMware

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)