บนเวทีงาน Google Big Tent Thailand 2013 จากซ้าย "เอริก ชมิดต์" ประธานกูเกิล และ "สิทธิชัย หยุ่น" ผู้ดำเนินรายการ 5 พฤศจิกายน 2013 ประเทศไทยต้องจารึกว่า "เอริก ชมิดต์" ประธานบริษัทเสิร์ชเอนจินระดับโลกอย่างกูเกิล (Google) ได้ขึ้นเวทีแสดงความเห็นของตัวเองต่อประเทศไทยเป็นครั้งแรกในนามกูเกิล ในช่วงเวลาไม่กี่นาทีที่เอริกสื่อสารกับผู้ร่วมงาน Google Big Tent Thailand 2013 ทำให้เรารู้ว่าประเทศไทยต้องปรับตัวอย่างน้อย 4 เรื่อง จึงจะสามารถยืนอยู่แถวหน้าในสังเวียนธุรกิจไอทีโลก 1 ไทยต้องสร้างอีโคซิสเต็มส์ เป็นเรื่องจริงที่เจ็บปวดเมื่อเอริก ชมิดต์นำประเทศไทยไปอยู่กลุ่มเดียวกับเวียดนามและเขมร โดยเชื่อว่าไทยและประเทศกลุ่มนี้จะสามารถพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันธุรกิจไอทีได้ดีขึ้นในปีหน้า (2014) พร้อมกับหยอดยาหอมว่าไทยจะมีโอกาสขึ้นแชมป์ประเทศไอทีในอาเซียนได้หากมีระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่ส่งเสริมกัน
ประธานกูเกิลระบุว่า ไทยต้องสนุบสนุนให้มีการสร้างบริษัทใหม่ที่มากขึ้น โดยยกตัวอย่างว่า 15 ปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาสามารถสร้างอีโคซิสเต็มส์ที่เหนียวแน่น จนทำให้ตลาดโมบายขยายตัวรวดเร็วเช่นทุกวันนี้
2 ต้องสร้างบุคลากรไทย เอริกมองว่ารัฐบาลไทยต้องส่งเสริมให้ความรู้คนไทยทั้งด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ รวมถึงเรื่องภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากล จุดนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยถูกชาวต่างชาติประเมินว่ามีจุดยืนในอุตสาหกรรมไอทีอาเซียนที่ด้อยกว่ามาเลเซียและสิงคโปร์
3 ไลเซนส์ 4G ต้องเร็ว เอริกพูดถึงการประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการเครือข่าย 3G หรือไลเซนส์ 3G ของประเทศไทยแบบตรงไปตรงมาว่าล่าช้า ทำให้คนไทยมีโอกาสใช้ 3G ล่าช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านเพราะการติดตั้งโครงข่าย 3G ของไทยจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีหน้า สิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญคือการเร่งมือออกใบอนุญาตเทคโนโลยี 4G เพื่อป้องกันไม่ให้คนไทยเสียโอกาส เมื่อเทียบกับประชากรในประเทศเพื่อนบ้านที่สามารถสร้างธุรกิจออนไลน์ได้ในวันเดียวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
4 การเมืองควรนิ่ง เอริก ชมิดต์ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมาพักผ่อนที่เมืองไทยหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่เดินทางในนามกูเกิลอย่างเป็นทางการ โดยครั้งนี้เป็นการเดินทางเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะรัฐประหารในประเทศไทย
ประธานกูเกิลยอมรับว่า ยังไม่มีโอกาสได้พบกับนายกรัฐมนตรีเพื่อหารือถึงโอกาสของไทย และเข้าใจดีว่านายกรัฐมนตรีกำลังเผชิญกับความวุ่นวายทางการเมือง
เอริก ชมิดต์ หรือ Eric Emerson Schmidt นั้นมีดีกรีเป็นหนึ่งใน 3 ทหารเสือผู้บริหารบริษัทกูเกิล โดยมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหารกูเกิลมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2001 โดยต้นปี 2011 ชมิดต์ประกาศสละตำแหน่งให้แก่แลร์รี เพจ (Larry Page) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทหลังจากทำหน้าที่ซีอีโอมานาน 10 ปี ครั้งนั้นชมิดต์ให้สัมภาษณ์ว่าค่อนข้างมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะส่งผลดีกับบริษัท โดยยืนยันว่าเพจนั้นมีความพร้อมมากพอที่จะรับผิดชอบตำแหน่งนี้แทน
ปัจจุบัน ชมิดต์ทำงานร่วมกับกูเกิลในฐานะประธานบริหาร (Executive Chairman) โดยจะดูแลในส่วนของภาพรวมธุรกิจ การดูแลพันธมิตร และลูกค้า นอกจากนี้ยังรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับแลร์รี เพจ และ เซอร์เก บริน ผู้ก่อตั้งบริษัทอีกรายหนึ่งด้วยเช่นกัน
สำหรับ Google Big Tent เป็นงานที่กูเกิลจัดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก เพื่อแสดงจุดยืนว่ากูเกิลส่งเสริมให้ทุกประเทศมีการใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนทั้งด้านการศึกษา เศรษฐกิจ และสังคม สำหรับการจัดงานที่ประเทศไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เข้าร่วมงาน Google Big Tent ในฐานะตัวแทนภาครัฐ ท่ามกลางนักธุรกิจชั้นนำของประเทศไทยที่มา: manager.co.th