"Fighter Within" ปล่อยหมัดใส่เอ็กซ์บ็อกซ์วัน 19 พ.ย.

[Nick]

<a href="https://www.youtube.com/watch?v=bcUEh8uRDw0" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=bcUEh8uRDw0</a>

เกมไฟท์ติ้งจับการเคลื่อนไหวเน็กซ์เจนตัวแรกของค่ายยูบิซอฟต์ มีกำหนดออกล่วงหน้าสามวันก่อนถึงฤกษ์เปิดขายเครื่องเอ็กบ็อกซ์วัน พร้อมกับปล่อยเทรลเลอร์ตัวอย่างแรกให้ได้รับชมกัน
       
       สำหรับเกม "Fighter Within" นั้นเป็นผลงานใหม่ล่าสุดจากค่ายยูบิซอฟต์ ที่มาในแนวเกมกีฬาต่อสู้ซึ่งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีจับการเคลื่อนไหวของ Kinect เวอร์ชันใหม่บนเครื่องเอ็กบ็อกซ์วัน มาใช้แทนจอยในการบังคับควบคุมตัวละครนักสู้ภายในเกม แถมด้วยภาพกราฟฟิกระดับเน็กซ์เจนที่ช่วยเพิ่มความสมจริงราวกับกำลังต่อสู้อยู่จริงๆ
       
          ซึ่งด้วยเทคโนโลยี Kinect for Xbox One จะช่วยให้ตัวเกมสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้เล่นได้ทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า อีกทั้งมันยังมีความแม่นยำสูงแบบ 1:1 และไม่มีจังหวะอาการหน่วงดีเลย์ใดๆ โดยตัวเกมจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถออกท่วงท่าต่อย เตะ สวนกลับ จับทุ่ม ทำคอมโบได้อย่างตามใจนึก
       
       นอกจากนี้ ตัวเกมยังมีการนำเสนออาการบาดเจ็บ เม็ดหยดเหงื่อไหลไคลย้อย รวมถึงสีหน้าบิดเบี้ยวของตัวละครเวลาโดนหมัดให้เห็นกันจะๆแบบเรียลไทม์ และด้วยความสามารถในการจับการเคลื่อนไหวอันยอดเยี่ยม จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถคิดพลิกแพลงออกท่าทางการโจมตีได้หลากหลาย และมอบประสบการณ์เกมไฟท์ติ้งกับเพื่อนในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
       
       "มันเป็นเกมเน็กซ์เจนที่นำเสนอความน่าตื่นเต้นในการต่อสู้ของจริง ที่จะนำพาผู้เล่นเข้าไปสู่ประสบการณ์เกมต่อสู้ด้วยร่างกายทั้งตัวที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในเกมผู้เล่นจะได้สัมผัสกับโลกแห่งหยดเหงื่อ การกะจังหวะ และการซักซ้อมฝึกฝน ซึ่งต้องขอบคุณเทคโนโลยีตรวจจับการเคลื่อนไหวอันน่าทึ่งนี้ที่ทำให้การต่อสู้กับผองเพื่อนจะไม่รู้สึกเหมือนเดิมอีกต่อไป" ตัวแทนยูบิซอฟต์ กล่าว
       
          เกม "Fighter Within" มีกำหนดพัฒนาเอ็กคลูซีฟลงเฉพาะเครื่องเอ็กบ็อกซ์วันในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นระยะเวลาสามวันล่วงหน้าก่อนที่ตัวเครื่องคอนโซลเน็กซ์เจนของไมโครซอฟต์จะเริ่มเปิดวางขายในวันที่ 22 พฤศจิกายนปี 2013
       
       ข้อมูลและภาพประกอบจาก
       gamespot
       ign
       gematsu
       cvg
       eurogamer
       fighter-within

ที่มา: manager.co.th