Author Topic: ลุ้น iPhone ยุคหน้า พลิกตัวกลับเมื่อร่วงหล่นได้เหมือนแมว  (Read 842 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


ไอโฟนแตก จะไม่ใช่ฝันร้ายของสาวกแอปเปิลอีกต่อไป?


แผนภาพแสดงจุดอ่อนแอแตกหักง่ายของสมาร์ทโฟน


ลักษณะการติดตั้งกลไก"พลิกเครื่องขณะร่วงหล่น" ในสมาร์ทโฟน


จุดอ่อนแอแตกหักง่ายของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล


แผนภูมิแสดงอันดับการประมวลผลของระบบ


สิทธิบัตรเทคโนโลยีใหม่ที่จะสามารถพลิกไอโฟน (iPhone) ที่กำลังร่วงหล่น ให้กระทบกับพื้นในจุดที่เสียหายน้อยที่สุด ได้เหมือนแมวเหมียวที่สามารถพลิกตัวเมื่อกระโดดลงจากที่สูง

เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากเมื่อแอปเปิล (Apple) ยื่นเรื่องขอจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีใหม่ที่จะสามารถพลิกไอโฟน (iPhone) ที่กำลังร่วงหล่น ให้กระทบกับพื้นในจุดที่เสียหายน้อยที่สุด ไม่ต่างจากแมวเหมียวที่สามารถพลิกตัวเมื่อกระโดดลงจากที่สูงได้อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันก็สามารถใช้ระบบไอพ่นเพื่อลดแรงกระแทกได้พร้อมกัน
       
       รายงานระบุว่า หมายเลขยื่นขอสิทธิบัตรในฝันคนซุ่มซ่ามของแอปเปิลคือ 20130257582 โดยชื่อสิทธิบัตรอย่างเป็นทางการคือเทคโนโลยีปกป้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือ “Protecting an electronic device” ประกอบด้วยเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว หน่วยประมวลผล และมอเตอร์ขับเคลื่อนหลายตัวที่ทำงานร่วมกัน
       
       หลักการทำงานของสิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้ คือการนำหน่วยประมวลผลมาวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวที่แอปเปิลนำมาติดไว้ในอุปกรณ์ของตัวเองมานานหลายปี ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นสะพานเชื่อมให้มอเตอร์สำหรับการพลิกตัวทำงานตามสถานการณ์ที่ได้รับ ซึ่งจะสามารถปกป้องกระจกหรืออุปกรณ์ภายในเครื่องไม่ให้เสียหายจากการกระแทก
       
       แอปเปิลอธิบายรายละเอียดของสิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้ไว้ว่า เซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหวจะสามารถรับรู้ได้เมื่อเครื่องกำลังจะร่วงหล่น โดยภายในเวลาไม่กี่มิลลิวินาที เซ็นเซอร์จะสามารถตรวจสอบองศาการเอียงเครื่องผ่านเซ็นเซอร์เมื่อประเมินว่าแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนจะตกกระทบพื้นที่จุดอ่อนแอแตกหักง่ายที่สุดอย่างหน้าจอ หรือจะตกลงที่จุดอ่อนแออันดับที่ 2 อย่างฝาหลังเครื่อง ซึ่งมอเตอร์สำหรับพลิกเครื่องจะทำงานตามข้อมูลที่หน่วยประมวลผลประเมินได้ เพื่อให้เครื่องไม่ตกกระทบในพื้นที่อ่อนแอเสียหายง่าย
       
       แอปเปิลเชื่อว่าการเปลี่ยนองศาเครื่องขณะร่วงหล่นจะเป็นการลดโอกาสที่จะทำให้เครื่องได้รับความเสียหายง่าย ซึ่งถือเป็นความฝันของเจ้าของอุปกรณ์ไอทีส่วนใหญ่
       
       อย่างไรก็ตาม ความท้าทายหลักของสิทธิบัตรนี้คือข้อจำกัดของเซ็นเซอร์ ที่มีโอกาสน้อยมากในการตรวจวัดระยะทางว่าเครื่องอยู่สูงจากพื้นมากน้อยเพียงใด รวมถึงการคำนวณรูปแบบการร่วงหล่นที่เป็นไปได้หลากหลาย ทั้งหมดนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่กล้องดิจิตอลจะถูกเปิดเพื่อบันทึกภาพและตีความปัจจัยในการร่วงหล่นได้ทัน จุดนี้ทำให้ระบบพลิกตัวเครื่องเมื่อหล่นสามารถทำได้เพียงสร้างสมดุลย์ ในรูปแบบเดียวกับที่พาหนะขับเคลื่อน 2 ล้ออย่างเซกเวย์ (Segway) ทำได้ ซึ่งเซกเวย์จะไม่มีทางคว่ำแม้ว่าผู้ใช้จะยืนไม่สมดุลย์
       
       นี่ไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกของบริษัทไอทีในการปกป้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาให้รอดพ้นจากความเสียหายเพราะการตกหล่น ก่อนหน้านี้ เจฟ เบโซส์ (Jeff Bezos) ซีอีโออเมซอนดอทคอมหันมาจดสิทธิบัตรนวัตกรรมใหม่"ถุงลมนิรภัยสำหรับโทรศัพท์มือถือ"ช่วงปี 2011 โดยดึงระบบแอคเซเลโรมิเตอร์ (accelerometer) และไจโรสโคป (gyroscope) ในเครื่องมาตรวจจับว่าเครื่องกำลังร่วงหล่นหรือไม่ หากใช่ระบบจะปล่อย"ถุงลมจิ๋ว"ที่สามารถลดแรงกระแทกระหว่างเครื่องและพื้นได้
       
       รายงานระบุว่า สิทธิบัตรสุดแจ๋วเพื่อคนหวงโทรศัพท์ของซีอีโออเมซอนมีชื่อว่าการปกป้องเครื่องจากความเสียหายเพราะแรงกระแทก (PROTECTING DEVICES FROM IMPACT DAMAGE) ซึ่งถูกยื่นเสนอต่อคณะกรรมการสิทธิบัตรอเมริกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2011 แต่เพิ่งถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนเมื่อสิงหาคม 2011

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
2484 Views
Last post June 30, 2009, 01:10:16 AM
by IT
0 Replies
4092 Views
Last post July 01, 2009, 08:16:13 AM
by Reporter
0 Replies
2226 Views
Last post July 03, 2009, 10:00:42 AM
by IT
0 Replies
2088 Views
Last post July 14, 2009, 11:48:10 AM
by Reporter
0 Replies
2318 Views
Last post July 28, 2009, 09:36:11 AM
by Reporter
0 Replies
2586 Views
Last post August 07, 2009, 06:20:23 PM
by IT
0 Replies
2717 Views
Last post August 07, 2009, 06:21:59 PM
by IT
0 Replies
3182 Views
Last post January 31, 2012, 02:09:08 PM
by Nick
0 Replies
3859 Views
Last post April 05, 2012, 04:49:28 PM
by Nick
0 Replies
2455 Views
Last post May 26, 2013, 10:19:59 AM
by Nick