60 องค์กรใหญ่อเมริกันและนานาชาติขานรับพร้อมเตือนภัยผ่านระบบแจ้งเตือนของทวิตเตอร์แล้วรูปแบบการแจ้งเตือนเหตุอุบัติภัยจะมีทั้งรูปแบบข้อความสั้น text message และการแจ้งเตือนแบบ push notification เครือข่ายสังคมข้อความสั้น "ทวิตเตอร์" เปิดตัวบริการแจ้งเหตุฉุกเฉินในชื่อ "ทวิตเตอร์อะเลิร์ตส์ (Twitter Alerts)" โดยผู้ใช้ในสหรัฐฯจะได้รับข้อความเตือนภัยเหตุฉุกเฉินโดยตรงบนโทรศัพท์มือถือ เบื้องต้น 60 องค์กรใหญ่อเมริกันขานรับพร้อมเตือนภัยผ่านระบบแจ้งเตือนของทวิตเตอร์แล้ว หนึ่งในนั้นคือกาชาดอเมริกันหรือ American Red Cross และฟีมา (FEMA - Federal Emergency Management Agency) หน่วยงานรัฐอเมริกันที่ก่อตั้งขึ้นสำหรับปฏิบัติการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะภัยธรรมชาติและเหตุฉุกเฉินที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้เครือข่ายสังคมนักแชร์ข้อความสั้นอย่างทวิตเตอร์เปิดตัวบริการใหม่ที่จะเปิดช่องทางให้หน่วยงานทั้งที่เป็นหน่วยงานรัฐและเอกชนสามารถส่งข้อความเตือนภัยถึงโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้ผ่านระบบของทวิตเตอร์ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการเผยแพร่ข่าวสารของเหตุภัยพิบัติธรรมชาติหรือเหตุร้ายฉุกเฉินอื่นๆ เนื่องจากประชาชนจะสามารถรับรู้ข้อมูลทันเหตุการณ์ได้ทันท่วงที
ผู้ใช้ในสหรัฐฯที่ต้องการรับข่าวสารฉุกเฉินจะต้องลงชื่อใช้บริการ Twitter Alerts โดยรูปแบบการแจ้งเตือนเหตุอุบัติภัยจะมีทั้งรูปแบบข้อความสั้น text message และการแจ้งเตือนแบบ push notification ซึ่งเมื่อมีข้อความทวีตที่องค์กรสมาชิกทำเครื่องหมายว่าเป็นเรื่องสำคัญด้วยการติดแฮชแท็ก # ตามด้วยข้อความว่า "alert" ข้อความนั้นก็จะถูกแสดงบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือแบบอัตโนมัติ
ข้อมูลบนเว็บไซต์บริการ Twitter Alerts ระบุว่า Twitter Alerts จะทำให้ทวิตเตอร์สามารถให้บริการที่ช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับข่าวสารสำคัญแบบทันเหตุการณ์ โดยเฉพาะข้อมูลฉุกเฉินจากหน่วยงานรัฐซึ่งจะมีประโยชน์มากเมื่อเกิดเหตุวิกฤติร้ายแรงที่การสื่อสารมักพบปัญหา
Gaby Peña ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Twitter ระบุในแถลงการณ์ว่านอกจากกาชาดอเมริกันและฟีมา ยังมีอีกหลายองค์กรที่เข้าร่วมโครงการใหม่ของทวิตเตอร์มากกว่า 60 แห่ง เช่นหน่วยปฏิบัติงานเหตุฉุกเฉินในหลุยเซียนา ฟลอริดา นิวยอร์ก และโคโลราโด ที่สำคัญ องค์กรนานาชาติอย่าง World Health Organization หรือองค์การอนามัยโลก และสถานีตำรวจนครบาลกรุงโตเกียว Tokyo Metropolitan Police Department ก็จะร่วมโครงการเตือนภัยผ่านทวิตเตอร์นี้ด้วย
จุดนี้ผู้ใช้จะสามารถตั้งค่าว่าต้องการรับการแจ้งเตือนกับองค์กรใดบ้างผ่านเมนูตั้งค่าของบริการ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้เลือกแหล่งข้อมูลตามความต้องการได้ตรงจุด
การเปิดบริการใหม่ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการขยายผลของทวิตเตอร์ ในฐานะบริการที่องค์กรข่าวและภาครัฐนิยมใช้เป็นกระบอกเสียงเพื่อเผยแพร่ข่าวสารต่อสาธารณชน ซึ่งที่ผ่านมา ภัยพิบัติร้ายแรงของโลกอย่างมหันตภัยพายุแซนดี้ Superstorm Sandy และเหตุวางระเบิดงานแข่งขันมาราธอนที่บอสตัน รวมถึงวิกฤติน้ำท่วมไทยปี 2554 ล้วนเป็นช่วงเวลาที่ข้อมูลจากเครือข่ายสังคมมีค่ามหาศาล
ที่มา: manager.co.th